
วันนี้ (14 ส.ค.67) เวลา 15.45 น. ที่กระทรวงการคลัง นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่ากากระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงกรณี ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มีมติเสียงข้างมาก 5 ต่อ 4 วินิจฉัยว่าความเป็นรัฐมนตรีนายกรัฐมนตรี ของนายเศรษฐา ทวีสิน สิ้นสุดลงเฉพาะตัว ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริต ละเมิดมาตรฐานจริยธรรมร้ายแรง พร้อมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต้องพ้นตำแหน่งทั้งคณะ ว่า กระบวนการตามกฎหมายนั้น ทาง ครม.รับฟังคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งตนต้องยุติการทำงานตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่ากากระทรวงการคลัง และกลับไปที่รัฐสภา
“เราต้องยอมรับในคำวินิจฉัยที่ออกมา อย่างไรก็ตาม กลไกก็ต้องเดินหน้าต่อ โดยรัฐสภา ก็ต้องเตรียมประชุม เพื่อคัดเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ และตั้งครม.ชุดใหม่ตามลำดับ”นายจุลพันธ์กล่าว
ส่วนจะมีผลกระทบต่อนโยบายต่างๆ ของรัฐบาลหรือไม่นั้น นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ยอมรับโครงการที่ยังคงค้างก็ได้รับผลกระทบ หากนโยบายใดหรือโครงการใดยังค้างอยู่ ยังไม่ได้รับการอนุมัติ ก็ต้องสะดุด ติดขัดเป็นเรื่องธรรมดา ขณะที่กระบวนการหลังจากมีการเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่แล้ว ก็จะมีกระบวนการแถลงนโยบายของ ครม.ชุดใหม่ ซึ่งต้องไปดูว่า นโยบายที่จะนำไปแถลงต่อรัฐสภามีอะไรบ้าง
ทั้งนี้ สำหรับโครงการเติมเงิน 10,000 บาทผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ที่คาดว่าจะเริ่มในช่วงไตรมาส 4 ปี 67 ทันหรือไม่ นั้น นายจุลพันธ์ กล่าวว่า โครงการนี้ก็คงต้องสะดุดแน่ๆ และตนก็ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะไม่รู้จะได้กลับมาทำงานนี้ต่อหรือไม่
ส่วนพรรคเพื่อไทยจะสานต่อโครงการดิจิทัล วอลเล็ตหรือไม่นั้น ต้องรอมติของทางพรรคเพื่อไทยก่อน เพราะว่ายังไม่ทราบว่าหลังจากนี้รูปแบบของการจัดตั้งรัฐบาลใหม่จะเป็นอย่างไร พรรคใดจะเข้าร่วมรัฐบาลบ้าง ยังไม่สมารถตอบได้ และยังต้องมีการหารือภายในพรรคร่วมรัฐบาลว่าจะทำนโยบายใดบ้าง ซึ่งในการตั้งรัฐบาลนี้ก็ต้องมีพรรคเพื่อไทยอยู่ในพรรคร่วมด้วย
“ผมมองว่ากระบวนการจัดตั้งรัฐบาลน่าจะไม่นาน เพราะรัฐสภายังทำหน้าที่อยู่ คาดว่าไม่เกิด 1-2 สัปดาห์ ก็จะได้เลือกนายกรัฐมนตรีท่านใหม่”นายจุลพันธ์กล่าว
นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ส่วนของภาพรวมเศรษฐกิจนั้น แน่นอนว่ากรณีของนายเศรษฐา ได้กระทบกับความเชื่อมั่นของประชาชน ทำให้การจับจ่ายใช้สอยชะลอลง ขณะนี้ตัวเลขเศรษฐกิจก็ยังไม่ดีมากนั้น ประกอบกับเรื่องของการเมืองที่มีความไม่แน่นอน ก็ทำให้เกิดผลกระทบในทางลบ ทำให้การหมุนของเศรษฐกิจชะลดไประยะหนึ่ง แต่สุดท้ายนั้น การเมืองไม่ได้ถึงทางตัน จะต้องกลับมาเดินต่อ และเมื่อมีความชัดเจนแล้ว ก็เชื่อว่าสถานการณ์ จะคลี่คลาย กลับมาปกติได้
ส่วนเรื่องความเห็นว่าจะเป็นโอกาสที่รัฐบาล จะพับโครงการดิจิทัล วอลเล็ตลงไปเลยหรือไม่ นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ยืนยันว่ารัฐบาลยังไม่มีความคิดในลักษณะนี้ ขออย่าเพิ่งคิดล่วงหน้ากันไปเลย
“ทั้งนี้ การทำงานของตน ในฐานะรัฐมนตรีช่วยว่ากากระทรวงการคลัง ก็ได้ทำอย่างเต็มที่ ส่วนปัญหาของประเทศนั้น ไม่ใช่เรื่องที่จะสามารถแก้ไขได้ในค้างคืน มันอาจจะยังมีเรื่องคงค้างอยู่ และมีเรื่องใหม่ๆมาตลอด เช่น ปัญหาสินค้าจีน เป็นการเปลี่ยนแปลงของโลก ซึ่งไม่ว่าใครจะเข้ามาเป็นรัฐมนตรีก็ตาม ก็ต้องมีการปรับนโนบาย ปรับตัว ในเท่าทัน เพราะโลกไม่หยุดรอเรา”นายจุลพันธ์กล่าว