คุณแม่ยังติดใจ! หลัง ผจก. แตงโม นิดา เงียบหาย เชื่อมีอะไรซับซ้อน

คุณแม่เผยรู้สึกติดใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สงสัยทำไมเพื่อนที่อยู่บนเรือไม่แจ้งความว่า แตงโม นิดา ตกน้ำ เชื่อมีเงื่อนงำ หลัง ผจก.ส่วนตัวที่อยู่ในเหตุการณ์เงียบหาย

จากกรณีที่นักแสดงชื่อดังอย่างสาว แตงโม นิดา พลัดตกเรือ หายไปในแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณใต้สะพานพระราม 7 ท่าเรือพิบูลย์สงคราม ตั้งแต่เมื่อคืนวานนี้ (24 ก.พ. 65) ช่วงเวลาประมาณ 22.00 น. จน ณ ตอนนี้ (25 ก.พ. 65) เจ้าหน้าที่กู้ภัย และนักประดาน้ำยังค้นหาไม่เจอ ทางทีมข่าวอีจันบันเทิงได้มีการติดต่อไปพูดคุยกับ นางพนิดา ศิริยุทธโยธิน คุณแม่ของสาวแตงโมเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยคุณแม่ได้เปิดเผยว่า

คุณแม่ : “ข้อเท็จจริงตอนนี้อยู่ที่โรงพัก คือว่าในเรือมีอยู่ 6 คน เขาไปล่องเรือ มีผู้ชาย 3 คน ผู้หญิง 3 คน หนึ่งในนั้นมี แตงโม แล้วก็มีผู้จัดการน้อง แตงโม คือกระติกไปด้วย รวม บนเรือมีทั้งหมด 7 คนรวมคนขับเรือด้วย ตามที่คุณแม่ได้ฟังข่าวมาจากคนที่ใกล้ชิดเขาออกเรือกันตั้งแต่ 6 โมงเย็น เพราะน้องโมมีถ่ายรูปแฟชั่นด้วย เป็นรูปตอนที่เขาลงน้ำเนี่ยแหละ รูปสวยเลยล่ะ คุณแม่ขอคนที่เขาเก็บไว้แต่เขายังไม่ให้ ปรากฏว่าช่วงสี่ทุ่ม เขาว่ามาว่าประมาณสี่ทุ่ม น้องโมตกเรือ ตกจากเรือลงไปในน้ำ แล้วเพื่อนเขาก็เอาเรือเข้าฝั่งเลยนะ เขาไม่ได้ช่วยเดี๋ยวนั้น เขาบอกว่าเขาก็วนเรือไปแล้วแต่หาไม่เจอ เขาก็วนกันอยู่พร้อมกับร้องเรียกแต่ก็ยังหาไม่เจอ และเขาก็นำเรือเข้าฝั่ง จากนั้นเขาก็หายกันไปหมดเลย รวมถึงกระติกด้วย”

คุณแม่ : “คุณแม่จะบอกว่างานนี้มันพิลึก คือคุณแม่รู้จากหลานสาว เขาไลน์มาถามว่าคุณป้าหนูฟังข่าววิทยุแล้ว มีข่าวน้องโม เป็นอย่างไรบ้าง เราก็เอะใจแล้ว แต่เขาก็ไม่ได้พูดร้ายแรงอะไรเสร็จแล้วเราจึงโทรไปถามพี่เลี้ยงน้องโม ตอนโทรไปถามเกือบห้าทุ่มแล้ว เขาก็ร้องไห้บอกคุณแม่น้องโมตกน้ำ คุณแม่อย่าเพิ่งออกมานะ มันอันตราย เขาก็พูดแล้วเขาก็ร้องไห้ แล้วเขาก็วางสายไป ผู้จัดการแทนที่จะโทรมาบอกคุณแม่ แต่ไม่มีเลย ไม่ได้บอกอะไรคุณแม่เลยตั้งแต่คืนนั้นจนถึงวันนี้เดี๋ยวนี้ ยังไม่ได้รับการติดต่อจากผู้จัดการน้องโม มันทำให้คุณแม่คิดว่ามันเกิดอะไรขึ้น แล้วพี่เลี้ยงน้องโมที่ชื่อแตงเขาก็รู้อยู่แล้วเพราะกระติกคงบอกเขาว่าน้องโมตกน้ำ แต่เขาก็ไม่ได้โทรบอกคุณแม่ คุณแม่ต้องเป็นคนโทรไปถามพี่เลี้ยงเอง”

นักข่าว : พี่เลี้ยงที่ชื่อแตงเขาทราบข้อมูลว่าน้องโมตกน้ำจากใคร

คุณแม่ : “คุณแม่ก็ยังสงสัยเหมือนกัน แต่คุณแม่ก็ไม่ได้ถามเขา คุณแม่มาทราบจากกระติก จากการที่คุณแม่ติดต่อไปเอง ซึ่งกระติกกับแตงเค้าเป็นลูกพี่ลูกน้องกันก็เลยเข้าใจว่าแตงน่าจะรู้จากกระติก”

