ฝันดี-ฝันเด่น เปิดประสบการณ์ลงพื้นที่ช่วยน้ำท่วม 6 จังหวัดภาคกลาง

ใหญ่ ฝันดี – เล็ก ฝันเด่น เผยเรื่องราวการเข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม 6 จังหวัดภาคกลาง พร้อมเล่าถึงเรื่องการมีเซนส์ก่อนสถานการณ์โควิดจะเกิดขึ้น

ถือเป็นบุคคลในวงการบันเทิงที่น่ายกย่องมากๆ สำหรับนักร้อง นักแสดง พิธีกรคู่แฝดมากความสามารถอย่าง ใหญ่ ฝันดี และ เล็ก ฝันเด่น ที่ผันตัวมาเป็นจิตอาสาคอยช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนในเรื่องต่างๆ อย่างล่าสุดทั้งคู่ก็ได้ลงพื้นที่เพื่อไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม 6 จังหวัดภาคกลาง ที่ตอนนี้สถานการณ์น้ำหนักกว่าที่คิด โดยทั้งคู่ได้มาเปิดประสบการณ์ในการลงพื้นที่ช่วยน้ำท่วม พร้อมเผยลางบอกเหตุก่อนเจอโควิดในรายการ คุยแซ่บSHOW เอาไว้ด้วยนั่นเอง

ล่าสุดลงพื้นที่เป็นอย่างไรบ้าง?

เล็ก ฝันเด่น : ในภารกิจครั้งนี้ต้องย้อนกลับไปเมื่อ 10 วันที่แล้วได้ มันเริ่มมีปรากฏการณ์ฝนตกตั้งแต่โซนตะวันออก ถึงตะวันตก รวมถึงทางโซนเหนือ เพราะฉะนั้นในทีมก็มีการเตรียมพร้อม และมองกันว่าทางทิศไทยที่จะมีปริมาณน้ำฝนสะสมเยอะ จนกระทั่งวันพฤหัสบดีที่ 20 กว่าๆ ก่อนสิ้นเดือน ก็เลยไปรอที่พิษณุโลก เพราะว่าแนวฝนมันทะแยงขึ้น แต่ฝนที่สะสมจะไปอยู่แถวสุโขทัย และตราด เยอะ ส่วนวิธีการช่วยเหลือก็แล้วแต่ มันอยุ่ที่ปริมาณของน้ำฝน ว่าจังหวัดไหน ภูมิภาคไหนมีปริมาณสะสมเยอะ ตกอย่างต่อเนื่อง 24 ชั่วโมง หรือ 48 ชั่วโมง รวมถึงดูเรื่องเขื่อน ฝายทดน้ำต่างๆ เพราะพวกนี้จะเป็นตัวแปลทั้งหมด รวมถึงสถิติของอดีต ว่าตรงนี้เคยท่วมไหม พวกนี้จะเป็นตัวแปลในการวิเคราะห์ที่เราจะต้องเอามาคุยกันในทีม เพื่อที่เราจะได้ไปอยู่ตรงนั้นเมื่อช่วงเวลาที่เกิดวิกฤติ

มีไหมที่ปีก่อนๆ ไม่ท่วม แต่ปีนี้ท่วม?

ใหญ่ ฝันดี : มีหลายที่ ปีนี้ที่เห็นได้ชัด อย่างที่นำนารายณ์ คือชาวบ้านที่เราไปช่วย เขาก็มีบ้านยกสูงอยู่แล้ว แต่น้ำมันท่วมถึงหลังคา ตอนที่เราไปช่วยเราก็ถามชาวบ้าน เขาก็บอกว่าตรงนี้ไม่ได้ท่วมมา 10 ปีแล้ว ตั้งแต่ปี 2554 แต่ปีนี้รู้สึกว่าน้ำมันมาแรง และมาเยอะมาก คือบริเวณที่เราเอารถไปจอด ถ้าเป็นสมัยก่อน ยังเอารถเช้าไปอีกได้ตั้งเยอะ แต่ตอนนี้น้ำมันขึ้นมาจนเอารถเข้าไม่ได้ แสดงว่าน้ำมันมาเร็ว แรง และก็สูง และเขาก็ไม่ทันตั้งตัว บางบ้านสร้างบ้านหลังใหญ่ ปรากฏว่าไปหมด เอาของออกมาไม่ทัน

จังหวัดไหนบ้างที่ต้องเตรียมรับมือตอนนี้?

