รวมเทคนิคเช็กทองคำแท้ ทองปลอมด้วยวิธีง่าย ๆ เช็กเองด้วยตัวเอง สังเกตไว้จะได้ไม่โดนหลอก
ในช่วงที่ราคาของทองคำค่อนข้างมีมูลค่าสูง ทำให้คนพากันซื้อ-ขายเก็งกำไร แต่ในโอกาสก็มีพวกที่ไม่ประสงค์ดีเช่นกัน เหล่ามิจฉาชีพแอบฉวยโอกาสปล่อยทองคำปลอมออกมาหลอกขายจนยากที่จะสังเกตแบบไหนจริงหรือปลอม สำหรับผู้ที่ไม่มีความชำนาญอาจจะถูกหลอกได้โดยไม่รู้ตัว
ก่อนเลือกซื้อ ทองคำ สิ่งที่ผู้ซื้อพึงต้องรู้และสังเกตมีอะไรบ้างซึ่งส่วนใหญ่แล้วทองคำแท้มักจะมีสีเหลืองทอง มีเปอร์เซ็นต์ความบริสุทธิ์สูง แต่ทองบางประเภทที่เป็นที่นิยมเหมือนกัน ที่เรียกว่า ทองเปอร์เซ็นต์ต่ำ คือ มีความบริสุทธิ์ต่ำกว่ามาตรฐานและมีธาตุอื่น ๆ ผสมอยู่มากกว่า 3.5% โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้มีความแข็งแรง ทนทาน หรือมีสีสันต่าง ๆ เช่น ทองคำขาว ทองคำเขียว ทองคำชมพู ทองคำแดง ทองคำดำ ทองคำเทา ทองคำฟ้า หรือแม้กระทั่งทองสัมฤทธิ์หรือทองเหลือง ส่วนทองปลอม เช่น ทองชุบ ทองไมครอน หรือทองหุ้ม พูดง่าย ๆ ก็คือ สิ่งของที่ไม่มีส่วนผสมของทองอยู่เลย เป็นเพียงการชุบหรือเคลือบภายนอกให้ดูคล้ายทองเท่านั้น
วิธีเช็กทองคำแท้
สำหรับผู้ที่ไม่มีประสบการณ์ในการดูทองคำแท้มาก่อน ซึ่งวิธีการพิสูจน์ทองคำแม้ด้วยตัวเอง สามารถทำได้โดยวิธีการตามนี้
ดูโลโก้ตราประทับร้านและเลขเปอร์เซ็นต์
จากการควบคุมมาตรฐานโดยสมาคมค้าทองคำ ทำให้ปกติแล้วทองคำแท้จะมีการตีตราของร้าน (ยี่ห้อหรือโลโกร้าน) หรือแหล่งผลิตเอาไว้อย่างชัดเจนเพื่อเป็นการการันตีแหล่งที่มา สังเกตจากการดูตามข้อหรือห่วงของทอง รวมไปถึงการแจ้งตัวเลขบอกความบริสุทธิ์ของทองเอาไว้ด้วย เช่น 14k 18k 22k 24k หรือแสดงเป็นเปอร์เซ็นต์ เช่น 70% 80% 90% โดยจะปั๊มไว้ตรงบริเวณต่าง ๆ เช่น บนผิวหน้าของทองแท่ง บริเวณห่วงใกล้ตะขอของสร้อย ด้านในแหวน หรือด้านหลังต่างหู เป็นต้น อาจจะต้องใช้แว่นขยายหรือนำไปให้ที่ร้านทองเช็กให้
น้ำหนัก
โดยใช้เครื่องชั่งทองที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายสำหรับการค้า จะมีความแม่นยำและเชื่อถือได้ โดยหน่วยมาตรฐานที่เป็นสากลของสมาคมค้าทองคำ ได้กำหนดน้ำหนักของทองรูปพรรณ 96.5% เอาไว้ดังนี้
