ขันเงิน ไทยเทเนียม ทุ่ม 650 ล้านบาท ซื้อหุ้น MPIC ดันราคาหุ้นพุ่ง

ขันเงิน ไทยเทเนียม ทุ่ม 650 ล้านบาท ซื้อหุ้น MPIC ขึ้นแท่นผู้ถือหุ้นใหญ่ ดันราคาหุ้นพุ่ง 29.61% ฟันกำไรแล้วอื้อซ่า

บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) หรือ MAJOR แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า ตามที่มติคณะกรรมการของบริษัทอนุมัติการเข้าทําบันทึกข้อตกลงการซื้อขายหุ้นสามัญทั้งหมดที่บริษัทถืออยู่ใน บริษัท เอ็ม พิคเจอร์ส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จํากัด (มหาชน) หรือ MPIC จำนวน 1,202,130,480 หุ้น 

มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท คิดเป็นจำนวน 92.46% ของหุ้นที่ออกจำหน่ายแล้วทั้งหมดของ MPIC ให้กับ นายชินวัฒน์ อัศวโภคี และ/หรือ บุคคลที่ นายชินวัฒน์ มอบหมาย (ผู้ซื้อ) ซึ่งไม่ใช่บุคคลที่เกี่ยวโยงกันของบริษัท ในราคารวมทั้งสิ้น 650 ล้านบาท หรือคิดเป็นมูลค่าหุ้นละ 0.54 บาท โดยประมาณนั้น

บริษัทขอแจ้งให้ทราบว่า จากสัญญาแปลงหนี้ใหม่ระหว่าง นายชินวัฒน์ อัศวโภคี และ นายขันเงิน เนื้อนวล (ขันเงิน ไทเทเนียม) ฉบับลงวันที่ 15 พ.ค.66 โดย นายชินวัฒน์ ได้โอนสิทธิและหน้าที่ภายใต้บันทึกข้อตกลงการซื้อขายหุ้น ให้แก่ นายขันเงิน เนื้อนวล นั้น บริษัทได้เข้าลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้นสามัญทั้งหมดที่บริษัทถืออยู่ใน MPIC กับ นายขันเงิน ซึ่งไม่ใช่บุคคลที่เกี่ยวโยงกันของบริษัท เป็นที่เรียบร้อยแล้วในวันที่ 22 พ.ค.66

ด้าน MPIC แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า ในวันที่ 22 พ.ค.66 บริษัท ได้รับทราบการแสดงความประสงค์ของ MAJOR ในการดำเนินการลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้นเพื่อขายหุ้นสามัญทั้งหมดที่ MAJOR ถืออยู่ใน MPIC ให้กับ นายขันเงิน 

ซึ่งไม่ใช่บุคคลที่เกี่ยวโยงกันของ MAJOR จำนวน 1,202,130,480 หุ้น หรือคิดเป็น 92.46% ของหุ้นที่ออกจำหน่ายแล้วทั้งหมดของ MPIC ในราคารวมทั้งสิ้น 650 ล้านบาท หรือคิดเป็นมูลค่าหุ้นละ 0.54 บาท โดยประมาณ

ทั้งนี้ เมื่อรายการข้างต้นสามารถดำเนินการแล้วเสร็จจะทำให้โครงสร้างผู้ถือหุ้นใหญ่ของ MPIC เปลี่ยนแปลงไป โดย นายขันเงิน จะขึ้นเป็นผู้ถือหุ้นอันดับ 1 ของ MPIC

นายขันเงิน เผยว่า ในฐานะผู้ซื้อได้ให้ นายชินวัฒน์ ซึ่งเป็นที่ปรึกษา เข้าเจรจาและทำ MOU จะซื้อขายหุ้น MPIC ให้กับตน ซึ่งช่วงนั้นมีผู้สนใจหลายรายจึงจำเป็นต้องหาคนเป็นตัวแทนจับจองซื้อให้เอาไว้ก่อน เพื่อให้เกิดสัญญา 

เมื่อเกิดความชัดเจนในการซื้อขายหุ้น ตนในฐานะผู้ซื้อที่แท้จริงจึงเข้าทำสัญญาซื้อขายในนามตนเอง และการตัดสินใจเข้าสนใจซื้อหุ้น MPIC ในครั้งนี้ เนื่องจากธุรกิจของ MPIC สอดคล้องกับธุรกิจบันเทิงที่ทำอยู่ และธุรกิจอื่นๆ ในอนาคต

สำหรับธุรกิจเดิมของ MPIC ไม่ว่าจะเป็นการจัดซื้อลิขสิทธิ์ภาพยนตร์ไทยและต่างประเทศ รวมถึงธุรกิจผลิตภาพยนตร์ไทยจะยังดำเนินการตามปกติ โดยที่ MAJOR ยังคงเป็นพันธมิตรเช่นเดิม และจะเน้นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจบันเทิงให้ครอบคลุมมากขึ้น

เช่น การจัดงาน การจัด Event ไม่ว่าจะเป็นงานเพลง หรือ Concert ต่างๆ ทั้งศิลปินไทยและศิลปินต่างชาติ เพื่อให้ MPIC เป็นบริษัทบันเทิงที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ครอบคลุมในหลากหลายมิติ

คลิปอีจันแนะนำ
อีจันอยากเจอ ไพ่พรหมญาณ ศาสตร์ที่ทั่วโลกยอมรับ