อย่าวางใจ สธ.ห่วง หน้าฝนโควิดและไข้หวัดใหญ่ คนจะป่วยและติดง่าย

หน้าฝนนี้ เซฟตัวเอง 2 เท่า อย่าวางใจ สธ.ห่วง หน้าฝนโควิดและไข้หวัดใหญ่ คนจะป่วยและติดง่ายกว่าเดิม

ฝนมาค่อยใจชื้น หน้าร้อนกำลังค่อยๆเบา ค่อยได้หายร้อนหน่อย

แต่เอาดีๆ ฝนมาก็มีเรื่องให้ระวัง

โดย นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค บอกว่า ช่วงนี้ในหลายพื้นที่มีสภาพอากาศแปรปรวน และพายุฝนฟ้าคะนอง ซึ่งกรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่าประเทศไทยจะเข้าสู่ฤดูฝนประมาณสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนพฤษภาคม กรมควบคุมโรค จึงขอให้ประชาชนป้องกันตนเองไม่ให้ป่วยด้วยโรคไข้หวัดใหญ่โดยการล้างมือบ่อยๆ หลีกเลี่ยงสถานที่ผู้คนแออัดหรือสวมหน้ากากหากจำเป็นต้องเข้าไป เนื่องจากระยะนี้ใกล้เข้าสู่ฤดูกาลการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ นอกจากนี้เป็นช่วงเวลาที่สถานศึกษาใกล้เปิดภาคเรียนหากไม่มีการป้องกันที่ดี อาจมีการแพร่ระบาดของโรคได้ง่ายในกลุ่มเด็กนักเรียนและเด็กเล็ก สำหรับผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงป่วยรุนแรง หากมีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ เช่น ไข้สูง มีน้ำมูก ไอ เจ็บคอ ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยตามตัวให้รีบพบแพทย์เพื่อตรวจรักษาโดยเร็ว

การฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ยังเป็นสิ่งที่จำเป็นในกลุ่มเสี่ยง โดยเฉพาะประชากร 7 กลุ่ม ได้แก่ หญิงตั้งครรภ์ อายุครรภ์ 4 เดือนขึ้นไป เด็กอายุ 6 เดือน ถึง 2 ปี ทุกคน ผู้มีโรคเรื้อรัง ดังนี้ ปอดอุดกั้นเรื้อรัง หอบหืด หัวใจ หลอดเลือดสมอง ไตวาย ผู้ป่วยมะเร็งที่อยู่ระหว่างการได้รับเคมีบำบัด และเบาหวาน ผู้ที่อายุ 65 ปีขึ้นไป โรคธาลัสซีเมียและผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง (รวมผู้ติดเชื้อ HIV ที่มีอาการ) โรคอ้วน (น้ำหนัก> 100 กิโลกรัม หรือ BMI > 35 กิโลกรัมต่อตารางเมตร) และผู้พิการทางสมองที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ที่เสี่ยงสูงต่อภาวะป่วยหนักและเสียชีวิตจากโรคไข้หวัดใหญ่ ซึ่งกลุ่มเหล่านี้มีความเสี่ยงป่วยหนักจากโรคโควิด-19 ด้วยเช่นกัน

การสร้างเสริมภูมิคุ้มกันต่อทั้งสองโรคควบคู่กันจึงเป็นอีกหนึ่งมาตรการสำคัญที่จะช่วยปกป้องกลุ่มเสี่ยงและคนรอบข้างได้ และปีนี้เริ่มการรณรงค์ฉีดวัคซีนป้องกันทั้ง 2 โรคพร้อมกันภายใน วันเดียวกันโดยฉีดที่ต้นแขนคนละข้าง” นายแพทย์ธเรศ กล่าว

สถานการณ์แพร่ระบาดของโรค ไข้หวัดใหญ่ในปีนี้เพิ่มขึ้นอย่างน่าจับตา รายงานเฝ้าระวังโดยกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ณ วันที่ 1 พฤษภาคม 2566 มีผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ จำนวน 45,500 ราย มากกว่าค่ามัธยฐาน 5 ปีย้อนหลัง มีผู้ป่วยเสียชีวิต 1 ราย กลุ่มที่พบอัตราป่วยสูงสุด ได้แก่ อายุ 0-4 ปี เท่ากับ 346.2 ต่อประชากรแสนคน รองลงมาเป็นอายุ 5-14 ปี (244.4) และอายุ 15-24 ปี (51.2) ผู้ป่วยเป็นเพศชายมากกว่าเพศหญิงเล็กน้อย

ข้อมูลการเฝ้าระวัง สายพันธุ์เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่โดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ขณะนี้พบไวรัสสายพันธุ์ A/H3 ร้อยละ 53 มากที่สุด รองลงมาเป็น สายพันธุ์ B และ A/H1 2009 ร้อยละ 31 และ 16 ตามลำดับ การเฝ้าระวังเหตุการณ์การระบาดโรคไข้หวัดใหญ่ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-1 พฤษภาคม 2566 พบการระบาดเป็นกลุ่มก้อน 15 เหตุการณ์ และยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น มากที่สุดในโรงเรียน พบการระบาด 7 เหตุการณ์ รองลงมาเป็นเรือนจำ 5 เหตุการณ์ วัด 2 เหตุการณ์ และค่ายทหาร 1 เหตุการณ์ จึงขอให้ผู้รับผิดชอบสถานที่เหล่านี้ เข้มงวดมาตรการป้องกันโรค ได้แก่ สวมหน้ากากเมื่อมีอาการป่วยเพื่อลดการแพร่เชื้อ ล้างมือ บ่อยๆ เลี่ยงการอยู่ในที่มีผู้คนแออัดหรือสวมหน้ากาก นอกจากนี้ แนะนำประชากรกลุ่มเสี่ยงเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ และวัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่สถานพยาบาลใกล้บ้าน

อย่าตระหนกแต่ต้องตระหนักนะคะ สุขภาพเราต้องระวัง