ทอง 1 สลึง หนักประมาณ 3.79-3.81 กรัม
ทอง 2 สลึง หนักประมาณ 7.58-7.62 กรัม
ทอง 1 บาท หนักประมาณ 15.16-15.24 กรัม
ทอง 2 บาท หนักประมาณ 30.32-30.4 กรัม
ส่วนทองปลอมนั้นน้ำหนักจะไม่ได้เท่ากับมาตรฐานที่กำหนดไว้ เนื่องจากต้องคำนึงถึงความเหมาะสมในการขึ้นรูปมากกว่า จึงมีน้ำหนักที่แตกต่างกันออกไป
กัดหรือใช้เล็บจิกที่เนื้อทอง
ทองคำแท้จะมีความอ่อนตัวสูง เพียงแค่ใช้เล็บจิกหรือลองกัดเบาๆที่เนื้อทอง ก็สามารถยุบตัวหรือมีรอยบุ๋มเกิดขึ้น แต่วิธีนี้อาจจะทำให้ทองเสียรูปได้ แต่อาจจะแยกได้ยากหากเป็นทองคำแท้กับทองคำเปอร์เซ็นต์ต่ำ ส่วนทองปลอมจะมีความแข็งมากกว่า จะจิกหรือกัดก็แทบไม่เข้าหรือไม่บุบเลย
ตรวจข้อต่อขอบทอง
ทองคำแท้นั้นจะแตกต่างจากทองคำปลอมตรงที่ ทองคำแท้นั้นจะมีสีทองโดยธรรมชาติ แต่ทองคำปลอมจะใช้การชุบ เพราะฉะนั้นให้ลองสังเกตบริเวณรอยต่อว่ามีความเป็นขุยหรือหลุดลอกใดๆ หรือไม่ ถ้าหากว่าเป็นเช่นนั้นก็มั่นใจได้เลยว่านี่คือทองปลอมอย่างแน่นอน
แม่เหล็ก
ทองคำแท้นั้นจะไม่สามารถถูกแม่เหล็กดูดจนติดได้ หากมีการขยับหรือถูกแม่เหล็กดูดจนติด แสดงว่าทองชิ้นนั้นสุ่มเสี่ยงที่จะถูกสอดไส้โลหะอื่นๆ สอดไส้ไว้ด้านในอย่างแน่นอน
โยนลงกระจก
ด้วยความที่ทองคำแท้มีเนื้อนุ่ม ไม่แข็งเหมือนเหล็กหรือทองแดง เมื่อโยนลงบนกระจกเบา ๆ จะเกิดเสียงที่นุ่ม ไม่แหลมดังขึ้นมา แต่ถ้าเป็นทองปลอมจะเกิดเสียงดังแหลม
ใช้ตะไบ
หากเป็นทองแท้ หรือทองเปอร์เซ็นต์ต่ำ จะสามารถตะไบเนื้อทองด้านนอกออกมาจนเห็นผิวข้างในได้ ถ้าเป็นทองคำแท้ ด้านในก็จะเป็นสีเหลืองของทองคำบริสุทธิ์ แต่ถ้าตะไบออกมาแล้วเห็นเป็นสีวัสดุอื่น ๆ ค่อนข้างมั่นใจว่าเป็นทองชุบ แต่ก็จะจะทำให้เสียน้ำหนักทองไปด้วย
ดังนั้นหากลองทดสอบด้วยวิธีการทั้งหมดแล้วยังรู้สึกไม่ชัวร์ แนะนำว่าให้ทำการปรึกษาร้านทองเพื่อตรวจสอบทองคำแท้ เพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญด้านทองคำ ซึ่งมีกระบวนการเฉพาะทางที่สามารถพิสูจน์ได้ดีกว่าวิธีที่จะเสี่ยงต่อความเสียหาย ซึ่งถ้าเราไม่ชำนาญพอมีหวังเสียของอย่างแน่นอน
ขอบคุณข้อมูล สมาคมค้าทอง , tcgold , ทองคำราคา.com
คลิปแนะนำอีจัน
ลูกสาวประกาศ หาแฟนให้พ่อค่ะ