พลอยชมพู อัปเดตคดี ฟ้องอดีตต้นสังกัด ที่มาเลเซีย

พลอยชมพู ญานนีน อัปเดตคดี ฟ้องอดีตต้นสังกัด ที่มาเลเซีย ลั่นเลยจุดไกล่เกลี่ยนานแล้ว เผยเตรียมฟ้องเพิ่มอีก หลังคดีแรกจบ

จากกรณีที่ นักร้องสาว พลอยชมพู ญานนีน ไวเกล ยื่นฟ้องค่ายเพลง อดีตต้นสังกัดที่ประเทศมาเลเซีย ในข้อหาผิดสัญญา เรียกค่าเสียหาย 8 หลัก หลังจากนั้นเธอก็ลงทุนทำเพลงด้วยตัวเอง ปล่อยซิงเกิลแรกในฐานะศิลปินอิสระ แต่กลับโดนอดีตต้นสังกัดคู่กรณีบล็อกช่องทางสตรีมมิ่ง เป็นเหตุให้เพลงของเธอขาดโอกาสการโปรโมทเพลงในช่องทางอื่นนอกจากยูทูบ

อย่างไรก็ดี ล่าสุด พลอยชมพู ได้มาเปิดใจอัปเดตเรื่องของคดีความว่า

“ตอนนี้เราแฮปปี้กับการทำงานเป็นศิลปินอิสระ ปล่อยเพลงเอง ทำเพลงเอง มันจะเหนื่อยนิดนึงเพราะว่าเราลงทุนเองสปอนเซอร์อะไรด้วยตัวเอง มันก็มีความสุขเพราะว่างานทุกอย่างออกมาตามที่เราต้องการจริงๆ กระแสตอบรับซิงเกิลแรกมันเกินคาดค่ะ เพราะว่าเราไม่ได้คาดหวังอะไรกับมันเลยในการปล่อยเพลง”

“เนื่องจากว่าเราหายจากวงการมาเกือบ 2 ปี แล้วมีอุปสรรคค่อนข้างเยอะในการปล่อยเพลง ทั้งเรื่องของการที่เพลงเราถูกคู่กรณีที่เรามีปัญหาอยู่ปิดสตรีมมิ่งต่างๆ มันทำให้ลดโอกาสในการเข้าถึงคนมากขึ้นด้วย แต่ว่าสำหรับกระแสเพลงพอเราได้ปล่อยจริงๆ มันก็ชื่นใจ หายเหนื่อยค่ะ ตอนนี้กำลังเตรียมปล่อยเพลงใหม่ค่ะ น่าจะปล่อยประมาณเดือนหน้า ตอนนี้เหลือแค่ถ่ายเอ็มวี เป็นเพลงที่ฟีเจอริ่งกับ LazyLoxy เป็นเพลงช้า ตื่นเต้นอยากรีบปล่อยแล้วค่ะ”

จากที่คู่กรณีบล็อกช่องทางสตรีมมิ่งปล่อยเพลงของเรา ส่งผลกระทบยังไงบ้าง?

“เรื่องของการที่เพลงถูกปิดในสตรีมมิ่งจะมีผลกระทบด้านเพลงมาก เนื่องจากเพลงมันไม่ได้รับการเผยแพร่ อย่างศิลปินคนอื่นๆ เขามีโอกาสเต็มที่ แต่ของเราได้แค่เฉพาะยูทูบอย่างเดียว ซึ่งบางทีด้วยอัลกอริธึ่มของมันอาจจะไม่ได้เข้าถึงคนมากขนาดนั้น ถ้าเทียบกับคนที่เพลงไปอยู่ในสตรีมมิ่งต่างๆ อย่าง Spotify Apple Music JOOX แต่เราก็ไม่ได้รู้สึกท้อเพราะว่าอย่างน้อยเรายังได้ปล่อยเพลงในแพลตฟอร์มหนึ่ง ซึ่งมันทำให้เรามีความสุขมากกว่าแต่ก่อน ตอนนี้ได้แค่เฉพาะในยูทูบอย่างเดียวเพราะยูทูบระบบมันต่างจากแพลตฟอร์มอื่นๆ ตรงที่ว่ายูทูบเขาต้องการหลักฐานว่าคนที่เคลมเขาเป็นเจ้าของเพลงจริงๆ ถ้าไม่สามารถปรู๊ฟได้เขาก็ปล่อยให้เพลงมันอยู่ในแพลตฟอร์มของเขา แต่ว่าแพลตฟอร์มอื่นๆ เขาอยากได้ใบศาลก่อนว่าคดีมันจบไปแล้ว เพราะเขาก็กลัวปัญหาด้วย”

เป็นเพลงของเราเอง คู่กรณีไม่มีสิทธิ์เคลมเป็นผลงานของเขาไหม?

