หลายๆคนคงทราบกันดีอยู่แล้วว่าอดีตนางเอกสาวอย่าง นิ้ง ณิชชยาณัฐ ศิริพงศ์ปรีดา หรือเป็นที่รู้จักกันดีในชื่อ นิ้ง กุลสตรี ป่วยด้วยโรคไขกระดูกบกพร่อง แต่ปัจจุบันเธอนั้นกลับมามีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง และสดใสขึ้นมากแล้ว หลังจากได้เข้ารับการรักษาตัวมาเป็นเวลานาน
โดยล่าสุดเธอได้โพสต์คลิปวิดีโอ ลงบนอินสตาแกรม บอกเล่าเรื่องราวการรักษาตัวของเธอ ซึ่งเป็นโรคเกี่ยวกับโรคเลือด พร้อมอัปเดตอาการปัจจุบัน ให้แฟนๆได้ฟังกันว่า เริ่มแรกก่อนที่เธอจะรู้ว่าตัวเองป่วยเป็นอะไร เธอสังเกตุเห็นความผิดปกติของร่างกาย คือหากมีอะไรมาชนที่ร่างกายก็จะทำให้เกิดรอยฟกช้ำขึ้น เมื่อเธอไปตรวจเลือด จึงพบว่าตัวเองเป็นโรคไขกระดูกบกพร่อง ไม่สามารถสร้างเกล็ดเลือดได้ จึงเข้ารับการรักษาด้วยการให้เคมีบำบัดทางสายเลือด
เธอยังเผยอีกว่า ตอนที่ให้เคมีบำบัดครั้งแรก เธอพบโรคแทรกซ้อน ทำให้ต้องเข้า ICU เป็นเวลาเกือบเดือน และนอนติดเตียงอีกเกือบปี ต่อมาในช่วงที่ร่างกายเริ่มดีขึ้น คุณหมอก็ให้เริ่มทำกายภาพบำบัด โดยให้ยืนข้างเตียง และเดินรอบเตียง ซึ้งเธอนั้นยังคงจำความรู้สึกปวดร้าว จนน้ำตาจะไหลได้เป็นอย่างดี แต่เธอก็ไม่ท้อ ยังคงบอกกับตัวว่าให้อดทน ต้องยืน และเดิน เพราะหากไม่ทำในวันนั้น เธออาจจะเดินไม่ได้อย่างทุกวันนี้ เธอยังจำได้ดีว่าเธอลุกเดินครั้งแรกเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2563 ที่ข้างลำตัวมีการเจาะข้างปอด เพื่อถ่ายน้ำเสียออก ทั้งหมด 2 รู มีถุงห้อย และท่อปัสสวะ โดยมีคุณหมอ และผู้ช่วย คอยถืออุปกรณ์ตาม ตอนนั้นเธอเดินได้ 2 รอบ แต่ด้วยความดีใจ ถึงจะเจ็บแต่ก็ยังอยากเดินต่อ ทำให้วันนั้นเธอเดินไปทั้งหมด 4 รอบ จนเธอเดินต่อไม่ไหว เพราะเริ่มเหนื่อย ส่วนสามีก็ได้ถ่ายคลิปวิดีโอเก็บไว้ เพราะดีใจที่เธอเดินได้นาน ตอนนั้นเธออยู่ในสภาพที่ศีรษะไม่มีผม แล้วชูสองนิ้วตลอด พอตอนนี้ย้อนกลับไปย้อนดูวิดีโอก็จะยิ้มทุกครั้ง ที่เห็นรอยยิ้มของตัวเองในวันนั้น มีความสุขมากที่อดทนจนผ่านมาได้
ถึงแม้ว่าปัจจุบันเธอยังต้องทานยาเคมีบำบัดอยู่ทุกวัน เพื่อควบคุมโรคเลือด แต่เธอก็ได้ผ่านช่วงเวลาที่ทุกข์ทรมานนั้นมาได้ เพราะกำลังใจจากคนรอบข้าง และความเข้มเข็งของตัวเธอเอง ดังนั้นแล้วเธอจึงอยากจะฝากบอกกับทุกคนที่อาจจะกำลังต่อสู้กับอะไรอยู่ก็ตาม ให้อดทน อย่าลืมว่าคนรอบข้างก็เจ็บปวดไม่แพ้เรา รักตัวเองให้มากๆ และตัวเธอเองก็จะเป็นกำลังใจด้วยเช่นกัน
และนี่ก็เป็นเรื่องราวที่ นิ้ง กุลสตรี ได้เปิดเผยให้พวกเราได้ฟังอย่างละเอียด ทั้งความรู้สึก และการรักษา แอดขอเป็นกำลังใจ และขอชื่นชมในหัวใจที่เข้มแข็ง และหวังว่าทุกคนจะได้รับกำลังใจดีในการสู้ต่อไปจากเรื่องราวของ นิ้ง นะคะ