นายจาตุรนต์ ภักดีวานิช อธิบดีกรมการท่องเที่ยว เปิดเผยว่า ข้อมูลจากกองกิจการภาพยนตร์และวีดิทัศน์ต่างประเทศกรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พบว่าการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทย ในช่วง 6 เดือน (1 ม.ค. – 30 มิ.ย. 68) มีการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทย จำนวน 279 เรื่อง จากทั่วโลกมีรายได้จากการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศ 2,866 ล้านบาท โดยรวบรวมจากสถิติการขออนุญาตถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทย ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง และได้กระจายรายได้ไปสู่ภาคธุรกิจต่าง ๆ ทั้งภาคอุตสาหกรรมภาพยนตร์ ธุรกิจท่องเที่ยว และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องอื่น ๆ รวมทั้ง สามารถประชาสัมพันธ์ประเทศไทยไปสู่สายตาผู้ชมภาพยนตร์ทั่วโลก ส่งผลให้เกิดการท่องเที่ยวตามรอยภาพยนตร์ต่อไป
ส่วนประเทศที่เข้ามาถ่ายทำมากสุด 3 ประเทศแรก ได้แก่ อินเดีย เกาหลี ญี่ปุ่น จีน ขณะที่จังหวัดที่ได้รับความนิยม 3 อันดับแรก ได้แก่ กรุงเทพฯ ปทุมธานี ชลบุรี เป็นต้น
ขณะที่ทั้งปี 2568 กองกิจการภาพยนตร์และวีดิทัศน์ต่างประเทศ กรมการท่องเที่ยว ได้รับนโยบายจากปลัดกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ให้สร้างรายได้จากกองถ่ายภาพยนตร์ต่างประเทศหรือกองหนังต่างชาติ 10,000 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายการทำงานที่กรมการท่องเที่ยววางเป้าหมายไว้ที่ 7,500 ล้านบาท
“กรมการท่องเที่ยวเสนอขอรับงบประมาณเพิ่มอีก 400 ล้านบาท เพิ่มเติมงบประมาณเดิมที่เตรียมเสนอขอเพื่อคืนเงินให้กับกองถ่ายภาพยนตร์ต่างชาติที่เข้ามาถ่ายทำในไทย จำนวน 400 ล้านบาท รวมเป็นวงเงินที่จะเสนอขอทั้งสิน 800 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าปีงบประมาณ 2567 ที่เสนอขอรับการจัดสรรไป 337 ล้านบาท หรือคิดเป็นสองเท่า แต่เหตุผลที่เสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณเพิ่มเนื่อง” นายจาตุรนต์ ระบุ
โดยคาดว่าในปีนี้จะมีภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์หลายเรื่องที่เข้ามาถ่ายทำในไทย เช่น จูราสสิค เวิลด์, ไวท์ โลตัส เป็นต้น และคาดการณ์ว่าจะมีเรื่องอื่นๆ ที่สนใจเข้ามาถ่ายทำในไทย จึงจำเป็นที่จะต้องสำรองงบประมาณเพื่อคืนเงินตามความต้องการของกองถ่ายหนังที่เพิ่มขึ้น