จำเรื่องราวของน้องเต้าหู้ ได้ไหมคะ
เด็กน้อยวัย 2 ขวบ เดินชนหม้อต้มแซ่บที่กำลังเดือด แล้วตกลงไปในหม้อ โดนลวกเป็นแผลพองไหม้ทรมานไปทั้งตัว
อุทาหรณ์ หม้อต้มแซ่บเดือดๆ คว่ำหกลวกตัวหลานสาวและอาการของน้องตอนนี้คือ ติดเชื้อ ต้องรีบนำตัวมารักษาต่อ ที่ รพ.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต
ด.ญ. 2 ขวบเดินชนหม้อต้มแซ่บ อาการหนักแผลติดเชื้อถูกย้าย รพ.ด่วนความคืบหน้าล่าสุด 15 กันยายน 2566 พ่อและแม่ ได้เดินทางมาร้อง มูลนิธิปวีณาฯ ขอความช่วยเหลือน้องเต้าหู้ลูกสาววัย 2 ขวบ ซึ่งแผลของน้องตอนนี้ รพ.หัวหิน ประเมินความลึก 2 nd degree burn 64% ต้องทำแผลผ่าตัดอาทิตย์ละ 3 ครั้ง โดยต้องใช้แผ่นแปะแผลลดความเจ็บปวดผิวหนัง แพทย์ต้องใช้ใบมีดตัดเนื้อตายและ spray รักษาแผลอักเสบ เนื่องจากวัสดุเหล่านี้ไม่มีใน รพ.หัวหิน จึงมีค่าใช้จ่ายต้องสั่งจากบริษัท นอกเหนือบัตร 30 บาท จึงขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิปวีณาฯ ซึ่งตอนนี้ น้องเต้าหู้ ติดเชื้อ ต้องย้ายมารักษาที่ รพ.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต
น.ส.พิมพ์วิมล แม่น้องเต้าหู้ เล่าว่า สามีเพิ่งได้งานเป็นเชฟอยู่ที่สนามกอล์ฟแห่งหนึ่งเงินเดือน 10,500 บาท ส่วนตสเป็นพนักงานแนะนำขายอุปกรณ์ศิลปะเงินเดือน 9,000 บาท มีลูกสาว 2 คน อายุ 4 ขวบ กับ 2 ขวบ น้องเต้าหู้เป็นลูกสาวคนเล็ก
เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2566 เป็นวันเกิดเหตุ ตนกับสามีไปทำงาน ช่วงบ่ายย่าโทรมาหาตนให้รีบกลับบ้านมาดูลูกด่วน เมื่อกลับถึงบ้านตนแทบช็อก เห็นสภาพน้องเต้าหู้ตัวเปื่อยมีแผลพุพองตั้งแต่ลำคอลงมาถึงที่เท้า
โดยย่าบอกกับตนว่า ก่อนเกิดเหตุย่ากำลังยุ่งอยู่กับการเตรียมกับข้าวไปขายไม่รู้ว่าหลานเดินตามหลังมาในครัว จู่ๆ น้องเต้าหู้ก็เดินไปชนกับหม้อต้มแซ่บซึ่งเป็นหม้อใบใหญ่เบอร์ 40 ก่อนจะตกลงไปทั้งตัวสภาพหงายหลังนอนแช่อยู่ในหม้อน้ำต้มแซ่บร้อนๆ ย่าจึงรีบช่วยขึ้นมาแล้วถอดเสื้อผ้าเอาน้ำเย็นราดตัวก่อนจะรีบให้แม่มาดู จากนั้นแม่ได้เรียกรถโรงพยาบาลมารับตัวลูกไปโรงพยาบาลทันที