ใหญ่ ฝันดี : เอาง่ายๆ คือเส้นทางตามลำน้ำ ตามแม่น้ำสายหลักของประเทศ คือถ้าปริมาณน้ำมาก น้ำก็จะล้นตลิ่ง และเข้ากินพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซากตามอำเภอต่างๆ

เล็ก ฝันเด่น : แต่ในวันนี้ถ้าเราดูข่าวตั้งแต่ช่วงเช้าหรือเมื่อวาน ตรงแหล่งรับน้ำที่ใกล้กับกรุงเทพมหานคร นั่นก็คือ ชัยนาถ อ่างทอง สิงห์บุรี จนมาถึงบางบาน อยุธยา เมื่อวานผมไปแจกถุงยังชีพที่เกาะเกร็ด น้ำขึ้นหมดแล้ว เรียกว่าเต็มพื้นที่ อย่างบ้านหมอ บ้านหมี่ แนวตั้งแต่รอยต่อลพบุรี สระบุรี เรียกว่าน้ำเต็มพื้นที่หมดเลย ในฐานะที่เราเป็นนักกู้ภัย เราก็มองๆ เพราะมีหลายคนถามว่ากรุงเทพน้ำจะท่วมไหม เราก็ไม่กล้ารับปาก เพราะปริมาณน้ำมันเยอะมาก เพราะเราถามข้อมูลจากผู้ประสบภัยว่าปี 2554 เป็นอย่างไร ทุกคนบอกเหมือนกันว่า ยังไม่เยอะเท่านี้ ไล่ตั้งแต่ สุโขทัย จนถึงตราด จนถึงอ่างทอง เพราะฉะนั้น มันย่อมที่จะมีเหตุและผลในคำตอบนี้ ว่ามันเยอะกว่าปี 2554 ตอนนี้อยู่ที่การบริหารการจัดการน้ำแล้ว เพราะน้ำจากที่สูงไหลลงมาที่ต่ำ กรุงเทพมหานครมันปลายแล้ว

ใหญ่ ฝันดี : แต่เราพูดถึงแค่พายุลูกเดียวนะ แต่ตามข่าวยังมีอีก 3 ลูก ที่กำลังตามมาในเดือนนี้ ปลายสัปดาห์นี้ก็จะไล่มาละ ก็ขอภาวนาให้มีการจัดสรรและผันออกน้ำไปดีๆ เพราะว่าเราเห็นในบางส่วน ในจังหวัดที่มีน้ำท่วม เริ่มสร้างผนังกั้นน้ำตามแม่น้ำ ซึ่งผมก็กลัวนะ เพราะว่าสิ่งนี้มันไม่ได้ถูกกระจายออกไปตามแหล่งพักน้ำ ตามแก้มลิง ตามที่ต่างๆ ที่เราเห็น อย่างวันก่อนที่เราเห็นโซนฝั่งขวาของแม่น้ำเจ้าพระยา เราก็เห็นว่าบางจุดน้ำมันแห้ง แต่มันไปรวมที่จุดหนึ่ง พอเรามองไปที่ตลิ่งเราเห็นผนังกั้นน้ำ เป็นทางสำหรับแม่น้ำ ตรงนั้นมันเหมือนเป็นท่อส่งน้ำที่มันแรง อันนี้คือในความเห็นเรานะ คือถ้าตรงไหนมันล้นหรือมันแตกก็แปลว่าน้ำมันแรงและเร็ว อย่างที่เราเห็นในลพบุรี

ไปช่วยที่จังหวัดไหนมาบ้างแล้ว?

