แพงมาก! ค่าไฟงวด 4 เดือน (ม.ค.-เม.ย.67) ทะลุ 4.18 บาท/หน่วย

จ่ายบิลทีหน้ามืด! กกพ. เคาะค่าเอฟทีรอบ ม.ค.-เม.ย.67 ที่ 39.72 สตางค์ต่อหน่วย ส่งผลค่าไฟฟ้า 4.18 บาทต่อหน่วย ตามมติ ครม.

หลังจากที่คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) และคณะรัฐมนตรี (ครม.) ดำเนินการปรับโครงสร้างราคาก๊าซธรรมชาติที่ใช้ในโรงแยกก๊าซ และริเริ่มมาตรการลดค่าใช้จ่ายด้านไฟฟ้าจากกระทรวงพลังงาน ตามการคำนวณปกติของค่าเอฟทีในช่วงเดือน ม.ค.-เม.ย.67 ทำให้ค่าเอฟทีลดลงจาก 89.55 สตางค์ต่อหน่วยเป็น 39.72 สตางค์ต่อหน่วย ซึ่งทำให้ค่าไฟฟ้าไม่เกิน 4.20 บาทต่อหน่วย ตามมติของครม. นอกจากนี้ยังคำนึงถึงต้นทุนการผลิตก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) อย่างเหมาะสมตามมติของ กพช.

นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) ในฐานะโฆษกของคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ได้เปิดเผยว่า กกพ. ในการประชุมครั้งที่ 2/2567 (ครั้งที่ 887) เมื่อวันที่ 10 ม.ค.67 ได้มีมติอนุมัติค่าเอฟทีขายปลีกสำหรับช่วงเดือนมกราคมถึงเมษายน 2567 ที่ 39.72 สตางค์ต่อหน่วย โดยมีการปรับปรุงวิธีการคำนวณตามมาตรการลดค่าไฟฟ้าของกระทรวงพลังงานที่ กพช. อนุมัติในการประชุมครั้งที่ 3/2566 (ครั้งที่ 166) เมื่อวันที่ 13 ธ.ค.66 และตามที่ ครม. ได้รับทราบในการประชุมครม. เมื่อวันที่ 19 ธ.ค.66 โดยมีรายละเอียดดังนี้

1.ในวันที่ 29 พ.ย.66 กกพ. ได้มีมติในการประชุมครั้งที่ 53/2566 (ครั้งที่ 881) ให้ค่าเอฟทีขายปลีกสำหรับช่วงเดือน ม.ค.-เม.ย.67 เท่ากับ 89.55 สตางค์ต่อหน่วย ซึ่งส่งผลให้ค่าไฟฟ้าที่เรียกเก็บจากผู้ใช้ไฟฟ้าทุกประเภทเฉลี่ยอยู่ที่ 4.68 บาทต่อหน่วย ตามโครงสร้างการคิดราคา Pool Gas แบบเดิมตามหลักเกณฑ์ปัจจุบัน

2.มีการปรับปรุงตามมาตรการที่ให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) รับภาระเงินคงค้างสะสมสำหรับช่วงเดือนม.ค.-เม.ย.67 จำนวน 15,963 ล้านบาท เพื่อช่วยลดค่าเอฟทีลง 25.37 สตางค์ต่อหน่วย ทำให้ค่าไฟฟ้าลดลงเป็น 4.43 บาทต่อหน่วย

3.ปรับปรุงราคาประมาณการ Spot LNG จาก 16.9 ดอลลาร์สหรัฐต่อล้านบีทียู เป็น 14.3 ดอลลาร์สหรัฐต่อล้านบีทียู ทำให้ราคา Pool Gas ลดลงจาก 387 บาทต่อล้านบีทียู เป็น 365 บาทต่อล้านบีทียู ส่งผลให้ค่าเอฟทีลดลง 9.98 สตางค์ต่อหน่วย และค่าไฟฟ้าลดลงเหลือ 4.34 บาทต่อหน่วย

