ธอส. จัด 5 สินเชื่อบ้านดอกเบี้ยต่ำปี 2568 กู้ 1 ล้าน ผ่อนเริ่มต้น 3,000 บาทต่อเดือน

ธอส. เปิดตัวสินเชื่อบ้าน 5 รูปแบบ อัตราดอกเบี้ยต่ำสุดเพียง 1.79% กู้ 1 ล้านบาท ผ่อนเริ่มต้น 3,000 บาทต่อเดือน สมัครได้ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 มี.ค. 2568

ธอส.จัดหนัก กดอัตราดอกเบี้ยต่ำเพื่อช่วยคนไทยมีบ้าน ต้อนรับปีใหม่2568 ออก 5 ผลิตภัณฑ์สินเชื่อเจาะทุกคนทุกระดับชั้น กู้จำนวนเงิน 1 ล้านบาท ผ่อนชำระค่างวดเดือนละ 3 พันบาท

นายกมลภพ วีระพละ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ในปีใหม่ 2568 นี้ ธอส.ได้ออกผลิตภัณฑ์สินเชื่ออัตราดอกเบี้ยหลายรายการ เพื่อให้ประชาชนและลูกค้าของธนาคารสามารถเลือกใช้สินเชื่อได้ตามความเหมาะสมและความสามารถใช้การชำระหนี้ ประกอบด้วย 

1. สินเชื่อบ้าน Life Begins with GHB สำหรับสมาชิกสภา / สมาคมวิชาชีพที่ต้องการกู้เพื่อซื้อ ปลูกสร้าง รีไฟแนนซ์ อัตราดอกเบี้ยปีแรกเพียง 1.79% ต่อปี เฉลี่ย 3 ปีแรก เท่ากับ 2.70% กู้ 1 ล้านบาท ผ่อนชำระเงินงวดปีแรกเริ่มต้นเพียงเดือนละ 3,000 บาท เท่านั้น

2. สินเชื่อบ้าน GHB Precious สำหรับผู้ที่มีรายได้ตั้งแต่ 70,000 บาทต่อเดือนขึ้นไป อัตราดอกเบี้ยปีแรกเพียง 1.79% ต่อปี เฉลี่ย 3 ปีแรก เท่ากับ 2.70% กู้ 1 ล้านบาท ผ่อนชำระเงินงวดปีแรกเริ่มต้นเพียงเดือนละ 3,000 บาท 

3.สินเชื่อบ้านอยู่เย็นเป็นสุข สำหรับผู้ที่ต้องการซื้อ ปลูกสร้าง และปรับปรุงที่อยู่อาศัยที่ช่วยประหยัดพลังงาน อัตราดอกเบี้ยปีแรกเพียง 2.20% ต่อปี เฉลี่ย 3 ปีแรก เท่ากับ 2.90% กู้ 1 ล้านบาท ผ่อนชำระเงินงวดปีแรกเริ่มต้นเพียงเดือนละ 3,200 บาท

4. สินเชื่อบ้านสวัสดิการ สำหรับผู้ที่เป็นลูกค้าสวัสดิการกับหน่วยงานที่ทำข้อตกลงโครงการสวัสดิการเงินกู้ที่อยู่อาศัยประเภทไม่มีเงินฝาก อัตราดอกเบี้ยปีแรกเพียง 2.30% ต่อปี เฉลี่ย 3 ปีแรก เท่ากับ 2.90% 

กู้ 1 ล้านบาท ผ่อนชำระเงินงวดปีแรกเริ่มต้นเพียงเดือนละ 3,200 บาท 

และ 5. สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย สำหรับผู้ที่ต้องการกู้เพื่อซื้อ ปลูกสร้าง ต่อเติม หรือซ่อมแซม อัตราดอกเบี้ยปีแรกเพียง 2.50% ต่อปี เฉลี่ย 3 ปีแรก เท่ากับ 3.20% กู้ 1 ล้านบาท ผ่อนชำระเงินงวดปีแรกเริ่มต้นเพียงเดือนละ 3,300 บาท ผู้ที่สนใจสามารถยื่นขอสินเชื่อได้แล้ว ณ สาขาธนาคารทั่วประเทศ ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 31 มี.ค. 2568 อนุมัติและทำนิติกรรมภายในวันที่ 30 เม.ย. 2568 

“ตลอดระยะเวลากว่า 71 ปีที่ผ่านมา ธอส.ได้ทำให้คนไทยมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองมาแล้วมากกว่า 4.6 ล้านครอบครัว และเพื่อลูกค้ามีความมั่นใจว่า หากในอนาคตเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น บ้านที่ตนเองผ่อนชำระมาตลอดนั้น จะได้รับการส่งต่อไปยังทายาทได้ จึงขอแนะนำทำประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อ โดยบริษัทประกันจะเป็นผู้ชำระหนี้ที่เหลืออยู่ให้กับทางธนาคารตามทุนประกันที่ระบุเอาไว้ในสัญญา ทำให้ทายาทของผู้ขอสินเชื่อไม่ต้องรับภาระหนักในการชำระหนี้ต่อ ถือเป็นอีก 1 แนวทางในการมีบ้านที่มั่นคงและยั่งยืนได้”นายกมลภพ กล่าว