เป็นดาราที่มากฝีมือจริงๆสำหรับ กิก ดนัย จารุจินดา ที่ล่าสุดเจ้าตัวผันตัวมาเป็นนักแสดงอิสระแล้ว งานนี้บอกเลยว่างานละครแน่นมากๆ และอีกหนึ่งประเด็นคือ บทบาทคุณพ่อลูกหนึ่ง ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้างต้องไปอัปเดตกันหน่อย ล่าสุด เจ้าตัวได้เปิดตัวสินค้าของตัวเองที่ทำร่วมกับพระเอกสุดฮอต เกรท วรินทร โดยมีงานเปิดตัว BIONOX ไปเป็นที่เรียบร้อยที่ EVEANDBOY สาขาเมกาบางนา ที่จัดขึ้นเมื่อวานนี้ 28 พ.ค. โดนหนุ่ม กิก เล่าว่า
“ปกติ ผมกับเกรท ทำธุรกิจร่วมกันอยู่แล้ว ตั้งแต่ร้านอาหารญี่ปุ่น จนมาตัวนี้ เอาจริงๆ เกรท กับผมมีปัญหาเรื่องผมร่วง และก็เลยคิดทำสินค้าตัวนี้”
ธุรกิจทำเยอะมาก มีเวลาดูแลลูกมั้ย?
“ผมเป็นคนบาลานซ์ชีวิต มีทั้งช่วงที่งานเยอะ และก็งานเบาบาง คืออย่างโควิด 2 ปี งานเบาบางจริงๆ ร้านกระทบหนักมาก เราก็อยู่มาได้ด้วยจิตใจเรา และเรามีลูกเล็กพอดี เลยรู้สึกว่าท้อไมได้ เราเลือกที่จะตักตวงความสุขกับลูก คือตอนนั้นร้านก็ต้องปิดเพราะมันมีเรื่องของการล็อคดาวน์ หยุดหมด รวมถึงงานในวงการบันเทิงก็หยุด กองออกไม่ได้ สุดท้ายเราได้อยู่กับครอบครัว 24 ชม. จากคนที่นอนก่ายหน้าผาก ท้อแท้ เราเครียด มันมีภาระ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของลูกน้อง ต้องแบบลูกน้อง 30-40 ชีวิต จะทำยังไง อุ้มร้านยังไง แต่พอเราหันไปเจอลูกเมียเราอยู่ และเปลี่ยนความคิดจากคิดลบ เป็นคิดบวก อยู่กับลูกให้กำลังใจซึ่งกันและกัน จนตอนนี้เราผ่านจุดที่เครียดที่สุดมาแล้ว ปัญหาต่อๆมาก็ยังมีอยู่ อย่างปีนี้โควิดเบาบางลง แต่ก็ยังมีปัญหาเรื่องของเศรษฐกิจเข้ามา อย่างผมทำร้านอาหารทุกอย่างก็แพงไปหมด แต่เราก็รู้สึกว่ามันก็แก้ได้ ต้องแก้ที่ใจตัวเองก่อน จริงๆผมขอบคุณมันนะ โควิด เพราะว่ามันทำให้ผมโตขึ้น อะไรที่เราประมทาตอนใช้เงิน มันทำให้เรากลับมาคิดวางแผนในระยะยาว”
ลูกอายุเท่าไหร่แล้ว?
“ 2 ขวบครึ่งครับ เตรียมเข้าโรงเรียนปีหน้า ผมวางแผนไว้แล้วเป็นเรื่องหลักที่คิดตอนนี้เลยนะ มันต้องเริ่มต้นที่ดี เราก็มาแก้จากประสบการณ์ของตัวเอง ตอนเราเรียนเราไม่แฮปปี้กับอะไร เอามาปรับใช้กับลูก เราเลือกให้ลูกเรียนระบบการศึกษาแบบบูรณาการ เลือกเรียนอยู่กับสิ่งแวดล้อม ธรรมชาติ ให้รู้จักการช่วยเหลือตัวเอง ผมมองว่ามันสอบประสบการณ์เด็กได้ ส่วนเรื่องของการเรียนให้เขาเลือกเองว่าเขาอยากเป็นอะไร สนใจอะไร เราก็จะคอยซัพพอร์ตเขา ช่วงแรกๆผมให้ความสำคัญของการเล่นของเขา ให้การเรียนผสมกับการเล่น ให้เขามีความสุข ให้เขามีความคิดสร้างสรรค์ เราไม่ได้ต้องการเกรด 4 เกรด 3 บอกลูดว่าไม่ต้อง เราแค่ต้องการทัศนคติที่ดีของลูก มันเป็นพื้นฐานของการใช้ชีวิต ผมเลยบอกลูกว่าไม่ต้องเนียนเก่งให้พ่อนะ แต่อยากให้ลูกมีความคิดที่ดี”
กลัวเรื่องโควิดมั้ย?
