![](https://files.ejan.co/wp-content/uploads/2023/05/405926-3akekk4otgg6-768x402.jpg)
ตามที่ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หรือแบงก์ชาติ มีนโยบายให้ธนาคารทุกแห่งที่ให้บริการโมบายแบงก์กิ้งแอปพลิเคชัน ยกระดับความปลอดภัยในการทำธุรกรรมบนแอปพลิเคชันธนาคาร เพื่อแก้ปัญหาเกี่ยวกับมิจฉาชีพ โดยกำหนดให้ผู้ใช้บริการต้องยืนยันตัวตนเมื่อทำธุรกรรมตามกำหนด เริ่มภายในเดือน มิ.ย.66
โมบายแบงก์กิ้ง ธนาคารใด ต้องยืนยันตัวตนที่สาขา ก่อนทำบางธุรกรรมไม่ได้สำหรับธุรกรรมที่ต้องยืนยันตัวตน สแกนใบหน้า เมื่อใช้บริการผ่านแอปพลิเคชันธนาคาร โมบายแบงก์กิ้ง มีดังนี้ 1.โอนเงินไปยังบุคคลอื่นตั้งแต่ 50,000 บาทขึ้นไปต่อครั้ง 2.มูลค่ารวมของธุรกรรมโอนเงินทุกๆ 200,000 บาท ภายใน 1 วัน และ 3.ปรับเพิ่มวงเงินให้โอนได้ตั้งแต่ 50,000 บาทขึ้นไป
สำหรับธนาคารที่ประกาศให้ผู้ใช้งาน นำบัตรประชาชนไปยืนยันตัวตน พร้อมสแกนใบหน้า ในกรณีที่ต้องทำธุรกรรมบางอย่าง ประกอบด้วย
ธนาคารไทยพาณิชย์ แจ้งว่า เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับการยืนยันตัวตนด้วยใบหน้า เมื่อทำธุรกรรมดังต่อไปนี้ผ่านแอปพลิเคชัน SCB EASY โดยได้ปรับระบบ 1.โอนเงินไปยังบุคคลอื่นตั้งแต่ 50,000 บาทขึ้นไปต่อครั้ง 2.มูลค่ารวมของธุรกรรมโอนเงินทุกๆ 200,000 บาท ภายใน 1 วัน และ 3.ปรับเพิ่มวงเงินให้โอนได้ตั้งแต่ 50,000 บาทขึ้นไป
ทั้งนี้ ธนาคารไทยพาณิชย์ให้ลูกค้า นำบัตรประชาชนไปอัปเดตข้อมูลให้เป็นปัจจุบันและถ่ายรูปใบหน้า ได้ที่ธนาคารไทยพาณิชย์ทุกสาขาทั่วประเทศ ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โดยธนาคารไทยพาณิชย์ จะเริ่มทำรายการภายในเดือน มิ.ย.66
โดยลูกค้าธนาคารไทยพาณิชย์ สามารถตรวจสอบได้ที่แอปพลิเคชัน SCB EASY > เมนูอื่นๆ > การตั้งค่า > จัดการบริการ NDID > ที่บรรทัดสุดท้าย > หากพบข้อความ “นำบัตรประชาชนไปติดต่อธนาคารไทยพาณิชย์สาขาที่สะดวก” ลูกค้าต้องไปยืนยันตัวตนที่สาขา หากไม่พบข้อความดังลูกค้าไม่ต้องยืนยันตัวตนที่สาขา เนื่องจากธนาคารมีใบหน้าของลูกค้าในระบบแล้ว
![](https://files.ejan.co/wp-content/uploads/2023/12/SCB.jpg)
ธนาคารกรุงเทพ แจ้งว่า ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2566 ธนาคารจะเริ่มดำเนินการให้ผู้ใช้บริการยืนยันตัวตนด้วยใบหน้า เมื่อทำธุรกรรมบนโมบายแบงก์กิ้งของธนาคารกรุงเทพ ดังนี้ 1.รายการโอนเงินไปยังบุคคลอื่น หรือเติมเงินพร้อมเพย์/G-Wallet 2.ยอดสะสมต่อวันครบทุก 200,000 บาท และ 3.ปรับเพิ่มวงเงินโอนเงิน จ่ายเงิน ผ่านแอปพลิเคชัน
ทั้งนี้ ธนาคารกรุงเทพขอให้ลูกค้าเข้ามาเก็บข้อมูลใบหน้า โดยนำบัตรประชาชนไปอัปเดตและถ่ายรูปใบหน้าได้ที่ธนาคารกรุงเทพ ทุกสาขาทั่วประเทศ เพื่อเพิ่มความปลอดภัย เมื่อทำธุรกรรมการเงินผ่านโมบายแบงก์กิ้ง
![](https://files.ejan.co/wp-content/uploads/2023/12/BBL.jpg)
