บรรยากาศงานวิวาห์ สุดชื่นมื่น หนึ่ง บางปู – ปวิช ฉิมพาลี

ภาพบรรยากาศงานวิวาห์ สุดชื่นมื่น หนึ่ง บางปู – ปวิช ฉิมพาลี พร้อมเปิดใจบ่าวสาวกว่าจะลงเอยทุกวันนี้

เป็นอีกหนึ่งข่าวดีสำหรับแม่ค้าออนไลน์ชื่อดัง และ นักแสดง ตลก อย่าง วรัชญากรณ์ อ่อนธรรม หรือที่รู้จักกันในชื่อ หนึ่ง บางปู หลังจากที่เจ้าตัวออกมาประกาศแต่งงานอีกครั้งกับอดีตสามี ปวิช ฉิมพาลี ที่เคยเลิกลากันไป 1 ปี จนกลายเป็นที่ฮือฮาในโลกโซเชียล

ล่าสุด ทั้งคู่ก็ได้ควงกันเข้าสู่ประตูวิวาห์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยงานนี้ อีจันบันเทิง ก็ได้เก็บบรรยากาศสุดชื่นมื่นในงานนี้ มาฝากลูกเพจกันด้วย โดยงานนี้ หนึ่ง บางปู ก็ได้เปิดใจถึงการแต่งงานในครั้งนี้ว่า

“ วันสำคัญวันนี้ เป็นวันที่ไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้นเลย เพราะเราเคยเลิกกันแล้วครั้งหนึ่ง และเราเป็นคนที่ถ้าเลิกแล้วจะไม่เดินถอยหลัง เราจะเดินหน้า และเราชอบเอาชนะ จนเราป่วยเป็นโรคซึมเศร้า มันเลยสอนให้เรารู้จักการให้อภัย อย่างความสัมพันธ์ของเราทั้งคู่ หลังจากที่เลิกลากันไป 1 ปี ความโกรธมันเริ่มลดลง เราก็กลับมาอยู่ด้วยกัน ตอนแรกเขาก็ไปๆ มาๆ จนวันหนึ่งเขาบอกว่าอยากให้มาอยู่ด้วยกันทุกวัน เราจึงบอกว่าถ้าอย่างนั้นก็ต้องไปสู่ขอกับพ่อ แม่ สุดท้ายก็ทำให้มีงานแต่งงานนี้เกิดขึ้นในที่สุด

ส่วนเรื่องสินสอด เขาถามว่าเราจะเอาอะไร เราก็เลยถามเขากลับว่ากล้ายกควายสองตัวให้เราได้ไหม เนื่องจากเรารู้ว่าเขารักสิ่งนี้มาก เป็นพยาควาย แชมป์ระดับประเทศชื่อเสี่ยทองคำ กับเสี่ยมังกรฟ้า ซึ่งสองตัวนี้มีมูลค่ารวมกันประมาณ 25 ล้านบาท โดยเราจะทำอย่างไรกับควายสองตัวนี้ก็ได้ เธอกล้ายกให้เราไหม เขาก็บอกว่าให้ เพราะอย่างไรก็ต้องเป็นของเธอกับลูกอยู่แล้ว จริงๆ เราไม่ได้อยากได้เงินทอง เพราะเรามีทุกอย่างแล้ว เราอยากรู้แค่ความจริงใจ ว่าเขาจะยอมเสียสละสิ่งที่เขารักให้กับเราได้ไหม แต่ที่ปลื้มใจที่สุดคือรถมินิคูเปอร์ คันที่เรารักมาก และเราขายไป 4 ล้านบาท ตอนที่ป่วยเพื่อเอาเงินมาหมุนธุรกิจ และรักษาตัว หลังจากนั้นเราก็ทราบว่าเขาไปสั่งทำขึ้นมาใหม่ให้เรา ในรุ่นเดิม ซึ่งมันมีเพียงแค่ไม่กี่คันในโลก เรารู้สึกว่าเขาใส่ใจรายละเอียดเราดี ถึงแม้ว่าที่ผ่านมาเราจะคุยกันน้อยมากๆ เราอยู่กันไม่เหมือนแฟน อยู่กันเหมื่อนเพื่อนตาย เคียงข้างกันมา

เราคิดว่าชีวิตคู่ของเราสองคนน่าจะสะท้อนปัญหาระบบครอบครัวของสังคมไทย ในปัจจุบันสังคมมีแม่เลี้ยงเดี่ยว หรือครอบครัวที่แตกแยก ค่อนข้างเยอะ แล้วก็มีผู้คนที่มีภาวะซึมเศร้าจากปัญหาเหล่านี้ ซึ่งความละเอียดอ่อนตรงนี้เกิดขึ้นเยอะมากๆ ต่อสังคมไทย มันมีสิ่งเร้ารอบข้างที่ทำให้เราแตกกันได้ง่าย เราอยากให้ทุกคนมองชีวิตครอบครัวเราเป็นตัวอย่าง ขนาดเรายังเลือกที่จะให้อภัย และก็ก้าวต่อไป ทั้งๆ ที่สาเหตุที่เราเคยเลิกกันมันเป็นสิ่งที่เจ็บปวดที่สุดในชีวิต แต่เราทั้งคู่ก็ยอมที่จะให้อภัยเพื่อลูก และก็ปรับตัวไปด้วยกัน มันคือการเอาหลักการของพระพุทธศาสนามาใช้ ให้ชีวิตประคับประครองกันไปได้เรื่อยๆ

