
วันนี้ (9 มิ.ย.68) KKP Research โดย กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร เปิดเผยบทวิเคราะห์ระบุถึงการขึ้นภาษีของสหรัฐ โดยนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดี ที่ยังคงเดินหน้าขึ้นภาษีนานาประเทศทั่วโลก ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก รวมถึงประเทศไทย
ศาลขวางภาษีทรัมป์อาจไม่ดีสำหรับไทย สัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดการเงินทั่วโลกผ่อนคลายความกังวลในเรื่องสงครามการค้าได้เพียงไม่กี่ชั่วโมง เพราะหลังจากศาลการค้าของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ มีคำสั่งยับยั้งการขึ้นภาษีของประธานาธิบดีทรัมป์ ประธานาธิบดีทรัมป์มีการยื่นอุทธรณ์ต่อศาลอุทธรณ์ในวันเดียวกัน และศาลได้ออกคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวระหว่างพิจารณาคำอุทธรณ์ของรัฐบาล ทำให้ยังสามารถเก็บภาษีต่อได้จนกว่าจะมีคำตัดสินใหม่ออกมา
ในประเด็นนี้สุดท้ายคงต้องไปจบกันที่ศาลสูงสหรัฐฯ ที่จะต้องใช้เวลาอีกสักพัก แต่หลายฝ่ายก็เริ่มมีความหวังว่ามาตรการภาษีตอบโต้ของทรัมป์อาจต้องเจออุปสรรคอีกหลายเรื่องหรือ ในที่สุดอาจจะไม่สามารถดำเนินการได้เลย
อย่างไรก็ตาม KKP Research มองว่าเหตุผลเบื้องหลังของการเก็บภาษีตอบโต้ของประธานาธิบดีทรัมป์เป็นอาการของปัญหาเบื้องหลังในเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ใหญ่กว่านั้น ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการแก้ไขในที่สุด และการที่ศาลเข้ามายับยั้งในกรณีนี้อาจไม่เป็นผลดีต่อไทยอย่างที่หลายคนคิด
ภาษีทรัมป์ไม่น่ากลัวเท่าส่งออกจีน เนื่องจากการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนคาดว่าจะเต็มไปด้วยอุปสรรคในระยะสั้นและอาจใช้เวลานานกว่าจะบรรลุข้อตกลงการค้าที่นำไปสู่การปรับสมดุลเศรษฐกิจในระยะยาว เพราะมีหลายประเด็นที่เป็นประเด็นอ่อนไหว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการค้าไม่เป็นธรรม ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ เทคโนโลยี ค่าเงิน ทรัพย์สินทางปัญญา เป็นต้น
ในระยะต่อไปจึงยังมีโอกาสสูงที่สหรัฐฯ จะใช้ภาษีนำเข้าเพื่อเพิ่มอำนาจการต่อรองหรือปกป้องอุตสาหกรรมในประเทศที่อ่อนไหวจากสินค้าจีน อย่างไรก็ตาม ในระหว่างนั้น คาดว่าจีนจะกระจายตลาดการส่งออกออกจากสหรัฐฯ โดยส่งออกสินค้าไปยังประเทศอื่น ๆ ทั่วโลกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากกำลังการผลิตส่วนเกินที่ยังมีอยู่ โดยเฉพาะในตลาดอาเซียนรวมทั้งไทยที่ดูเหมือนจะมีอำนาจการต่อรองในการขึ้นภาษีนำเข้าต่ำ
หากผู้ผลิตจีนยังทยอยลดราคาสินค้าเพื่อส่งออกมายังตลาดไทย สิ่งที่ต้องกังวลคือความเสี่ยงต่อการแข่งขันทางด้านราคาต่อผู้ผลิตไทยจะยิ่งเร่งตัวขึ้นไปอีก และอาจส่งผลกระทบรุนแรงขึ้นโดยทำให้กิจกรรมในภาคการผลิตและการจ้างงานหดตัวแรง
ดังนั้น แม้ว่าความเสี่ยงจากภาษีทรัมป์ต่อไทยจะลดลงจากความพยายามของภาครัฐในการเจรจาข้อตกลงการค้า แต่ประเด็นที่น่ากังวลสำหรับเศรษฐกิจไทยในระยะยาว คือ แรงกดดันทางด้านเงินฝืดต่อเศรษฐกิจไทยที่น่าจะยังเพิ่มสูงขึ้นหากรัฐบาลไม่มีมาตรการรองรับผลกระทบต่อธุรกิจและการจ้างงานจากกำลังการผลิตส่วนเกินของจีนที่เข้ามาตีตลาดในไทย