
วันนี้ (8 ก.ค.68) นางสาวถิรนันท์ อรุณวัฒนกูล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท มันนิกซ์ จำกัด (MONIX) เปิดเผยว่า ปัจจุบันคนไทยกำลังเผชิญความท้าทายต่างๆ อย่างต่อเนื่อง จากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจ โดยสินเชื่อรายย่อย หรือสินเชื่อนาโนยังเป็นที่ต้องการของประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มรายย่อย ผู้ประกอบอาชีพอิสระ ธุรกิจส่วนตัวที่มีความจำเป็นในการเข้าถึงสินเชื่อ
อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจชะลอตัวคาดการขยายตัวของธุรกิจในปีนี้ ใกล้เคียงกับปีก่อน และยอมรับว่าการทำธุรกิจขณะนี้ต้องระมัดระวังมากขึ้น ซึ่งการปล่อยสินเชื่อ ที่ผ่านมา จะพิจารณาความต้องการลูกค้าเป็นหลัก เช่น ความสามารถในการกู้สินเชื่อเท่าไหร่ ฟินนิกซ์คำนวณเงินสินเชื่อที่ลูกค้าจะได้รับ โดยใช้ AI ในการตรวจจับข้อมูล และไม่ได้ให้สินเชื่อตามความต้องการของลูกค้า
นอกจากนี้ ฟินนิกซ์พิจารณาข้อมูลและพฤติกรรมการใช้บริการแอปฯ เป็นหลักในการประเมินความเสี่ยงต่อการให้สินเชื่อ ดังนั้น การให้สินเชื่อเปลี่ยนไปตามพฤติกรรม เช่น การจ่ายเงินล่าช้า ส่วนกลุ่มลูกค้าใหม่ อาจระมัดระวังการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น เนื่องจากข้อมูลลูกค้าใหม่ยังมีไม่มากเท่าลูกค้าเก่า

“ตั้งเป้าหมายปี 2568 สนับสนุนลูกค้าเข้าถึงสินเชื่อ 1.4 ล้านคน ยอดสินเชื่อรวม 5.7 หมื่นล้านบาท สร้างอาชีพเพิ่มรายได้รวม 2 แสนคน จากไตรมาส 1/2568 ฐานลูกค้ารวม 1.2 ล้านคน ยอดสินเชื่อรวม 4.6 หมื่นล้านบาท” นางสาวถิรนันท์กล่าว
ทั้งนี้ สินเชื่อจะเพิ่มขึ้นผ่านแคมเปญใหม่ภายใต้ชื่อ “เคียงคู่นักสู้ชีวิต” ชูอนุมัติไวใน 5 วินาที ซึ่งเงื่อนไขในการปล่อนสินเชื่อบนแอปพลิเคชั่น ด้วยเทคโนโลยี AI ที่จะมีการพิจารณาความสามารถในการจ่ายชำระคืน ความต้องการลูกค้า ในการคำนวณเงินสินเชื่อที่จะได้รับ โดยไม่ได้ให้สินเชื่อตามความต้องการ
นอกจากนี้ จากการศึกษาข้อมูลผู้ใช้งานแอปฟินนิกซ์ตลอด 5 ปี พบอินไซต์ที่น่าสนใจของกลุ่มลูกค้า ทั้งในแง่ของโครงสร้างประชากร พฤติกรรมการใช้งาน พฤติกรรมการชำระเงิน และผลลัพธ์เชิงบวกที่เกิดขึ้นจากการใช้บริการ โดยสามารถแบ่งออกเป็น 5 มิติสำคัญ ดังนี้

