เรียกว่าหลังจากเจอมรสุมชีวิต เจอ กระแสดราม่าหนัก ถาโถมเข้ามาจากการตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด เพราะจัดงานปาร์ตี้วันเกิด สำหรับ ดีเจมะตูม เตชินท์ ซึ่งเจ้าตัวมีความเครียดอย่างมาก เคยคิดสั้น จนกระทั่งรักษาตัวเองหาย ก็ยังมีความรู้สึกไม่สบายใจ กับกระแสสังคม ล่าสุด ดีเจมะตูม ขอหันหน้าเข้าหาทางธรรม เข้าไปปฏิบัติธรรมที่ เสถียรธรรมสถาน พร้อมกับคุณแม่ และ หนิง ปณิตา เป็นเวลา 3 วัน 2 คืน เพื่อเป็นการฟื้นฟูจิตใจ โดยเมื่อวานก่อน ในเพจเฟซบุ๊กของ เสถียรธรรมสถาน ได้มีการไลฟ์สด พูดคุยเรื่องของธรรมะ โดยมี ดีเจมะตูม และ หนิง ปณิตา รับหน้าที่พิธีกร ในช่วงหนึ่งของการไลฟ์ แม่ชี ศันสนีย์ ได้พูดคุยกับ ดีเจมะตูม ถึงเหตุผลที่เลือกมาปฏิบัติธรรม ซึ่ง ดีเจมะตูม ก็เปิดใจว่า
“เมื่อก่อนเป็นคนไม่เข้าวัด รู้สึกว่าไม่ใช่ที่ของเรา คิดว่าที่แบบนี้ เป็นที่ของคนที่มีทุกข์ เราไม่ได้มีทุกข์ แต่ย้อนไปเมื่อ 2 เดือนที่แล้ว เคยมีความรู้สึกว่าไม่อยากมีชีวิตอยู่ แต่ไม่ได้เป็นโรคซึมเศร้า แค่รู้สึกว่าไม่อยากจะรู้สึกอะไรอีกแล้ว เพราะมันมีอะไรเกิดขึ้นเยอะแยะมากมาย ชีวิตมันเปลี่ยนกระทันหันจากคนที่เคยทำงานมาตลอด เป็นคนที่ไปไหนมีแต่คนทักทาย วันนึงต้องกลายเป็นว่าเราต้องอยู่บนเตียงโรงพยาบาล 15 วันไม่รู้ว่าพรุ่งนี้เราจะไข้ขึ้น หรือ ไข้ลด โควิดจะลงปอด หรือไม่ลงปอด เรารู้แค่ว่าเราภาวนาให้เราออกไป ได้ทำความดีก็พอ”
“พี่หนิง ปณิตา ทำให้ มะตูม มาถึงจุดนี้ได้ ตอนอยู่โรงพยาบาล ตูม มีโอกาสได้คุยกับ พี่หนิง ทุกคืนร้องไห้กับ พี่หนิง ทุกคืน พี่หนิง พูดธรรมะสอน มะตูม แต่เราคิดว่าธรรมะไม่ได้ช่วยทำให้เราหายป่วย ไม่ได้ช่วยให้เราออกไปมีงานทำนะ พอ มะตูม ได้เปิดใจ นั่นคือการภาวนาสวดมนต์บนเตียงครั้งแรกในโรงพยาบาล มะตูม ขอว่าถ้าลูกได้ออกไปลูกจะทำความดี สุดท้ายวันนี้ก็มาถึงแล้วจริงๆต้องขอขอบคุณ พี่หนิง ปณิตา ด้วยครับ”
“ตูม คิดว่าถ้าพูดอย่างเดียวว่าสำนึกแต่ไม่ปฏิบัตินั้นคือยังไม่สำนึก ตูม เลยอยากจะทำก่อน ณ วันนี้ ตูม แค่รู้สึกแล้วว่าสิ่งที่ ตูม ทำ ตูม เดินพลาด มันเป็นความผิดพลาดที่เกิดจากตัว มะตูม เหตุการนั้นยอมรับว่าขาดปัญญา มะตูม ไม่คิดโทษโรค ไม่โทษเพื่อน ไม่โทษใคร โทษตัวเอง”
เมื่อ แม่ชี ศันสนีย์ ถามว่า วันนี้ มะตูม อยากขอโทษใคร เจ้าตัวก็บอกว่า
“นี่คือการออกสื่อครั้งแรกของ ตูม ถ้าไม่นับนักข่าว อยากขอโทษประชาชนทุกคนซึ่งก็ขอโทษไปแล้ว ตูม ปล่อยผ่านตรงนั้นมาแล้วก้าวผ่านทุกอย่างและคนที่อยากขอโทษที่สุดเลยก็คือ คุณแม่”