เล็ก ฝันเด่น : ก็ไล่มาตั้งแต่จังหวัดตราด จนมาถึง พิษณุโลก สุโขทัย บึงสามพราน เพชรบูรณ์ แล้วก็หล่มสัก ไล่มาเรื่อยๆ มาถึงนำนารายณ์ อ่างทอง สิงห์บุรี ตอนทำภารกิจเราก็ได้นอนนะ แต่ตอนที่เราลงไปทำภารกิจมันจะมีความเครียดสะสม เพราะว่าในสถานะที่เราเห็นทั้งวัน เราต้องคิดต่อว่าพรุ่งนี้เราจะทำอย่างไรต่อ เราจะช่วยอย่างไร จะอพยพคนอย่างไร จะอพยพคนได้มากน้อยแค่ไหน ในเรื่องของการอพยพ การโน้มน้าวคนที่ห่วงบ้านเป็นสิ่งที่ยากมาก ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นอย่างนั้น อย่างผู้เฒ่าผู้แก่ เขาจะรู้สึกว่าเขาอยู่ได้ ที่ผ่านมาเขาก็อยู่ได้

เห็นว่ามีคลิปที่โน้มน้าวคุณลุงให้ออกจากบ้าน?

ใหญ่ ฝันดี : จริงๆ เราเข้าไปแล้ว แล้วเราไม่เห็นเขาจะออกมา อีกวันหนึ่งผมเอากล่องข้าวเข้าไป แล้วก็มีผู้ชายคนหนึ่งบอกว่า รบกวนเอาลุงออกไปทีได้ไหม เข้าไป 3 ทีมแล้ว เขาไม่ยอมออก คือลูกสะใภ้แกก็ร้องไห้เพราะแกอยู่ข้างใน 3 วันแล้ว คือทำอย่างไรก็ได้ให้แกออกมา ผมก็เลยบอกว่า งั้นเดี๋ยวเราลองเอาเรือเข้าไปรับดู เพราะบ้านแกน้ำค่อนข้างแรง เพราะอยู่ริมแม่น้ำป่าสัก เราก็เข้าไปแล้วก็ตะโกนคุยให้แกสบายใจ แล้วก็บอกแกว่าเดี๋ยวเย็นนี้จะมีทีมเข้ามาอีก คือกว่าแกจะออกมาไม่ใช่ว่าออกมาง่ายๆ นะ ใช้เวลาเกลี้ยกล่อมเกือบ 5 นาทีได้ แกบอกว่าอยู่ได้ เดี๋ยวไก่ใครจะให้ข้าว ผมก็เลยเอาถุงข้าวมากรีดแล้วให้ข้าวไก่ก่อน บอกว่า เดี๋ยวให้ข้าวทั้งถุงเลย 5 กิโล แกบอกว่าไม่ได้ เพราะไก่ต้องกินข้าวเปลือก ก็เลยเข้าไปในบ้านเอาข้าวเปลือกมาแล้วก็มาเติมน้ำให้ใก่ อย่างที่เห็น คือแกก็จะมีวิธีของแก แต่ตอนท้ายแกยอมออก เพราะลูกเขยแกบอกว่า ถ้าแกไม่ออก ตัวลูกสาวของแกบอกให้ลูกเขยไปอยู่กับพ่อ เขาก็เลยต้องออก

ผู้ประสบภัยที่อยู่ในบ้าน เขาติดในบ้านนานไหม?

ใหญ่ ฝันดี : มันก็แล้วแต่ เราเป็นเพียงทีมหนึ่งของจิตอาสา ทีมใจถึงใจเป็นทีมเผชิญเหตุ เวลาเราจะติดตามข้อมูลข่าวสาร ภูมิอากาศ ภูมิประเทศแล้วเราถึงจะเข้าไปตรงจุดนั้น เป้าหมายของเราคือการอพยพคน ไม่รวมถึงการแจกของ ทำอย่างไรก็ได้ให้คนออกไปจากจุดเสี่ยงภัยตรงนั้น ให้ไปอยู่ตรงที่ที่ปลอดภัยที่สุด