หลังไปถึงโรงพยาบาลแพทย์ห้องฉุกเฉินได้ทำแผลให้น้องก่อนส่งตัวไปห้องปลอดเชื้อและเข้าห้องไอซียู กระทั่งวันที่ 11 กันยายน ที่ผ่านมา แพทย์ตรวจพบว่าผิวหนังเสียหายความลึกระดับ 2/3-3 ต้องทำการผ่าตัด ลูกใช้สิทธิ 30 บาท ในการรักษา แต่มีค่ายาและค่าอุปกรณ์นอกบัญชีที่ต้องจ่าย เช่น ใบมีดที่ตัดระดับความลึกของเนื้อตาย ราคา 16,050 บาท สเปรย์รักษาแผลเนื่องจากการไหม้ ราคา 10,950 บาท
อุปกรณ์ดังกล่าวภายในโรงพยาบาลไม่มี แม่ต้องจ่ายเงินก่อนเพื่อสั่งซื้อจากบริษัทข้างนอก และยังมีค่าแผ่นแปะรักษาความชุ่มชื้นของผิวหนังเพื่อลดการเจ็บปวด ราคาแผ่นละ 580 บาท ต้องใช้ครั้งละประมาณ 8-10 แผ่นต่อครั้ง ประมาณ 5,000-6,000 บาท และแพทย์แจ้งว่าจะต้องมีการผ่าตัดอาทิตย์ละ 3 ครั้ง ซึ่งต้องใช้เงินจำนวนมาก แม่ต้องไปกู้ยืมเงินมาเพื่อรักษาลูก ตอนนี้ลูกร้องไห้ตลอดเวลา สภาพจิตใจย่ำแย่ พ่อแม่ทุกข์ใจมากอยากให้น้องปลอดภัย จึงอยากขอให้มูลนิธิปวีณาฯ ช่วยเหลือ
หลังรับเรื่อง นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ กล่าวว่า พ่อแม่ได้แจ้งเรื่องขอความช่วยเหลือมามูลนิธิปวีณาฯ เมื่อวันที่ 12 กันยายน ตนจึงได้ประสาน นายจิตตรัตน์ เตชวุฒิพร ผอ.รพ.หัวหิน เพื่อสอบถามอาการน้องเต้าหู้ด้วยความเป็นห่วง ทราบว่าทางโรงพยาบาลได้ดูแลน้องอย่างดี และต้องมีค่าใช้จ่ายตามที่พ่อแม่แจ้งกับทางมูลนิธิปวีณาฯ จึงได้ประสาน เพจอีจัน และมูลนิธิเพชรเกษม บริจาคเงินช่วยเหลือ
กระทั่งเมื่อคืนที่ผ่านมา (14 กันยายน) แพทย์แจ้งกับพ่อแม่ว่าน้องเต้าหู้มีอาการติดเชื้อต้องส่งตัวด่วนเพื่อมารักษาต่อที่ รพ.ธรรมศาสตร์ และมาถึงโรงพยาบาลในช่วงตี 3 ที่ผ่านมา นางปวีณาจึงได้ประสาน รศ.นพ.พฤหัส ต่ออุดม ผอ.รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เพื่อติดตามด้านการรักษา
และในวันพรุ่งนี้ (16 กันยายน 2566) นางปวีณา พี่จัน เจ้าของเพจอีจัน จะเดินทางไปเยี่ยมน้องเต้าหู้ที่โรงพยาบาลพร้อมมอบเงินช่วยเหลือให้กับครอบครัวเบื้องต้น
นอกจากนี้ ยังมีพี่น้องพยาบาลที่หัวหินรวมเงินจำนวน 23,980 บาท ซึ่งได้มอบให้กับแม่ของน้องไปเรียบร้อยแล้วค่ะ
หากผู้ใจบุญท่านใดต้องการจะช่วยเหลือ “น้องเต้าหู้” สามารถบริจาคได้ที่บัญชีแม่น้องเต้าหู้โดยตรง ชื่อบัญชี น.ส.พิมพ์วิมล มงคล ธนาคารกสิกรไทย สาขา ตลาดฉัตร์ไชย หัวหิน เลขที่บัญชี 043-8-43203-5
คลิปอีจันแนะนำ
กังหันแมวสลิด ตกได้หมดไม่สนพระสนเจ้า