หลังจากนั้น ดีเจมะตูม ก็เดินไป ก้มกราบ ขอโทษคุณแม่ ซึ่งคุณแม่ ก็ร้องไห้ พร้อมเผยว่า
“ให้อภัยลูกเสมอ ไม่ได้คิดว่าเขาตั้งใจ มันเป็นเหตุการณ์ที่เราก็อยู่ด้วยกัน แล้วก็ไปด้วยกัน จะพูดเราไม่ได้ตั้งใจก็ได้ มันเป็นเหตุการณ์ที่เราคาดไม่ถึงมากกว่า คุณแม่ไม่เป็นไม่ติดโควิด จากมะตูมมา คุณแม่อาจจะมีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงด้วย อยากจะให้พรลูก กับการกลับมาของ มะตูม ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในวันข้างหน้าจะเป็นยังไงก็ขอให้มีสติ คือสติมันก็จะพาเราไปในสิ่งที่ถูกได้แค่นั้นจริงๆ”
ด้าน หนิง ปณิตา ก็พูดถึงความในใจที่มีต่อ ดีเจมะตูม ว่า
“เวลาที่เราอ่ะคิดจะคบกับใครสักคนหนึ่ง เราต้องดูที่เนื้อในของเขา เด็กคนนี้เป็นเด็กที่ภายนอกอาจจะดูแบบสนุกสนานร่าเริงไม่มีแก่นสารแต่ข้างในเขา สิ่งเดียวเลยที่เพื่อนทุกคนรัก เพราะเขาอยากที่จะทำให้คนรอบข้างมีความสุขเราไม่ว่าใครเอ่ยขอความช่วยเหลือ เด็กคนนี้ไม่เคยมีสักครั้งที่จะไม่ทำให้ แต่พอวันนึงที่มันผิดพลาดพวกเราเนี่ยเป็นเพื่อนเราต้องเตือน เราต้องด่า ถ้าจะโกรธไม่ว่า แต่ขอให้รู้ว่านี่คือความจริง ถ้าเขาล้มแล้วสำนึกเราต้องอยู่ข้างๆเขา ที่ผ่านมาเขาไปสนใจเรื่องเข้าวัด วันนึงมานุ่งขาวห่มขาว ก็อยากจะให้เอาความผิดพลาดของตัวเองมาแชร์ให้คนอื่นฟัง เพื่อจะได้เป็นประโยชน์ แค่อยากจะหากิจกรรมให้เขาทำ ไม่ได้ตั้งใจว่าจะชวนมาปฏิบัติธรรม เพราะคิดว่าชวนยังไงเขาก็ไม่มา เขาตอบกลับมาว่า ถ้าจะไป ไปนอนเลยได้ไหม เราดีใจมาก หนิงเคยผ่านเรื่องร้ายๆมามาก และเคยทำผิดพลาดในชีวิตเยอะมาก เชื่อเถอะว่าไม่มีใครอยากทำผิด แต่พอเราผิด เราต้องสำนึกผิด ”
ทั้งนี้ มะตูม ก็เปิดใจตอนว่า
“ที่ผ่านมาคิดว่า คนมีทุกข์ วิ่งหนีทุกข์ ก็เลยเข้าหาธรรมะ แต่ความจริงแล้วธรรมะเป็นการวิ่งกลับต่างหาก เรากลับมาสู่สภาพจิตใจแบบศูนย์เลย ยังไม่มีจิตปรุงแต่ง ใครเป็นศัตรู ใครเป็นมิตร ในตอนแรกเราปรุงแต่งมากๆเรามีอคติ จนมีคุณยายมาพูดกับตูมนะว่า เป็นกำลังใจให้ ผ่านมันมาแล้วนะลูก ตูมเพิ่งรู้ว่าคุณยายท่านนั้นเป็นมะเร็ง คำพูดนี้ทำให้ ตูม เกิดใหม่ ตูม คิดได้ว่า โควิดฆ่า ตูม ไม่ตาย แต่ ตูม ฆ่าตัวเองตายมาแล้ว อยากจะบอกว่า ธรรมะเริ่มต้นได้ด้วยตัวเองครับ ทำได้ที่บ้านเลยครับ ปฏิบัติได้เลย”
แอดเชื่อว่า การเข้าหาธรรมะ อย่างน้อยก็ทำให้จิตใจที่ไม่สงบ เป็นทุกข์ กลับมามีสติมากยิ่งขึ้น การเข้าไปปฏิบัติธรรมครั้งนี้ของ ดีเจมะตูม น่าจะทำให้เจ้าตัวมีสติ และมีสภาพจิตใจที่ดีขึ้นในเร็ววันนั่นเองค่ะ