หนุ่มตาบอดเลือนราง ขอว่ายน้ำข้ามทะเล ระดมทุนสร้าง รร.เด็กพิเศษ อีจัน

หัวใจนักสู้! หนุ่มตาบอดเลือนราง ขอว่ายน้ำข้ามทะเล ระดมทุนสร้าง รร.เด็กพิเศษ อีจัน พิชิตเกาะสิงโตชาเลนจ์

หนุ่มพิการ ตาบอดเลือนราง ใจสู้ไม่กลัว ขอทำตามฝันที่ท้าทาย ว่ายน้ำข้ามทะเล พิชิตเกาะสิงโตชาเลนจ์ ระดมทุนสร้างโรงเรียนเด็กพิเศษอีจัน

อีจัน พาไปรู้จัก นายวิรุตม์ อภัยวงศ์ หรือ “ไบร์ท” อายุ 27 ปี หนุ่มพิการ ตาบอดเลือนราง ผู้ที่ส่งต่อแรงบันดาลใจให้คนพิการ ได้มีความหวังเห็นคุณค่าในตัวเอง ถึงแม้ว่าร่างกายจะพิการ แต่ไม่ใช่อุปสรรคต่อความฝัน ความหวัง และสิ่งที่อยากจะทำ

จากคนปกติ กลายเป็น คนพิการ

คุณไบร์ท บอกว่า ปัจจุบันผมเป็นนักวิชาการศึกษา อยู่ที่ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ทำหน้าที่ดูแลศูนย์บริการสนับสนุนนิสิตพิการ คอยช่วยเหลือเรื่องการเรียน ประสานงานกับอาจารย์ผู้สอน เป็นผู้จัดการโครงการต่างๆ เพื่อพัฒนาศักยภาพนิสิตพิการ

ผมพิการตาบอดเลือนราง มานานแล้วเกือบ 20 ปี ย้อนกลับไปตั้งแต่ผมอายุ 10 ขวบ เป็นเนื้องอกในสมอง ทับเส้นประสาทตา จากตอนแรกเรียนอยู่ในระบบปกติ ต้องย้ายมาโรงเรียนคนพิการ

พิการชีวิตเปลี่ยน โลกที่เห็นเลือนราง

ตอนนั้นผมรู้สึกผิดหวัง เพราะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคย มองไปทางไหนก็มีแต่เพื่อนที่เป็นคนพิการ ผมร้องไห้ เสียใจมากๆ

จนเวลาผ่านไป… มีเพื่อนคนหนึ่ง พิการตาบอดเลือนราง เป็นเหมือนแสงสว่างของผมเลย เพื่อนคนนั้นมาชวนผมไปเตะบอล เล่นดนตรี ผมก็เลยสงสัยว่าทำได้ยังไง เพราะเพื่อนมองไม่เห็น ผมอยากรู้เลยไปเล่นกับเพื่อน และได้เรียนรู้วิถีชีวิตคนตาบอด

พาร่างกายพิการ เผชิญหน้าโลกเลือนราง

จนในที่สุด… ผมปรับตัวได้ เริ่มเข้าใจวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไป สามารถอยู่กับมันได้ ทำเหมือนว่าเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต แล้วก็เลิกเสียใจกับความพิการ ผมรู้สึกโชคดีที่ได้เจอเพื่อนที่พิการ ได้รู้จักตัวเองในมุมใหม่

จนในที่สุด… ผมเรียนต่อปริญญาตรี ที่ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ วิธีการเรียนของผมก็คือ ใช้โปรแกรมอ่านหน้าจอ ชื่อว่าโปรแกรมช่วยอ่านให้ผมฟังได้ มีทั้งภาษาอังกฤษและภาษาไทย จนผมเรียนจบได้กลับมาทำงานที่ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ อีกครั้ง

จุดเริ่มต้น สู่ ความท้าทาย

ตอนแรกผมได้รู้จัก กลุ่มคนพิการเล่นกีฬา ชื่อว่า “กลุ่มวิ่งด้วยกัน” ก็เลยสนใจที่จะลองไปวิ่งที่สวนลุมพินี ได้ไปเจอกับอาจารย์ มศว. ซึ่งเป็น ถามว่า อยากลองทำอะไรที่มันท้าทายไหม พร้อมชวนไปว่ายน้ำในทะเล โดยบอกว่า เดี๋ยวเราไปหาวิธีว่ายน้ำในทะเลกัน

ผมเลยตัดสินใจทันทีว่าจะไป ไม่ได้คิดอะไรเลย เพราะชอบความท้าทายอยู่แล้ว ผมมีพื้นฐานการว่ายน้ำอยู่แล้ว

บทพิสูจน์ความกล้า ว่ายน้ำข้ามทะเล ครั้งแรก

พอถึงวันที่… ต้องไปว่ายน้ำในทะเลจริงๆ โค้ชที่ว่ายด้วยกัน ใช้เชือกคล้องเอว ระหว่างผมกับโค้ช แล้วว่ายน้ำไปคู่กัน

ช่วงระยะทาง 1 – 3 กม. เป็นช่วงทรมานสุดๆไปเลย ทำให้ตั้งคำถามกับตัวเองว่า เรามาทำอะไรที่นี่ ทำไมต้องมาทรมานตัวเอง ทำไมต้องมาอยู่ในพื้นที่ไม่ปลอดภัย และน่ากลัวขนาดนี้

แต่สุดท้าย… ได้คำตอบว่า ผมอยากท้าทายศักยภาพตัวเอง อยากทำให้ได้ อยากเป็นแรงบันดาลใจ ให้กับเพื่อนๆที่พิการ อะไรที่มันยาก อย่าคิดว่าตัวเองทำไม่ได้ เพราะบางทีเราอาจจะทำได้ แต่ถ้าทำไม่ได้ ก็ไม่เห็นเป็นอะไรเลย อย่างน้อยเราก็ได้ลองทำ

บทพิสูจน์ ความพิการ ไม่ใช่อุปสรรค

ต่อมา ผมไปว่ายน้ำข้ามทะเล ครั้งที่ 2 ระยะทาง 6 กม. ที่ จ.กระบี่ ได้ทำทุกกิจกรรมไตรกีฬา ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน วิ่ง ด้วยตัวคนเดียว

พอได้ทำแล้วมันภาคภูมิใจ ที่มีคนให้โอกาสให้ทำ ในสิ่งที่อยากทำ แล้วพวกเขาเห็นถึงความตั้งใจ ผมไม่เคยยอมแพ้ ชอบพาตัวเองเรียนรู้ไป แล้วได้เห็นว่า… มันทำได้ในแบบของเรา

โค้งสุดท้าย ทำเพื่อน้องๆเด็กพิเศษ

ในวันที่ 1 -2 ก.ค. 66 ผมจะว่ายน้ำข้ามทะเล พิชิตเกาะสิงโตชาเลนจ์ ระดมทุนสร้างโรงเรียนเด็กพิเศษอีจัน เป็นอีกหนึ่งงานที่ผมได้ท้าทายศักยภาพตัวเอง โดยจะมีกลุ่มคนพิการหลากหลายประเภท เข้ามาร่วมแรงร่วมใจกันทำเพื่อน้องๆเด็กพิเศษ

ผมอยากให้ทุกคนช่วยกันสนับสนุน โรงเรียนเด็กพิเศษอีจัน ที่กำลังจะเกิดขึ้นจริงๆแล้ว ทำให้คนพิการได้เรียนหนังสือ ได้เล่นกีฬา แล้วเติบโตเป็นคนที่ดีต่อสังคมต่อไป