เล็ก ฝันเด่น : คือบางคนไม่เข้าใจ คิดว่าเอาข้าวกล่องไปให้ก็จบ แต่ตามหลักการสากลการอพยพแล้ว นั่นหมายความว่าต้องเอาประชาชนหรือผู้ที่มีส่วนร่วมในเหตุการณ์นั้นๆ มาอยู่ในจุดปลอดภัย เพื่อที่จะดูแลร่วมกัน ไม่ใช่แยกกันอยู่

ใหญ่ ฝันดี : เพราะเราเคยเจอปัญหาเรื่องไฟ ไฟลวก ไฟช็อต ไฟเกิน แล้วเสียชีวิต ดังนั้นเราต้องระมัดระวังเรื่องนี้ ก็เลยต้องมูฟก่อน เข้าไปถึงก็สอบถามว่ามีใครอยู่ไหม ตัดไฟหรือยัง แล้วเราก็มูฟคนออกมา แม้กระทั่งสัตว์เราก็ช่วย

ถ้าบ้านไหนที่โดนน้ำท่วม แล้วไม่ยอมออกมา จะทำให้ทางทีมเข้าไปช่วยเหลือเสียเวลาไหม?

เล็ก ฝันเด่น : ผมว่าตรงนี้อยู่ในเรื่องของการให้ข้อมูล ของหน่วยงานพื้นถิ่น เพราะว่า ถ้าให้ข้อมูลที่ดี รวมถึงมีการคำนวนระดับน้ำประกอบ มันก็จะทำให้เกิดข้อมูลที่แท้จริง ซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้สามารถนำไปประกอบการตัดสินใจที่ถูกต้องของผู้ประสบภัยได้

เห็นว่าเคยไปเจอเคสเสียชีวิตในบ้าน อย่างนั้นต้องทำอย่างไร?

เล็ก ฝันเด่น : กรณีนี้อาจจะเกิดจากหลายสาเหตุ อย่าง โดนไฟดูด ซึ่งในปี 2554 ก็เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้

ใหญ่ ฝันดี : นั่นคือทำให้เราทราบว่าถ้าน้ำท่วมเราไม่ควรจับเสาตามเกาะกลางถนน รั้วที่เป็นเหล็ก ให้ใช้การตะโกนและไม้ เพราะน้ำกับไฟมันไม่เข้ากัน จากประสบการณ์เราเคยได้รับโทรศัพท์จากน้องคนหนึ่งโทรมาว่า พ่อกับแม่เดินลงมาพอขาแตะน้ำปุ๊บ แล้วก็หน้าคว่ำไปเลย เราก็ถามว่า สับไปหรือยัง เขาบอกว่าเปล่า ยังใช้ไฟอยู่ นั่นแหละคือสิ่งที่น่ากลัว คือพอเราเข้าไปถึงที่เกิดเหตุ คือเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในปี 2554 เรารู้สึกเลยว่า มันมีทั้งความเสียใจ และเป็นสิ่งที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น ดังนั้นเวลาเราไปช่วยใคร เราจะบอกทุกคนว่าให้ตัดไฟก่อน เพราะเรามองไม่เห็น และสิ่งต่างๆ เหล่านี้มันเคยมีบทเรียนแล้ว เราก็อยากให้ทุกคนระวัง

เล็ก ฝันเด่น : เหมือนที่สุโขทัย ผมไปช่วยตอนเช้า คือให้อพยพกันเขาก็ไม่ยอมออก แต่พอ 1 ทุ่มเขาตัดไฟ คือตัดชั่วโมงแรกยังไม่เท่าไร แต่พอเข้าชั่วโมงที่สอง มีทั้งยุง มีทั้งความเครียดสะสม และยิ่งน้ำเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง มันก็จะทำให้เกิดความรุนแรงตามมา

ก็อยากให้ผู้ประสบภัยเชื่อฟังเจ้าหน้าที่หน่อยเพราะเขาสำรวจมาแล้ว?

