แบงก์ชาติ จับตาผลกระทบ “ท่องเที่ยว-อสังหาฯ” รับเหตุแผ่นดินไหว

ตามใกล้ชิด! “แบงก์ชาติ” รอประเมินผลกระทบเหตุแผ่นดินถล่ม ชี้ “ท่องเที่ยว” เสี่ยงต่างชาติยกเลิกตั๋ว-จองที่พัก ฟาก “อสังหาฯ” จับตา “คอนโดสูง” ส่อชะลอเช่า-ซื้อ รับนักลงทุนกังวลความปลอดภัย

วันนี้ (31 มี.ค.68) นายสักกะภพ พันธ์ยานุกูล ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยถึงสถานการณ์แผ่นดินไหว เมื่อวันที่ 28 มี.ค.68 จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย ว่า ขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่ ธปท. จะให้ตัวเลขและผลต่อเศรษฐกิจโดยรวม เนื่องจากผลกระทบสามารถส่งผ่านในหลายช่องทาง ซึ่งในแง่ผลกระทบทางตรงจะส่งผ่านทางทรัพย์สินและกิจกรรมทางเศรษฐกิจหยุดชะงักไป

“ธปท. เห็นตัวเลขความเสียหายที่ทยอยส่งเข้ามาต่อเนื่อง จึงต้องติดตามตัวเลขและจะได้ดำเนินการรายงานต่อไป นอกจากนี้ มีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นและพฤติกรรมต่างๆ ของธุรกิจและประชาชนที่อาจเปลี่ยนไป ”นายสักกะภพกล่าว

นายสักกะภพ พันธ์ยานุกูล ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)

นายสักกะภพกล่าวว่า ซึ่งตรงนี้จะกระทบต่อช่องทางหลักๆ โดยเฉพาะภาคท่องเที่ยว เนื่องจากต้องยอมรับว่า ช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา มีภาพข่าวแผ่นดินไหวและตึกถล่มที่มีความรุนแรง ส่งผลให้เกิดความกังวลของนักท่องเที่ยวบ้าง ในแง่การชะลอ หรืออาจยกเลิกการจองตั๋วเครื่องบินและที่พัก เรื่องนี้คงต้องติดตามว่าความเชื่อมั่นและเซนติเมนต์จะกลับมาได้เร็วขนาดไหน

“โดยปกติผลกระทบแบบนี้จะใช้ระยะเวลาไม่นานนัก ถ้าเทียบเคียงกับเหตุการณ์ที่ไทยเกิดขึ้นในอดีต และจากการพูดคุยล่าสุดยังไม่เห็นการยกเลิกที่มากขึ้นกว่าปกติ ดังนั้น ยังเป็นช่องทางที่ติดตามต่อไป”นายสักกะภพกล่าว

นายสักกะภพกล่าวว่า ขณะเดียวกัน ภาคอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะอาคารสูง อาจได้รับผลกระทบจากความกังวลของประชาชน นักลงทุน ในเรื่องของโครงสร้างและความปลอดภัย อาจส่งผลให้เกิดการชะลอในแง่ของการเช่าและซื้อของอาคารสูง

ซึ่งตรงนี้ ธปท.ได้พูดคุยร่วมกับภาคอสังหาริมทรัพย์ ที่ผ่านมา เป็นภาคที่ฟื้นตัวค่อนข้างช้า รวมถึงปัญหาที่อุปทานคงค้างยังอยู่ในจุดที่มีคอนโดที่เป็นสูงร่วมอยู่ด้วย ดังนั้น เหตุแผ่นดินไหวเป็นเรื่องการซ้ำเติมเรื่องของปัญหาที่ภาคอสังหาฯ เผชิญอยู่ด้วย

“มองไปข้างหน้าความเชื่อมั่นและตัวมาตรการดูแลเรื่องความปลอดภัยโครงสร้างต่างๆ จึงเป็นสิ่งที่ต้องติดตามและดูว่าเรื่องของเซนติเมนต์จะกลับมาขนาดไหน”นายสักกะภพกล่าว

นายสักกะภพกล่าวว่า นอกจากนี้ ภาคการบริโภคของภาคเอกชน จะเห็นเรื่องของการชะลอแต่คงเป็นช่วงระยะสั้น เพราะประชาชนต้องใช้เงินบางส่วนในการเข้าไปซ่อมสร้างอาคารที่มีความเสียหาย

อย่างไรก็ดี ส่วนหนึ่งในแง่ของผลกระทบของสภาพคล่องคงจะได้รับกลับมาจากเบี้ย ในเรื่องการเคลมประกัน อีกทั้งมาตรการภาครัฐที่เข้ามาช่วยเหลือค่อยข้างเยอะ

“เรื่องของแผ่นดินไหวเป็นผลกระทบระยะสั้นในช่วงแรก เพราะฉะนั้นรายได้ของประชาชนยังไม่ได้รับผลกระทบในวงกว้าง”นายสักกะภพกล่าว

นายสักกะภพกล่าวว่า ขณะที่ภาคธุรกิจจะเห็นว่าไม่ได้เกิดการหยุดชะงัก รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ก็ยังดำเนินได้อย่างต่อเนื่อง เพราะฉะนั้น ในแง่ของรายได้ของประชาชนก็ยังคิดว่ามีผลกระทบไม่ได้มากนัก จึงทำให้การบริโภคได้รับผลกระทบในระยะสั้นและจะมีการฟื้นตัวในระยะต่อไป

ทั้งนี้ ยังต้องติดตามสถานการณ์ว่าจะเป็นอย่างไรต่อไปและมีการพัฒนาการอื่นๆ ที่จะเข้ามากระทบต่อเศรษฐกิจ เช่น พรุ่งนี้ (1 เม.ย.68) นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะประกาศเรื่องการเก็บภาษีเพิ่มเติม จึงต้องติดตามผลต่อเนื่อง