“แห่เทียนอุบล 68” สุดคึกคัก! นักท่องเที่ยวทะลัก คาดเงินสะพัดกว่าพันล้านบาท

ประเพณีแห่เทียนเข้าพรรษา ปีที่ 124 เปิดฉากยิ่งใหญ่กลางเมืองอุบลราชธานี ต้นเทียนอลังการกว่า 46 ขบวน นักท่องเที่ยวหลั่งไหลร่วมชมนับหมื่นคน คาดรายได้ท่องเที่ยวกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่นนับพันล้านบาท

(วันนี้ 12 ก.ค.68) งานประเพณีแห่เทียนพรรษา จังหวัดอุบลราชธานี ปีที่ 124 อย่างยิ่งใหญ่ อลังการ วิจิตรตระกาลตาท่ามกลางนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติที่ร่วมงานนับหมื่นคน

ปีนี้มีการจัดขบวนต้นเทียนอย่างอลังการรวม 45 ขบวน แบ่งเป็น 3 ประเภท ได้แก่ เทียนแกะสลัก เทียนติดพิมพ์  เทียนโบราณ โดยต้นเทียนแต่ละต้นได้รับการตกแต่งอย่างวิจิตร พร้อมขบวนแสดงศิลปวัฒนธรรมจากแต่ละคุ้มวัดรวมกว่า 35 ขบวนแห่ ซึ่งเล่าเรื่องราวจากพุทธประวัติ ตำนานพื้นบ้าน และแนวคิดร่วมสมัย ดึงดูดสายตาผู้ชมสองข้างทางอย่างล้นหลาม ทั้งกลางวันและกลางคืน

งานจัดต่อเนื่อง 5 วัน 2 คืน คึกคักทั่วเมือง เทศกาลแห่เทียนปีนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 9–13 กรกฎาคม 2568 โดยมีไฮไลต์สำคัญ ดังนี้

  • วันที่ 9 ก.ค.68 : คืนรวมต้นเทียนจากทุกอำเภอ จำนวน 46 ต้น
  • วันที่ 10-11 ก.ค.68 : ขบวนแห่เทียนกลางวัน–กลางคืน พร้อมการแสดงแสง สี เสียง
  • วันที่ 12-13 ก.ค.68 : ชมต้นเทียนโบราณ และต้นเทียนที่ได้รับรางวัลอย่างใกล้ชิด

นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมสร้างสรรค์มากมาย เช่น

  • การออกร้านสินค้า OTOP
  • การแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน
  • งาน VIJIT GASTRONOLIGHT @อุบลราชธานีศรีศิลป์ ถ่ายทอดแนวคิด “Must See” และ “Must Taste” จากแคมเปญ 5 Must Do in Thailand ผ่านงานดีไซน์ แสงสี และกลิ่นอายวัฒนธรรมท้องถิ่นใน 11 จุดสำคัญของเมือง โดยจัดตั้งแต่วันที่ 7-16 ก.ค.68

เศรษฐกิจสะพัด หอการค้าคาดเงินหมุนเวียนกว่า 1,000 ล้านบาท

หอการค้าจังหวัดอุบลราชธานี ประเมินว่า งานแห่เทียนปีนี้จะก่อให้เกิด เงินสะพัดในพื้นที่ไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวด้าน ค่าที่พัก อาหาร การเดินทาง สินค้าท้องถิ่น กิจกรรมการแสดงและการท่องเที่ยว

โรงแรมหลายแห่งในตัวเมืองมีอัตราการเข้าพัก เต็ม 100% ตลอดช่วงเทศกาล การจ้างงานทางตรงและทางอ้อมเกิดขึ้นทั่วพื้นที่ ตั้งแต่ช่างฝีมือ ศิลปิน พ่อค้าแม่ค้า ไปจนถึงผู้ประกอบการร้านอาหารและภาคบริการ

พลัง Soft Power ไทย

ต้นเทียนพรรษาไม่ได้เป็นเพียงวัตถุที่ถวายพระสงฆ์ หากแต่เป็นสื่อกลางแห่งศิลปะ ความศรัทธา และอัตลักษณ์ท้องถิ่น โดยเฉพาะในจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งมีประวัติการจัดงานแห่เทียนมายาวนานกว่า 124 ปี ขบวนเทียนในยุคปัจจุบันกลายเป็นพื้นที่แสดงออกของ ศิลปินท้องถิ่น ช่างแกะเทียน เยาวชน และชุมชน โดยมีการเล่าเรื่องผ่านเทียนอย่างสร้างสรรค์ มีการใช้เทคนิคสมัยใหม่ผสมผสานกับภูมิปัญญาดั้งเดิม จนกลายเป็นเทศกาลวัฒนธรรมที่ทรงพลัง และเป็น Soft Power ของไทย ที่ส่งออกไปสู่สายตานานาชาติ

 งานแห่เทียน ห้องเรียนชุมชน  พื้นที่สร้างคน พัฒนาท้องถิ่น

กระบวนการเตรียมงานแห่เทียนใช้เวลาหลายเดือน โดยเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้เรียนรู้ทักษะด้านศิลปะ งานช่าง และการทำงานร่วมกัน ซึ่งกลายเป็น “ห้องเรียนกลางชุมชน” ที่มีทั้งการเรียนรู้ ลงมือทำ และส่งต่อภูมิปัญญาอย่างแท้จริง