กล่องปันน้ำใจ ส่งลงใต้ ไปกับ Thai Smile Cargo
สถานการณ์โควิด-19 ในปัจจุบันของไทย ยังน่าเป็นห่วง แค่จะเดินออกมาหน้าบ้านตัวเองก็กลัวแล้ว บางพื้นที่ต้องสั่งปิดชั่วคราวเพื่อตรวจเชิงรุก ทำให้หลายคนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ๆมีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของไวรัส ดำเนินชีวิตตามปกติได้ยากขึ้น หลายๆครัวเรือนไม่สามารถออกจากบ้าน เพื่อไปซื้อของสำหรับอุปโภคและบริโภคได้ กลายเป็นความเดือดร้อนเพราะขาดสิ่งที่มีความจำเป็นต่อการดำรงชีวิต
เสียงความเดือดร้อน เดินทางมาถึงบ้านอีจัน เราไม่รอช้า รีบติดต่อไปยังมูลนิธิบ้านพักเด็กฉุกเฉิน ในจังหวัดนราธิวาส ประธานมูลนิธิ เล่าให้อีจันฟังว่า นราธิวาสติด 1 ใน 10 อันดับผู้ติดเชื้อสูงสุดในไทย ทำให้ตอนนี้ประชาชนหลายครัวเรือนไม่สามารถออกจากบ้านมาซื้อของที่จำเป็นต่อการดำรงชีพได้ แต่มีหน่วยงานในจังหวัดดูแลในส่วนของเรื่องข้าวสารอาหารแห้ง จึงพอบรรเทาความเดือนร้อนของชาวบ้านได้บางส่วน
แต่! มีอีกหลายครัวเรือนที่ยังเดือดร้อน เพราะนอกจากปากท้องของตัวเอง ก็ยังมีปากท้องน้อยๆของเจ้าหนูวัยกระเตาะ ที่ต้องดูแลอีกด้วย ความเดือนร้อนรวมกับน้ำใจจากลูกเพจอีจัน เกิดเป็น โครงการ “แม่กักตัว ลูกต้องไม่อดนม”
โดยอีจันได้เปิดให้ ประชาชนจังหวัดนราธิวาส ลงทะเบียน ขอรับกล่องน้ำใจ ตั้งแต่วันที่ 3 พ.ย. 64 ที่ผ่านมา 234 ครัวเรือน ซึ่งกล่องน้ำใจนี้มีทั้งนม ของเล่นเด็ก แพมเพิสเด็ก และเจลแอลกอฮอล์ ซึ่งของใช้เหล่านี้มีความจำเป็นมากๆ กับครอบครัวที่มีเด็กอ่อน
วันนี้ (9 พ.ย. 64) อีจันนำกล่องปันน้ำใจ ส่งลงใต้ ไปกับ Thai smile cargo เป็นที่เรียบร้อยแล้วนะคะ และวันพรุ่งนี้ (10 พ.ย. 64) อีจัน จะลงพื้นที่ไปแจกของด้วยตัวเอง แต่บางส่วน บ้านพักเด็กฉุกเฉินจะเป็นตัวแทนไปแจกให้
นอกจากน้ำใจที่ลูกเพจอีจันส่งมาสนับสนุนจนก่อให้เกิดโครงการดังกล่าวนี้แล้ว สิ่งสำคัญที่สุด ที่ทำให้อีจันปันน้ำใจลงใต้ได้ในครั้งนี้ คือ การได้รับความสนับสนุนจาก Thai smile cargo ซึ่งเป็นขนส่งทางอากาศ โดยดำเนินงานร่วมกับ บริษัทการบินไทย และบริษัทเอวินดัส ช่วยนำส่งกล่องกำลังใจและนม ไปให้ถึงแม่ๆชาวนราธิวาส
