
นายสุวัฐน์ วงศ์สุวัฒน์ รองอธิบดีกรมประมง ในฐานะโฆษกกรมประมง เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ว่า เมื่อหลังเวลา 24.00 น. ของคืนวันที่ 14 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา เข้าสู่เช้าวันที่ 15 มิถุนายน 2568 ซึ่งเป็นเวลาที่สิ้นสุดการบังคับใช้มาตรการบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำมีไข่ วางไข่ เลี้ยงตัวอ่อนในทะเลอ่าวไทย ประจำปี 2568 (ปิดอ่าวไทย) ในช่วงที่ 2 วันที่ 16 พ.ค. – 14 มิ.ย. 68


เจ้าหน้าที่กรมประมง นำโดยนายสันติภาพ มะเหศวร เจ้าพนักงานประมงชำนาญงาน ร่วมกับหน่วยป้องกันและปราบปรามประมงทะเลอ่าวน้อย (ประจวบคีรีขันธ์) ศูนย์ป้องกันและปราบปรามประมงทะเลสมุทรปราการ กองตรวจการประมง กรมประมง ได้ออกปฏิบัติงานควบคุมการทำประมงตามมาตรการบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำมีไข่ วางไข่ เลี้ยงตัวอ่อนในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเป็นแหล่งทำการประมงปลาทู พบว่า มีเรือประมงได้เริ่มทำการประมงในพื้นที่ดังกล่าว โดยใช้เครื่องมือประเภทอวนลากคู่ อวนล้อมจับ อวนครอบหมึก และ อวนครอบปลากะตัก โดยเฉพาะเครื่องมืออวนล้อมจับ ผ่านไป 1 คืน ชาวประมงสามารถจับปลาลัง และ ปลาทู ได้สูงสุดถึง 10,000 กิโลกรัม คิดเป็นมูลค่า 500,000 บาท (จำนวน 50 บาท/กิโลกรัม) สร้างรายได้ให้พี่น้องชาวประมงเป็นอย่างมาก และเพี่อเป็นการบริหารจัดการทรัพยากรปลาทูอย่างต่อเนื่อง

กรมประมงมีมาตรการปิดอ่าวไทยตอนใน (ปิดอ่าวไทยรูปตัว ก) ใน 2 ห้วงระยะเวลา ครอบคลุมพื้นที่ 8 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี สมุทรสงคราม สมุทรสาคร กรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ ฉะเชิงเทรา และชลบุรี เพื่อเปิดโอกาสให้ปลาได้เจริญเติบโตตามวงจรชีวิตปลาทู ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการทรัพยากรประมงให้เกิดความยั่งยืนต่อไป