หลังจากนี้ก็คงจะอยู่กันแบบเพื่อนตาย ที่มีความรักให้กัน มีมุมหวานกันมากขึ้น เมื่อก่อนเขาจะไม่หวานเลย แต่เดี๋ยวนี้เราเลือกที่จะแสดงความรักต่อเขาก่อน เขาก็จะแสดงความรักกลับมา อยากได้อะไรก็ให้เขาก่อน ค่อยๆ ปรับตัวไปด้วยกัน เมื่อก่อนเราไม่ยอมปรับตัว และเลือกที่จะใช้ความเงียบในการแก้ไข้ปัญหา มันสอนให้เรารู้ว่ามันไม่มีอะไรดีขึ้นเลยถ้าเราไม่คุยกัน เราอยากให้ทุกคนเอาบทเรียนของเราไปปรับใช้ ช่วงนี้มีหลายคนเข้ามาปรึกษาเรื่องความรักแบบนี้เยอะมาก เราให้คำปรึกษาเขา และเป็นช่องทางทำให้เขาฉุกคิดได้ และไม่ต้องทำร้ายตัวเอง

ตอนนี้พอมีเขาเข้ามาแล้วส่งเสริมให้ชีวิตดีขึ้น เราได้ทำในสิ่งที่เรารักมากมาย หลังจากนี้ก็คงอยู่กับคนนี้ไปตลอดชีวิต ขอบคุณที่ทำตามสัญญามาโดยตลอดว่าจะไม่ทิ้งกัน ถึงแม้จะเลิกกันไปแต่เขาก็ไม่เคยทิ้งเรา ต่อไปสัญญาว่าจะใจเย็น มีสติให้มากขึ้น มีเหตผล และดูแลครอบครัวให้ดีกว่าเดิม จากเรื่องนี้มุมมองความรักเปลี่ยนไปมาก มันไม่ใช่แค่ความรักของคนสองคน ที่สำคัญมันคือการคุยกัน ถ้าเราเข้าใจเขา แต่เราไม่คุยกัน มันก็จะไม่เข้าใจ มันคือการที่เราต้องคุยกันด้วยสติ ตามคำสอนของพระพุทธศาสนา เราสามารถนำมาใช้ในการดำเนินชีวิตได้หมดเลย

จริงๆ ครั้งนี้ถือเป็นงานแต่งงานครั้งแรก เพราะก่อนหน้านี้เป็นเพียงการผูกข้อไม้ข้อมือ เนื่องจากมีลูกด้วยกัน และด้วยความที่เรายังไม่มีความพร้อมในหลายๆ อย่าง และเขายังไม่อยากแต่งงานกับเรา ก็ยอมรับว่าตอนนั้นน้อยใจ แต่ ณ ตอนนี้เขาก็เป็นฝ่ายมาขอเราด้วยตัวเอง ส่วนเรื่องดราม่า ตอนนี้ปล่อยแล้ว เรายอมรับกับผลที่เรากระทำ และอีกอย่างเราก็ไม่ได้ทำอะไรผิด เราอธิบายให้คนทั้งโลกฟังไม่ได้ หลังจากนี้ก็อยากโฟกัสไปที่ครอบครัวและลูก สุดท้ายก็อยากจะฝากบอกกับชาวโซเชียลว่า หากเขาไม่ได้ทำอะไรผิด เมื่อมีเรื่องที่น่ายินดี ก็อยากให้ทุกคนยินดี อย่าบูลลี่กันเลย “

ด้านเจ้าบ่าวอย่าง ปวิช ฉิมพาลี ก็ได้เผยความรู้สึกในวันสำคัญวันนี้ว่า “เป็นวันที่เราทำเพื่อลูก และภรรยา ให้กลับมาเป็นครอบครัวกันอีกครั้งหนึ่ง โดยเราสินสอดที่เรานำมาก็คือควาย มีมูลค่ากว่า 30 ล้านบาท เราเป็นคนเลี้ยงควายงามก็อยากให้ทุกคนเห็นคุณค่าของสิ่งนี้ ประเด็นปัญหาต่างๆ ที่ผ่านมา เรามองมันเป็นเพียงสิ่งทดสอบ เราเลือกที่จะมองข้าม และทำปัจจุบันให้ดี จนมีวันนี้ ส่วนประเด็นเรื่องแต่งงานกับเจ้าสาวคนเดิม เราไม่คิดจะเปลี่ยนคนอยู่แล้ว เพราะว่าเรารักเขา”

อีจันบันเทิงก็ต้องขอแสดงความยินดีกับทั้งคู่ด้วยนะคะ ที่ได้กลับมาใช้ชีวิตคู่กัน และเป็นครอบครัวที่อบอุ่นเพื่อลูกอีกครั้ง ขอให้ทั้งคู่มีความสุข นับจากวันนี้เป็นต้นไปเลยนะคะ

คลิปอีจันแนะนำ
หมาก ปริญ ว่าที่เจ้าบ่าวป้ายแดง