ใหญ่ ฝันดี : ก็เชื่อฟังและเชื่อตัวเอง เพราะตัวเองก็บอกได้ว่าปลั๊กมันอยู่ในน้ำ เราจะเสี่ยงได้อย่างไร

ได้ข่าวมาว่าทั้งคู่มีสัมผัสพิเศษรู้ล่วงหน้าเรื่องโควิด?

ใหญ่ ฝันดี : มันเป็นความรู้สึกส่วนตัว ในเรื่องความเชื่อเราก็มีเรื่องความเชื่อของตัวเอง จริงๆ แล้ว มันเกิดขึ้นประมาณเดือนตุลาคม ปี 2562 อยู่ดีๆ ผมก็รู้สึกว่ามีอะไรสักอย่างจะเกิดขึ้นกับคนหมู่มาก มีผลกระทบกับคนมาก และกระทบเราโดยตรง ผมก็เลยคุยกับคนที่รู้จักมักจี่กัน ว่าเราจะทำมาหากินเราต้องระวัง คือตอนนี้ยังตอบไม่ได้ว่าเป็นเรื่องอะไร แต่ว่าจะเกิดขึ้นกับคน และมันจะแพร่กระจาย คือตามความรู้สึกของเรา เซนส์เราชอบให้เรามองท้องฟ้า มองดวงดาว แล้วจับสัมผัสตัวเองว่าทำไมหัวใจสั่นรัว ซึ่งพอเรามองท้องฟ้า เรามองเห็นท้องฟ้าเป็นสีแดงเหมือนผ้าห่ม มันคลุมทั้งหมด เราก็เลยตีว่าน่าจะเกิดกับคนหมู่มาก แต่เราไม่บอกกับสาธารณชนเพราะมันไม่เกี่ยวกับทุกคน เราก็เอาความเชื่อของเรามาเพื่อป้องกันความเสียหาย แล้วพอเกิดเหตุการณ์ปุ๊บ ทุกคนก็รู้ว่าคือเรื่องนี้

พอเกิดเหตุการณ์ขึ้นจริงเราตกใจไหม?

ใหญ่ ฝันดี : คือเราก็คิดว่าถ้าเรานำทางในสิ่งที่ดีเราก็ปลอดภัย แต่เราก็กลัวคนหาว่าเราบ้า หรืออยากดัง เราก็เลยบอกแต่คนที่อยู่รอบข้าง บอกกับคนที่อยู่ใกล้ตัวว่าอย่าเพิ่งไปทำอย่างนี้ พอเข้าสู่ตุลาคมปี 2563 มีคนถามว่าลงทุนได้หรือยัง ผมก็บอกว่า ยัง เพราะมันจะหนักกว่าเดิม ตอนนี้อย่าเพิ่งทำอะไร แต่ความรู้สึกผมคือมันจะเริ่มดีขึ้น ปีหน้ากลางปี คือถ้าใครสตาร์ทตั้งแต่ก.พ. ไปแล้ว จะได้ธุรกิจที่โตไว ที่เกี่ยวข้องกับคนหมู่มาก

ได้ข่าวว่าทั้งคู่มีเซนส์ อยากทราบว่าทั้งคู่มีเซนส์ที่แตกต่างกันไหม?

เล็ก ฝันเด่น : มันก็คนละมุม คือปกติเราจะไม่ค่อยคุยเรื่องนี้ น้อยครั้งมากที่จะพูด คือต้องจำเป็นมาก หรือแล้วแต่ฟ้าลิขิต ซึ่งบางรายการพยายามติดต่อมา แต่เราก็กลัวว่าคนจะครหาว่าดาราเก่าก็แบบนี้ ชอบมีเซนส์ มีอะไรแบบนี้ เราก็เลยไม่ค่อยพูด เพราะเราไม่อยากให้ใครมาลบหลู่ในสิ่งที่เขาไม่รู้ หรือสิ่งที่เราก้าวไม่ถึง เพราะโลกเราหมุนเร็วมาก จากที่คิดว่าใครจะบินได้ ก็มีเครื่องบิน ขนาดโทรศัพท์ในสมัยนี้ มันก็พัฒนาไปถึงไหนแล้ว สิ่งเหล่านี้มันทำให้เกิดคนบางกลุ่มที่อาจจะไม่เชื่อเราได้ เขาจะมองว่าเราหลอกลวง

