
“ขนาดไซส์จัมโบ้ ยังเหลือลูกละ 30 สตางค์ ขายไม่ได้ ยังต้องจ้างคนมาเก็บ เพื่อไม่ให้หนักต้น ทำให้ต้นมะนาวโทรม”
นี่คือเสียงของตัวแทนเกษตรกรผู้ปลูกมะนาวในพื้นที่ อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร ที่กำลังเผชิญปัญหาหนักจากภาวะผลผลิตล้นสวน ราคาขายต่ำกว่าต้นทุน ทั้งค่าปุ๋ย ค่าแรง และค่ายา ส่งผลให้ชาวสวนกว่า 50 สวนต้องกัดฟันยอมขาดทุน เพื่อรักษาสวนให้ไปรอดในรอบการผลิตถัดไป

นายสมภพ ตัวแทนสหกรณ์ผู้ปลูกมะนาวบ้านแพ้ว เปิดใจเล่าให้อีจันฟังว่า ในช่วงนี้ สวนมะนาวในพื้นที่ อ.บ้านแพ้ว มีผลผลิตออกจำนวนมากจากสภาพอากาศเอื้ออำนวย แต่กลับกลายเป็นวิกฤติเมื่อมะนาวล้นตลาด ไม่มีตลาดรองรับ ทำให้ราคาตกต่ำอย่างหนัก ปัจจุบันมะนาวแทบไม่มีราคาเลย ไซส์ใหญ่เหลือเพียงลูกละ 30 สตางค์ ขณะที่ค่าแรงจ้างเก็บมะนาวก็ตกลูกละ 30 สตางค์แล้ว พอรวมค่าปุ๋ย น้ำยา ค่าแรงดูแล เกษตรกรในพื้นที่ประเมินว่าต้นทุนต่อรอบการผลิตหนึ่งครั้งสำหรับมะนาว 1 ลูก อยู่ที่ประมาณ 50-60 สตางค์
“เราต้องจำใจจ้างคนมาเก็บมะนาวจากต้น ทั้งที่รู้ว่าจะขายไม่ได้ เพราะถ้าทิ้งไว้มันจะหนักต้น แล้วต้นจะไม่ออกดอกรอบถัดไป แต่เก็บมาก็ขายแทบไม่ได้ ขาดทุน แต่ไม่เก็บก็ยิ่งเสียหาย” นายสมภพ กล่าว

ถ้ายังเป็นแบบนี้ สวนมะนาวที่เคยเป็นแหล่งรายได้ อาจกลายเป็นภาระที่ต้องจ่ายเพิ่ม มะนาวไม่ใช่แค่พืชเศรษฐกิจ แต่เป็นความหวังของชาวสวน ตัวแทนเกษตรกรจึงวอนภาครัฐ เอกชน และผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง เร่งช่วยเหลืออย่างจริงจัง
ถึงเวลา กิน-ใช้ มะนาว ช่วยชาติแล้วค่ะ ก่อนที่ปัญหา “มะนาวราคาต่ำ” อาจลุกลามไปมากกว่านี้