ธนาคารกรุงไทย แจ้งลูกค้าระบุว่า กรุงไทยไม่หยุดเพิ่มมาตรการความปลอดภัย ยกระดับการใช้งานแอปฯ NEXT และ เป๋าตัง สู่การสแกนใบหน้าที่ปลอมแปลงได้ยากกว่า OTP เพื่อยืนยันตัวตนก่อน โอน เติม จ่าย รีบนำบัตรประชาชนไปบันทึกข้อมูลยืนยันตัวตนและถ่ายภาพใบหน้า ได้ที่ ธนาคารกรุงไทยทุกสาขา หรือตู้ ATM กรุงไทย สีเทา
พร้อมระบุว่าปลอดภัยเพื่อให้คุณทำได้คนเดียวเท่านั้น เมื่อโอนเงินไปยังบุคคลอื่นตั้งแต่ 50,000 บาทขึ้นไป/ครั้ง มูลค่ารวมของการโอนเงินทุกๆ 200,000 บาท/วัน ปรับเพิ่มวงเงินให้โอนได้ตั้งแต่ 50,000 บาทขึ้นไป สะดวก เมื่อต้องการเปลี่ยนอุปกรณ์มือถือ สามารถใช้งานแอปพลิเคชัน ได้อย่างต่อเนื่อง เริ่มเดือน มิ.ย.66
![](https://files.ejan.co/wp-content/uploads/2023/12/KTB.jpg)
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เตรียมความพร้อม อย่าลืมมาสแกนใบหน้าเพื่ออัปเดตข้อมูลกัน ลูกค้า KMA krungsri app และ Krungsri Biz Online ที่ยังไม่เคยมีรูปถ่ายกับทางธนาคาร สามารถนำบัตรประชาชนติดต่อสาขาเพื่อเพิ่มใบหน้าได้ทันที
โดยระบุต่อวว่าทำไมต้องรีบไปสแกนหน้า 1.ปลอดภัยในการทำรายการต่างๆ กับทางธนาคาร ป้องกันการสวมรอย และใช้ยืนยันการทำรายการที่มียอดเงินสูงรวมถึงการปรับเพิ่มวงเงินผ่านแอปพลิเคชัน เร็วๆ นี้ และ 2.สะดวก ในกรณีลูกค้าเปลี่ยนอุปกรณ์ลงแอปพลิเคชัน ใหม่ ลืมรหัส เปลี่ยนเบอร์มือถือ หรือการยืนยันตัวตนเมื่อเปิดบัญชีใหม่ สมัครสินเชื่อ ลูกค้าสามารถใช้งานแอปพลิเคชัน ได้ ไม่สะดุดบน KMA krungsri app
![](https://files.ejan.co/wp-content/uploads/2023/12/BAY.jpg)
ธนาคารออมสิน ยกระดับความปลอดภัย เดือนพ.ค.66 นี้ หากต้องการโอนเงินมากกว่า 50,000 บาทขึ้นไปต่อรายการ หรือมียอดสะสม 200,000 บาทต่อวัน หรือปรับเพิ่มวงเงินการทำรายการ หรือเปลี่ยนแปลงวงเงิน จะต้องมีการยืนยันตัวตนด้วยการเปรียบเทียบใบหน้าก่อน เพื่อให้เกิดธุรกรรมอย่างสมบูรณ์ ขอให้เตรียมความพร้อมโดย นำบัตรประชาชนและสแกนใบหน้า ที่ธนาคารออมสินทุกสาขาทั่วประเทศ ที่สำคัญ อย่าลืมอัปเดต MyMo ให้เป็นเวอร์ชั่นล่าสุด
![](https://files.ejan.co/wp-content/uploads/2023/12/GSB.jpg)
ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) แจ้งว่าเพื่อการทำธุรกรรมที่ง่ายและปลอดภัยมากขึ้น ขอให้เจ้าของบัญชีลงทะเบียน e-KYC การพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางอิเล็กทรอนิกส์ โดยสามารถลงทะเบียนได้ที่ BAAC ทุกสาขา และใช้หลักฐานในการลงทะเบียนได้แก่ บัตรประจำตัวประชาชนและสมาร์ทโฟน
จากการลงทะเบียน e-KYC ด้วยอัตลักษณ์บุคคล เช่น การจดจำใบหน้า ช่วยระบุไอดีที่เป็นกรรมสิทธิ์ส่วนบุคคล ทำให้ปลอมแปลงหรือเลียนแบบได้ยาก ลดขั้นตอนการตรวจสอบบุคคล ลดความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นระหว่างดำเนินการ และควบคุมความปลอดภัยของข้อมูลได้ ทั้งนี้ข้อดีของระบบดังกล่าวมีดังนี้
– สำหรับลูกค้าบุคคลธรรมดา ผู้มีสัญชาติไทย อายุ 15 ปีขึ้นไป
– เหมาะกับทุกคนที่ใช้ A-Mobile Plus
– เป็นการทำธุรกรรมการเงินแบบ Smart ไร้สัมผัส
– ทำธุรกรรมได้สะดวก รวดเร็วขึ้น
– ป้องกันการโจรกรรมข้อมูลทางการเงิน
![](https://files.ejan.co/wp-content/uploads/2023/12/BAAC.png)