“ไม่มีสิทธิ์ค่ะ อาจจะด้วยเขามีคอนเน็กชั่น มีเครื่องมือใหญ่เขาเลยมีอำนาจตรงนี้ แต่หนูไม่ได้กลัวอะไร อะไรที่มันไม่ถูกต้องเราก็เก็บเป็นหลักฐานเพื่อจะฟ้องต่อไป เพราะว่าเราไม่ได้จะฟ้องแค่คดีในจุดนี้จุดเดียว เราจะฟ้องในเรื่องของการละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย ซึ่งมันเป็นดคีที่แยกกันออกมาอีกที ถ้าคดีที่ฟ้องตอนนี้เรื่องสัญญาจบแล้วก็จะฟ้องต่อค่ะ”

“ความคืบหน้าตอนนี้ เดือนนี้ เดือนมิถุนายน จะเริ่มขึ้นศาลครั้งแรกค่ะ ก่อนหน้านี้มันควรจะขึ้นศาลมาตั้งนานแล้ว แต่มันมีเรื่องของการเพิ่มสำนวนต่างๆ มันก็มีการตอบโต้เพิ่มเติม ทำให้มันค่อนข้างล่าช้านิดนึง แต่ว่าหนูก็ไม่ได้กังวลอะไรเพราะว่าหลักฐานเราค่อนข้างเยอะ เราค่อนข้างมั่นใจค่ะ คดีที่ฟ้องตอนนี้จะเกี่ยวกับสัญญาหมดหรือไม่หมด ซึ่งต้องให้ศาลตัดสินตามสัญญาจริงๆ ให้เขาดู แต่เนื่องจากมันมีอะไรเพิ่มเติมเข้ามาทำให้ต้องเพิ่มเข้าไปในสำนวนของเรามันเลยใช้เวลานิดนึงมันมีรายละเอียดด้วยค่ะ”

จะฟ้องคดีละเมิดลิขสิทธิ์ด้วยใช่ไหม?

“ใช่ค่ะ เรื่องของการเปิดเพลงจะเป็นอีกส่วนหนึ่งที่เราจะฟ้องเพิ่มเติมหลังจากที่คดีนี้มันจบไปแล้ว เพราะมันจะยิ่งชัดเจนว่าผิดหรือไม่ผิด”

คาดว่าคดีนี้จะจบเมื่อไหร่?

“ยังไม่สามารถบอกแน่ชัดได้ ก็รอดูเดือนนี้ก่อนว่าขึ้นศาลครั้งแรกแล้วมันจะเป็นยังไง ถ้าทางศาลเห็นว่าคดีมันง่ายเร็วก็อาจจะจบภายในเดือนนี้ ก็ต้องรอดูค่ะ”

มีความกังวลหรือเครียดไหมที่ต้องขึ้นศาลครั้งแรกแล้ว?

“ไม่กังวลเลย เพราะว่าเราได้ปรึกษากับทนายหลายๆ เจ้าด้วย รวมถึงเจ้าที่เราใช้อยู่ตอนนี้ประมาณรวมกัน 5 เจ้า เราค่อนข้างมั่นใจว่ามันไม่มีอะไรต้องกังวล เราเองยังทำงานต่อไปได้เรื่อยๆ ในเรื่องการปล่อยเพลงแค่มีอุปสรรคในส่วนการสตรีมมิ่งต่างๆ อย่างออกรายการเราก็ยังทำได้ปกติ เขาไม่สามารถจะมาขัดขวางในจุดนั้นได้”

ณ ตอนนี้มีการไกล่เกลี่ยกันไหม?

“มันเลยจุดไกล่เกลี่ยนานแล้วเพราะว่าก่อนที่หนูตัดสินใจฟ้อง ไกล่เกลี่ยกันประมาณครึ่งปีได้ ไม่เป็นผลสำเร็จ ซึ่งพอหนูปล่อยเพลงหลังจากที่สัญญาหมดไปแล้ว แล้วเขามาบล็อกหนูไม่ให้ลงในสตรีมมิ่งต่างๆ มันก็เลยเป็นจุดตัดสินใจที่จะต้องฟ้องแล้วเพราะไม่งั้นหนูไม่สามารถจะทำงานอย่างราบรื่นได้ อย่างนัดขึ้นศาลครั้งแรกในเดือนนี้ ตัวหนูไม่ได้ไปขึ้นศาลที่นู่น(มาเลเซีย) แต่จะเป็นทนายเป็นตัวแทน เรามอบอำนาจให้เขาขึ้นศาลแทนเราเพราะเป็นคดีที่มาเลเซียแล้วมันไม่ใช่คดีอาญา เราไม่จำเป็นต้องไปด้วยตัวเอง”

“เรื่องของกฎหมายตามสัญญามันจะเป็นตามกฎหมายของมาเลเซีย หนูเลยต้องใช้ทนายที่มาเลเซียด้วย ก่อนหน้านี้ก็มีการปรึกษาทนายที่ไทยด้วย ค่อนข้างจะหลายเจ้าหลายชาติอยู่ค่ะ กว่าจะตัดสินใจฟ้อง”

ยืนยันฟ้องค่าเสียหาย 10 ล้านเหมือนเดิม? “ประมาณนั้นค่ะ จริงๆ หนูไม่ค่อยกล้าที่จะพูดจำนวนเงินจริงๆ เพราะว่ามันไม่ใช่เมนหลักของเหตุผลในการฟ้อง เราต้องการจะทวงสิทธิ์ของเราคืนในการปล่อยเพลงในฐานะศิลปิน และเราก็อยากจะมีโอกาสเหมือนกับศิลปินคนอื่นๆ ที่ไม่ได้มีการปิดกั้นอย่างที่เราเป็นตอนนี้ค่ะ”

คลิปอีจันแนะนำ
พลอยชมพู อัปเดตคดีความ หลังแจ้งความกลับ ค่ายเก่า