ข้อมูลกลุ่มลูกค้า : ลูกค้าหลักของฟินนิกซ์คือกลุ่ม Gen Y คิดเป็น 67% เป็นเพศหญิง 64% โดยราว 58% มีอาชีพอิสระและเป็นลูกจ้างผู้มีรายได้น้อยที่มีอาชีพเสริม ซึ่งกว่า 57% มีรายได้ต่อเดือนต่ำกว่า 20,000 บาท นอกจากนี้ กลุ่มลูกค้ากว่า 60% อาศัยอยู่ในต่างจังหวัด และภาคอีสานเป็นภาคที่มีอัตราการเติบโตของฐานลูกค้าสูงที่สุด
พฤติกรรมการใช้งาน : วันที่ 1 ของทุกเดือนหรือวันหวยออกเป็นช่วงที่มีลูกค้าขอสินเชื่อมากที่สุด โดยช่วงเวลาสมัครขอสินเชื่อยอดฮิตคือช่วงพักเที่ยง นอกจากนี้ ลูกค้าราว 50% ที่เป็นลูกค้าตั้งแต่ปีแรกยังคงใช้แอปฟินนิกซ์ต่อเนื่องมา 5 ปีจนถึงปัจจุบัน แสดงถึงความเชื่อมั่นในบริการของแอปได้อย่างชัดเจน
พฤติกรรมการชำระเงิน : ลูกค้ากว่า 70% มีคะแนนในฟีเจอร์รายงานฟินนิกซ์เครดิตอยู่ในเกณฑ์ดี ซึ่งกลุ่ม Gen X มีวินัยในการชำระสินเชื่อที่ดีกว่ากลุ่มอื่น ส่วนจังหวัดที่มีลูกค้าซึ่งมีพฤติกรรมรักษาเครดิตดี เช่น ภูเก็ต ชลบุรี เชียงใหม่ กรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ และปทุมธานี เป็นต้น นอกจากนี้ ข้อมูลยังชี้ให้เห็นว่าลูกค้าใหม่มีพฤติกรรมการเงินดีกว่ากลุ่มเดิม แสดงถึงประสิทธิภาพของโมเดลอนุมัติสินเชื่อพลังไอเอที่ดีและชาญฉลาดยิ่งขึ้น

ศักยภาพทางการเงิน : ลูกค้ากว่า 40% ได้รับการเพิ่มวงเงินจากพฤติกรรมการเงินที่ดี และ 20% ในกลุ่มนี้ได้รับวงเงินใหม่ที่สูงกว่าวงเงินเดิมถึง 2 เท่า สะท้อนถึงความสามารถในการสร้างและรักษาเครดิตที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ ลูกค้าแลกฟินนิกซ์คอยน์ที่ได้รับเมื่อชำระสินเชื่อตรงเวลาเป็นส่วนลดดอกเบี้ยมากที่สุด โดยแลกไปแล้วรวมเป็นมูลค่ากว่า 8.3 ล้านบาท ช่วยลดภาระลูกค้าและเสริมสร้างวินัยได้เป็นอย่างดี
การเพิ่มรายได้และความรู้เรื่องเงิน : ผู้ใช้งานแอปว่า 157,000 คน มีโอกาสหารายได้เสริมจากการสมัครงานกับพันธมิตรต่างๆ ผ่านแอปฟินนิกซ์ โดยผู้ใช้งานอีกกว่า 62,000 คน มีโอกาสพัฒนาความรู้เรื่องเงินจากโครงการห้องเรียนออนไลน์ “เงินดีมีสุข รู้ทันหนี้ไม่มีทุกข์” ทั้งหมดนี้ ตอกย้ำว่าแอปฟินนิกซ์เป็นมากกว่าแอปเงินกู้ ทำให้คนทำมาหากินได้ ‘เงินดี มีสุข’ อย่างแท้จริง
“ขอขอบคุณลูกค้ากว่าล้านคนที่ช่วยสนับสนุนฟินนิกซ์มาตลอด 5 ปี โดยจะมุ่งมั่นพัฒนาแอปให้ดียิ่งๆ ขึ้นไป โดยฟีเจอร์ ‘อนุมัติไวสุดใน 5 วิ’ อีกทั้งปีนี้ยังมีอีกหลายฟีเจอร์ที่เตรียมเปิดตัว เพื่อขอบคุณนักสู้ชีวิตทุกคนที่ร่วมเดินทางมากับเรา และเพื่อให้ทุกคนได้ ‘เงินดี มีสุข’ อย่างแท้จริง” นางสาวถิรนันท์ กล่าว