ใหญ่ ฝันดี : มันมีเหรียญ 2 ด้าน เราก็จะอยู่ด้านหนึ่งในด้านที่เราต้องการอยู่ และเราก็ใช้สิ่งนี้ในการดำเนินชีวิตให้เราปลอดภัย สิ่งที่เราเห็นหรือไม่เห็นเราก็บอกไม่ได้ คนอาจจะถามว่าเราเคยเห็นผีไหม ผมก็บอกไม่ได้ว่าเคยเห็นผีหรือเปล่า เพราะเราเห็นเป็นปกติ ถามว่าเคยเห็นเทวดาไหม เราก็ตอบไม่ได้ เพราะเรารู้แค่ว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์แล้วควรเคารพ

เล็ก ฝันเด่น : คือบางอย่างมันถูกพัฒนาไปด้วยรูป รส กลิ่น เสียง เริ่มต้นเราก็เหมือนเด็กเล็กที่พ่อแม่ต้องจับมือฝึกเขียน พอมาวันหนึ่งเขียนเป็นก็ไม่ต้องมีเส้นประ ไม่ต้องมีคนจับมือเขียน หลังจากนั้นจะเขียนให้สวย เขียนให้มีดีไซน์มันก็แล้วแต่คน มันก็เหมือนกันกับสิ่งที่เราเป็น มันก็อยู่ในมุมที่เราสามารถที่จะทำอะไรสักอย่างที่เราไม่สามารถพูดได้

ทราบว่าจับสัมผัสพิเศษได้ ที่วัดกิ่งแก้ว?

เล็ก ฝันเด่น : ที่วัดกิ่งแก้วน้ำท่วมเมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้ว ผมก็ช่วยกันระดมคนมาล้างวัดหลังจากที่น้ำลดลงแล้ว เพราะเราไปดูดน้ำท่วมออกจากโบราณสถาน ครั้งล่าสุด ก็ไปดูดน้ำและล้างทั้งวัด แต่สิ่งที่ทำให้ผมตื่นเต้นคือ ระหว่างที่ยืนฉีดน้ำล้างวัดอยู่นั้น รู้สึกว่าเหมือนมีพระมายืนอยู่ทางด้านซ้ายมือ พอเราหันไปมอง น้องที่อยู่ใกล้ๆ ก็ถามว่า พี่เห็นใช่ไหม เราก็บอกว่าใช่ น้องถามว่าตอนนี้เห็นไหม เราก็บอกว่าไม่เห็นแล้ว คือผมจะเป็นแบบนี้ทุกครั้งที่ไปล้างวัด ท่านอาจจะมาร่วมอนุโมทนา สาธุ เพราะฉะนั้นสิ่งที่เราทำทั้งดีและเลว ย่อมมีฟ้าดินเห็น

และนี่ก็เป็นเรื่องราวทั้งหมดจากการที่ทั้งคู่ได้เคยมีประสบการณ์ในการเข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมนั่นเองค่ะ ถือว่าได้อ่านแล้วก็ทำให้เราได้รู้ว่าถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นกับเราบ้าง เราควรที่จะต้องเตรียมรับมืออย่างไรนั่นเอง ส่วนเรื่องการมีเซนส์ต่างๆ เราก็สามารถรับฟังและนำไปพิจารณาได้ และถ้าฟังแล้วไม่เชื่อ แอดก็อยากจะบอกเอาไว้ว่า ก็อย่าไปพูดจาลบหลู่นะคะ ไม่เชื่อไม่เป็นไร เราแค่ต้องไม่ไปพูดจาไม่ดีนั่นเองค่ะ

คลิปอีจัน แนะนำ
แพทพัสสน จากพระเอกสู่บทพ่อ