เศรษฐา ทวีสิน แท็กทีมเพื่อไทย แจงนโยบาย เงินดิจิทัล 10,000 บาท

เศรษฐา นำทีมเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย ชี้แจงนโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท

ทันทีที่ ‘พรรคเพื่อไทย’ ประกาศนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ด้วยนโยบายเติมเงินในกระเป๋าตังค์ดิจิทัล 10,000 บาท ก็เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก ถึงนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย

เศรษฐา พรรคเพื่อไทย ประกาศเติมเงินดิจิทัล 10,000 บาทให้คนไทย

เมื่อเช้าวันนี้ (7 เม.ย.66) นายเศรษฐา พร้อมด้วย นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช  ประธานคณะทำงานนโยบาย พรรคเพื่อไทย และประธานกรรมการด้านเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทย ดร.เผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย  และกรรมการ เลขานุการ และโฆษกคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทย นายจักรพงษ์ แสงมณี นายทะเบียนพรรค และกรรมการด้านเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทย

จึงร่วมกันแถลงข่าวไขข้อข้องใจดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท

โดย นายเศรษฐา กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 8 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยบอบช้ำหนัก โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ ประชาชนมีรายได้ลดลง ขณะที่ รายจ่ายเพิ่มขึ้น ตกอยู่ในภาวะซึมลึก ซึมยาว ซึมนาน รัฐบาลยุคปัจจุบันจึงค่อยๆ หยอดน้ำข้าวต้มลงมา เป็นจำนวนเงินเล็กๆ น้อย ซึ่งตามหลักเศรษฐศาสตร์แล้วนั้น เป็นวิธีที่ไม่ถูกต้อง เพราะไม่ก่อให้เกิดการหมุนเวียนในเศรษฐกิจ การเจริญเติบโตที่เหมาะสม

ดังนั้น พรรคเพื่อไทย คิดใหญ่ ทำเป็น โดยนโยบายเติมเงินในกระเป๋าตังค์ดิจิทัล 10,000 บาทนั้น  เราไม่ได้ให้ครั้งละ 500 หรือ 1,000 บาท แต่จะสนับสนุนเป็นเงินดิจิทัลเต็มวงเงินทันที

  • ทำไมต้องกระเป๋าตังค์ดิจิทัล 

ด้วยเทคโนโลยีที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง การที่ต้องเงินในกระเป๋าตังค์ดิจิทัล ไม่ใช่เงินสด เพื่อช่วยให้เราสามารถจำกัดวิธีการใช้ได้ เพราะหากให้เป็นเงินสด อาจนำไปใช้ในช่องทางอื่นที่ไม่เหมาะสม เช่น ยาเสพติด หรือการใช้หนี้นอกระบบ เป็นต้น ดังนั้น เทคโนโลยีจะสามารถบ่งบอกได้ว่า มีการใช้จ่ายอย่างไร  ซื้อสินค้าหรือใช้จ่ายประจำวัน รวมถึงอุปกรณ์ในการทำมาหากิน 

“นโยบายดังกล่าว เป็นนโยบายใหม่จึงอยู่ระหว่างการพัฒนา และยังพอมีเวลาในการศึกษารายละเอียด ดังนั้น ระหว่างนี้ ทีมงานพรรคเพื่อไทย จะมีการลงพื้นที่เพื่อพูดคุยกับพี่น้องประชาชนเพื่อให้ทราบถึงความต้องการที่แท้จริง และนำมาประกอบในนโยบาย อาทิ สามารถนำไปใช้หนี้สถาบันการเงินสามารถนำมาชำระได้หรือไม่

หรืออาจกันเงินบางส่วนไว้เพื่อให้ประชาชนสามารถนำไปใช้หนี้ได้ ซึ่งจะมีส่วนช่วยลดหนี้สาธารณะ รวมถึงการแก้หนี้เครดิตบูโร เพื่อให้สามารถนำกลับเข้าสู่ระบบได้อีกครั้ง” นายเศรษฐา กล่าว

  • เงื่อนไขการใช้มีอะไรบ้าง 

สำหรับผู้ที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนประมาณ 50 ล้านคน หรือคิดเป็นประมาณ 5 แสนล้านต่อปี สนับสนุนครั้งเดียว เพื่อกระตุ้นการจับจ่ายในร้านค้า  เอสเอ็มอี อุตสาหกรรม ที่อยู่ในระยะทางไม่เกิน 4 กิโลเมตร จากที่อยู่อาศัยในบัตรประชาชน ให้หมดภายใน 6 เดือน เหตุผลที่ต้องกำหนดกรอบเวลาก็เพื่อกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยโดยเร็ว 

แต่จากเสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่ผ่านมา และหลังจากการพูดคุยกับประชาชน ในพื้นที่ห่างไกลที่ในระยะทาง 4 กิโลเมตร ไม่มีร้านค้าอยู่เลย ก็อาจจะเป็น 6 หรือ 7 กิโลเมตร เพื่อให้สอดคล้องตรงตามความต้องการ

“หากที่อยู่ตามบัตรประชาชน อยู่ จ.เชียงราย แน่นอนว่าจะไม่สามารถใช้ใน กทม. ได้ ทั้งหมดก็เพื่ออยากประชาชนไปใช้เงินที่บ้าน กระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน ไม่กระจุกตัวอยู่เฉพาะกรุงเทพ หรือตามหัวเมืองใหญ่ เพียงอย่างเดียว และอย่างน้อยใน 6 เดือนนั้น ก็อยากให้ประชาชนได้เดินทางกลับภูมิลำเนา เยี่ยมญาติ เพื่อเสริมสร้างความอบอุ่นในครอบครัว” นายเศรษฐา กล่าว

  •  ใช้งบจากภาษีสนับสนุน

ทั้งนี้  นายเศรษฐา ยืนยันว่า เศรษฐกิจดิจิทัล จะทำให้ประเทศไทยก้าวมาสู่แนวหน้าระดับโลกได้ ดิจิทัลวอลเล็ต  10,000 บาท เป็นการกระตุกเศรษฐกิจ ให้คนไข้ในช่วง 8 ปีที่ผ่านมาให้ฟื้น ลุกขึ้นมายืนได้  และจะช่วยให้สามารถเก็บภาษีได้มากขึ้น  

รวมกับการจัดสรรงบประมาณประจำปีงบประมาณ 2567 ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีนิติบุคคล 20% จากกำไรของบริษัทต่างๆ  ภาษีจากภาคธุรกิจ และการใช้งบประมาณสวัสดิการจากภาครัฐที่จะลดน้อยลงไป

“ยืนยันว่า เป็นการช่วยเหลือประชาชน  และไม่เคยมองประชาชนเป็นยาจก  เป้าหมายของพรรคเพื่อไทย ช่วยคนให้หลุดพ้นหลุมดำจากความยากจน  ดิจิทัลวอลเล็ต เป็นการจุดเริ่มต้นให้ประชาชนลุกขึ้นทำมาหากินอีกครั้ง และหากพรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้ง ได้จัดตั้งรัฐบาล คาดว่านโยบายดิจิทัลวอลเล็ต จะดำเนินการทันทีในวันที่ 1 ม.ค.67” นายเศรษฐา กล่าว