4.มีการปรับปรุงตามมาตรการปรับราคาก๊าซธรรมชาติเข้าและออกจากโรงแยกก๊าซธรรมชาติเป็นราคา Pool Gas ซึ่งรวมราคาก๊าซธรรมชาติจากแหล่งอื่นๆ ด้วย ยกเว้นก๊าซธรรมชาติที่นำไปใช้ในการผลิต LPG ให้ใช้ราคาก๊าซธรรมชาติอ่าวไทย (Gulf Gas) ส่งผลให้ Pool Gas ลดลงจาก 365 บาทต่อล้านบีทียู เป็น 343 บาทต่อล้านบีทียู ทำให้ค่าเอฟทีลดลง 10.01 สตางค์ต่อหน่วย และค่าไฟฟ้าลดลงเหลือ 4.23 บาทต่อหน่วย

5.มีการเรียกเก็บ Shortfall กรณีที่ผู้ผลิตก๊าซในอ่าวไทยไม่สามารถส่งมอบก๊าซได้ตามเงื่อนไขในสัญญาซื้อขายก๊าซธรรมชาติในช่วงปี 2563-65 จากบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) และให้ ปตท. ส่งผ่านเงิน Shortfall จำนวน 4,300 ล้านบาท โดยให้นำมาลดค่าก๊าซในรอบเอฟทีงวดเดือน ม.ค.-เม.ย.67 ทำให้ราคา Pool Gas ลดลงจาก 343 บาทต่อล้านบีทียู เป็น 333 บาทต่อล้านบีทียู ส่งผลให้ค่าเอฟทีลดลงได้ 4.47 สตางค์ต่อหน่วย และค่าไฟฟ้าลดลงเหลือ 4.18 บาทต่อหน่วย

นอกจากนี้ ครม. ยังเห็นชอบการช่วยเหลือค่าไฟฟ้าของกลุ่มผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัยที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือนตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ โดยให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และกิจการไฟฟ้าสวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือ ตรึงอัตราค่าไฟฟ้าในช่วงเดือนม.ค.-เม.ย.67 ให้กับผู้ใช้ไฟฟ้ากลุ่มดังกล่าวที่อัตรา 3.99 บาทต่อหน่วย โดยใช้เงินงบประมาณรายจ่ายประจำปี 67 ของงบกลางรายการสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นจากคณะรัฐมนตรี วงเงินรวม 1,950 ล้านบาท

สำนักงาน กกพ. จึงได้สรุปสมมุติฐานการประมาณการค่าเอฟทีรอบ ม.ค.-เม.ย.67 ที่ได้รับการปรับปรุงตามมติของ กพช. และ ครม. ซึ่งได้นำไปสู่การพิจารณาของ กกพ. ในวันที่ 10 ม.ค.67 ตามตารางนี้

“แม้ราคาค่าไฟฟ้าช่วงเดือนม.ค.-เม.ย.67 จะลดลงตามวิธีการคำนวณค่า FT ใหม่ที่ กพช. และคณะรัฐมนตรีอนุมัติ แต่ต้นทุนค่าไฟฟ้าในอนาคตจะขึ้นอยู่กับราคาและปริมาณการใช้ก๊าซธรรมชาติซึ่งเป็นเชื้อเพลิงหลัก ด้วยเหตุนี้ สำนักงาน กกพ. ต้องเฝ้าติดตามการส่งก๊าซธรรมชาติจากอ่าวไทยและเมียนมาอย่างใกล้ชิด เพื่อการจัดหา LNG ที่เพียงพอและมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับความต้องการในประเทศ รวมทั้งสถานการณ์ตลาดโลก นอกจากนี้ ราคาค่าไฟฟ้ายังต้องคำนึงถึงหนี้ FT ที่ค้างชำระและต้องคืนให้กับ กฟผ. และ ปตท. ภายในระยะเวลาที่เหมาะสม จึงอยากให้ผู้ใช้ไฟฟ้าใช้ไฟอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อลดการนำเข้า LNG และลดความผันผวนของราคาพลังงาน” นายคมกฤช กล่าว


ข่าวน่าสนใจอื่น: