นายกฯไฝว้ให้ ค่าแรงใหม่ขึ้นแค่ 2-16 บาท โวย แค่ซื้อไข่สักฟอก ยังไม่พอ

โดนใจเต็มๆ นายกฯไฝว้ให้ ค่าแรงใหม่ขึ้นแค่ 2-16 บาท โวย แค่ซื้อไข่สักฟอก ยังไม่พอ ขอนายจ้างนึกถึงใจเขาใจเรา ให้ความเป็นธรรมกับผู้ใช้แรงงานด้วย

โดนเบรกหัวทิ่ม! กรณีที่ประชุมคณะกรรมการกำหนดค่าจ้าง หรือที่รู้จักกันในชื่อ “บอร์ดค่าจ้าง” ชุดที่ 22 จัดขึ้น เพื่อพิจารณาการปรับเพิ่มอัตราค่าจ้างขั้นต่ำสำหรับปี 66 นายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน ได้เป็นประธานในการประชุมนี้ ผลปรากฎว่า ที่ประชุมเห็นชอบปรับขึ้น จำนวน 77 จังหวัด เฉลี่ยอยู่ที่ 2-16 บาทนั้น

ทำงาน กทม.พอใช้ไหม? ค่าแรงขั้นต่ำใหม่ ขึ้น 10 บาท เป็น 363 บาท/วัน

ด้าน นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ระบุว่า ค่าแรงขั้นต่ำในประเทศของเราไม่ได้ปรับเพิ่มมานานแล้ว และการเพิ่มก็น้อย ในขณะที่ค่าครองชีพเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ รัฐบาลจึงใช้มาตรการหลายอย่างเพื่อลดค่าใช้จ่าย อาทิ ลดค่าไฟฟ้า ค่าน้ำมัน พักหนี้เกษตรกร และแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ เพื่อบรรเทาความยากลำบากของประชาชน แต่ยังคงมีประชาชนจำนวนมากที่พึ่งพาค่าแรงขั้นต่ำ โดยในบางจังหวัดค่าแรงเพิ่มขึ้นเพียง 7-12 บาท ซึ่งถือว่าน้อยเกินไป แม้ว่ารัฐบาลพยายามพัฒนาเศรษฐกิจให้มีอุตสาหกรรมไฮเทคและเพิ่มรายได้ของประชาชนก็ตาม

ทั้งนี้ ตามนโยบายของรัฐบาลในปัจจุบันที่ทำให้ค่าแรงของแรงงานไทยต่ำมาก ในขณะที่ประเทศใกล้เคียงอย่างเกาหลีและสิงคโปร์ มีค่าแรงขั้นต่ำต่อวันอยู่ที่ 1,000 บาท เราจะยอมให้ประชาชนไทยเป็นพลเมืองชั้นสองหรือชั้นสามของโลกหรือไม่ ในขณะที่ค่าแรงขั้นต่ำของเรายังคงต่ำเช่นนี้ ดังนั้น เมื่อรัฐบาลพยายามพัฒนาภาคอุตสาหกรรม ผู้ประกอบการก็ควรจะทำงานร่วมกันไปด้วยเช่นกัน เพราะการพัฒนาที่เกิดขึ้นจากเพียงฝ่ายเดียวไม่สามารถทำให้สำเร็จได้

“เราจำเป็นต้องทบทวนเรื่องนี้อีกครั้ง เนื่องจากเพิ่งทราบข่าวและจะต้องหารือเกี่ยวกับแนวทางที่เหมาะสม นี่ไม่ใช่คำสั่ง แต่เป็นการสนทนาเพื่อหาทางออกร่วมกัน เราต้องพิจารณาถึงภาพรวมของเศรษฐกิจและการทำธุรกิจ ไม่ใช่เพียงการเพิ่มภาระค่าใช้จ่ายให้กับผู้ประกอบการหรือนายจ้างเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการสร้างโอกาสทางการตลาดและเพิ่มรายได้ ผู้ประกอบการและนายจ้างได้รับประโยชน์มาแล้ว ตอนนี้ถึงเวลาที่จะต้องตอบแทนให้กับคนที่เป็นกำลังสำคัญในภาคการผลิตด้วย หลังจากวันหยุด เราจะจัดการประชุมกับผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อหารือเกี่ยวกับเรื่องนี้ ซึ่งทุกคนคงกังวลเช่นกัน ขอให้ทุกฝ่ายคำนึงถึงหลักการของใจเขาใจเรา” นายเศรษฐา กล่าว

นอกจากนี้ ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้มีโอกาสพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีมาเลเซียในหลายเรื่อง เช่น การพัฒนานิคมอุตสาหกรรม การท่องเที่ยว และการเปิดด่านสะเดา รวมทั้งการลงทุนในการสร้างสะพานเชื่อมต่อกับมาเลเซีย การดำเนินการเหล่านี้มีเป้าหมายเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ประกอบการ อย่างไรก็ตาม ไม่เข้าใจว่าทำไมการขึ้นค่าแรงเพียง 2-3 บาท ถึงกลายเป็นประเด็น ยอมรับว่ารู้สึกไม่สบายใจกับเรื่องนี้ และต้องการใช้เวทีนี้ในการสื่อสารเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับพี่น้องแรงงาน เพื่อไม่ให้พวกเขาต้องติดอยู่กับรายได้ที่ต่ำ ต้องมีการหารือกับทั้งไตรภาคีและในคณะรัฐมนตรี เพราะเรื่องค่าแรงขั้นต่ำเป็นนโยบายหลักของรัฐบาล

“เราจำเป็นต้องเพิ่มค่าแรงให้สูงกว่านี้ และต้องพิจารณาถึงเหตุผลจากทุกฝ่าย ตามที่ได้กล่าวไป ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ การขึ้นค่าแรงเพียง 2-3 บาทนั้นไม่เพียงพอ แม้กระทั่งซื้อไข่ไก่หนึ่งฟองยังไม่ได้ ในเมื่อผู้ประกอบการอ้างว่า ผลประกอบการไม่ดีเนื่องจากสภาพเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมา ผมต้องบอกว่ารัฐบาลก็ได้พยายามช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการลดค่าไฟฟ้าสำหรับภาคอุตสาหกรรม ซึ่งค่าไฟได้ลดลงจาก 4.50 บาทต่อหน่วยเป็น 3.99 บาท ดังนั้นผมขอเรียกร้องให้ผู้ประกอบการคืนประโยชน์ให้กับประชาชนบ้าง และขอย้ำว่ารัฐบาลในขณะนี้ให้ความสำคัญกับเรื่องเศรษฐกิจเป็นอันดับแรก” นายเศรษฐา กล่าว

ส่วนเรื่องที่ว่าผู้ประกอบการจะย้ายฐานการผลิตเพราะค่าแรงขึ้นจาก 300 เป็น 400 บาทนั้นไม่เป็นความจริง มันเป็นเพียงวาทกรรมเท่านั้น รัฐบาลยังคงมีมาตรการส่งเสริมอย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านภาษี ระบบสาธารณสุขที่ดี สถานศึกษาคุณภาพ รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานและการขนส่งที่พร้อม เช่น สนามบินและท่าเรือน้ำลึก ในการเดินทางไปต่างประเทศของผม ก็ได้มีการลงนาม MOU กับหลายบริษัทขนาดใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นในอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าหรือ EV ดังนั้น ถ้าผู้ประกอบการไม่ร่วมมือกัน พวกเขาเองที่จะประสบปัญหาในที่สุด

“เราต้องพิจารณาถึงความเหมาะสมในแต่ละพื้นที่ ในจังหวัดขนาดใหญ่ค่าแรงอาจสูงถึง 400 บาท แต่ในจังหวัดขนาดเล็กค่าแรงอาจไม่ถึงจำนวนนั้น ความเหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึง อยากจะย้ำว่ารัฐบาลกำลังพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยให้นายจ้างสามารถส่งสินค้าออกไปได้ รวมถึงการอำนวยความสะดวกและลดค่าใช้จ่ายให้กับผู้ประกอบการ” นายเศรษฐา กล่าวและว่า

“ไม่ใช่เพื่อหาเสียง เพราะการหาเสียงนั้นสิ้นสุดลงแล้ว แต่สิ่งที่เราจะพูดถึงคือความจริงเกี่ยวกับชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชน ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด ผมขอร้องไปยังนายจ้างทุกท่าน โปรดให้ความเป็นธรรมกับผู้ใช้แรงงานด้วย”

คลิปอีจันแนะนำ
เธอเคยโดนผู้ชายทิ้งเพราะ “อ้วน” จนได้มาเจอ ผู้ชายคนนี้