นักข่าว : สิ่งที่เกิดขึ้น ณ ปัจจุบันนี้หลังเหตุการณ์ผ่านมา 12 ชั่วโมงแล้ว มีใครแจ้งความคืบหน้าให้กับคุณแม่ทราบไหม

คุณแม่ : “คุณแม่เพิ่งไปแจ้งความกับตำรวจมาเมื่อเช้าว่าน้องแตงโมหายไป ตอนนี้ยังไม่กลับบ้าน ก็ไปแจ้งความไว้ เพราะว่าก็มีเหตุสงสัยอีกอย่างหนึ่งว่าเขาไม่ได้ไปแจ้งความกันไว้เลยว่าน้องโมตกน้ำ เขาใช้วิทยุสื่อสารให้ร่วมกตัญญูส่งไปถึงตำรวจนนทบุรีว่ามีคนตกน้ำที่บริเวณนี้ โดยไม่บอกชื่อน้องโมอะไรเลย คุณแม่ได้อ่านดูแล้วก็ยิ่งโกรธใหญ่เลย ว่าทำไมทำกันเพียงแค่นี้เหรอ คนตกน้ำไปทั้งคน”

คุณแม่ : “ล่าสุดคุยกับน้อง แตงโม เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว คือเมื่อคืนนี้ช่วงสี่ทุ่มแม่คิดถึงลูกมากเลยนะมีความรู้สึกคิดถึงลูก พอโทรไปหาเขา มันเป็นเวลาเดียวกับที่เขาตกน้ำช่วงสี่ทุ่ม”

นักข่าว : คุณแม่ได้รับทราบจากพี่เลี้ยงของน้องแตงโมคือคุณแตงว่าน้องแตงโมตกน้ำ ตกจากเรือแล้วจมหายไปถูกต้องไหมครับ

คุณแม่ : “ล่าสุดคุยกับน้อง แตงโม เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว คือเมื่อคืนนี้ช่วงสี่ทุ่มแม่คิดถึงลูกมากเลยนะมีความรู้สึกคิดถึงลูก พอโทรไปหาเขา มันเป็นเวลาเดียวกับที่เขาตกน้ำช่วงสี่ทุ่ม”

นักข่าว : คุณแม่ได้รับทราบจากพี่เลี้ยงของน้องแตงโมคือคุณแตงว่าน้องแตงโมตกน้ำ ตกจากเรือแล้วจมหายไปถูกต้องไหมครับ

คุณแม่ : “ใช่ค่ะ”

นักข่าว : จนถึงตอนที่คุณแม่ทราบเรื่องตั้งแต่แรกจนกระทั่งถึงปัจจุบันนี้ที่คุยกับเพจอีจันคุณแม่คิดอย่างไรครับ ว่าเกิดอะไรขึ้นกับน้องแตงโมครับ

คุณแม่ : “ข้อ1. ก็คือน่าจะเป็นอุบัติเหตุ ถ้าเรามองในแง่ดีนะ เพราะน้องแตงโมนั่งด้านหลัง น่าจะเป็นอุบัติเหตุที่คุณแม่เห็นว่านั่งหลังก็เพราะว่าถ่ายรูปมา แล้วอีกประเด็นหนึ่งก็คืออาจจะมีการอิจฉาริษยาผลักกันตกไปอะไรอย่างนี้ เพราะว่าผู้ชาย 3 คนนั้นเราก็ไม่รู้จัก”

นักข่าว : ขอโทษครับทำไมคุณแม่ถึงคิดว่ามีคำว่าอิจฉาริษยาครับ กราบขอโทษนะครับ

คุณแม่ : “คืนนั้นแต่งตัวสวยไง สวยมากๆ เลย ชุดสีน้ำตาลใส่ชุดคลุมสีขาว เพิ่งได้เห็นรูปเมื่อเช้ามีนักข่าวคนหนึ่งเอามาให้ดู บอกว่านี่เป็นรูปสุดท้ายของแตงโม คุณแม่ก็บอกขอได้ไหม ก็ไม่ยอมให้ คุณแม่จะไปขอทางทนายเขา ในรูปใส่ชุดสวยมาก”

นักข่าว : แล้วคุณแม่คิดอย่างไรต่อครับ

คุณแม่ : “คิดว่าน่าจะมีอะไรซับซ้อน เพราะว่าผู้จัดการทำไมป่านนี้ยังไม่บอกแม่เลย”

นักข่าว : เขารู้จักเบอร์คุณแม่หรือเปล่าครับ

คุณแม่ : “รู้ดีค่ะ รู้ดีมาก”

นักข่าว : ผู้จัดการส่วนตัวนี่รู้จักคุณแม่ด้วย

คุณแม่ : “รู้จักค่ะรู้จัก”

นักข่าว : คุยกับคุณแม่ด้วย

คุณแม่ : “ถึงเขาไม่รู้ เขาไปขอจากแฟนเขาได้ เพราะเขาก็กลับบ้านไปนะ เขาก็กลับบ้านไป เพราะว่าเขาไปนอนบ้านแตงโมอีกห้องหนึ่ง”

คลิปอีจันแนะนำ
ดีเจแมน เผยความรู้สึก หลังสูญเสีย ต้อย เศรษฐา