“ตอนแรกก็กังวลนะ ว่าลูกเราจะเรียนยังไง โชคดีที่ 2 ปีนีเก้าเขายังไม่อยู่ในวัยเรียน ตอนนี้โควิดก็เบาบางลงแล้ว แต่ก็ยังประมาทไม่ได้ เราก็ต้องเรียนรู้ไปกับมัน ถ้าเรากลัวมากจนเกินไป มันก็ไมเดินไปข้างหน้า การศึกษามันก็จะอยู่กับที่ ตอนนี่เราก็เฝ้ามองเหมือนกันว่าโรคมันจะไปในทิศทางไหน ค่อยๆคิดไป ปีหน้าค่อยดูความเหมาะสม ถ้าปีหน้าไม่มีอะไรก็ให้ลูกเขาเรียนตามปกติ”
ลูกมีแววเข้าวงการมั้ย?
“เราแฮปปี้กับนิสัยของเขา เขาร่าเริง เราเลี้ยงง่ายๆ อย่างงานวันนี้เขาไม่ตกใจ ส่วนเรื่องอนาคตว่าเขาจะเข้ามาอยู่ในวงการบันเทิงได้หรือเปล่า ผมให้เขาเป็นคนเลือกดีกว่า ถ้าเขาสนใจเราก็พร้อมดัน พร้อมสนับสนุน”
ลูกคนที่สองจะมาเมื่อไหร่?
“จริงๆมีแพลนต่อๆกันเลย แต่พอมีโควิด มันค่อนข้างลำบาก ต้องระมัดระวังเรื่องของความปลอดภัยทั้งคุณแม่ และคุณลูก เราไม่ได้รีบขนาดนั้นอาจจะยืดจากปีนี้เป็นปีหน้า ตอนนี้มันอยู่ในทิศทางที่ดีแล้ว ก็แพลนที่จะมีลูกต่อไป เพราะไม่อยากให้อายุห่างกันมาก”
อยากมีสักกี่คน แฝดเลยมั้ย?
“ ใจอยากมี 3 ไอเรื่องแฝดเราต้องพึ่งการแพทย์ แต่ตอนนี้นี้ของธรรมชาติ ขอเอาคนที่สองก่อน คนที่ 3 ค่อยว่ากัน”
ผลงานตอนนี้มีอะไรบ้าง?
“หลังจากออกมาเป็นนักแสดงอิสระ ละครก็หลากหลายมากขึ้น ก็มีปิดกล้องไปแล้วก็มีลายกินรี ,ด้ายดิบ เกี่ยวกับแอคชั่น เป็นมวย บุษบาลุยไฟ ทั้ง 3 เรื่องเป็น ละครพีเรียด หมดเลย 3 คาแรคเตอร์ด้วย และก็มีซีรีส์เรื่อง ยมยางวิกาล ,ซีรีส์เรื่อง ด้วยรักและหักหลัง ตอนนี้ก็มี 6 เรื่องครับ เราก็มีการจัดสรรค์เรื่องของคิวของเราให้เหมาะสมครับ สุดท้ายก็ฝากผลิตภัณท์ของผมกับเกรทด้วยนะครับ เราใช้ตัวเราเป็นตัวรับรอง ไม่ให้เสียชื่อแน่นอนครับ รวมถึงฝากผลงานละครต่างๆด้วยนะครับ”
เรียกว่าเป็นนักแสดงที่มากความสามารถจริงๆ เล่นได้ทุกบาบาท และกับบทบบาทล่าสุดก็เป็นคุณพ่อที่น่ารักของน้องเก้า ดูแลลูกชายเป็นอย่างดี งานนี้เราคงต้องลุ้นทายาทคนที่ 2 และ 3 ของหนุ่ม กิก ต่อไป สำหรับเรื่องผลงานและธุรกิจต่างๆก็ติดตามกันได้จามช่องทางของเจ้าตัวนั่นเองจ้า
คลิปอีจันแนะนำ
ฟังจากปาก ชาล็อต ชี้แจงสถานะ เจแปน ภาณุพรรณ