จากกรณีที่ดาราสาว สายป่าน อภิญญา พร้อมทนาย เกรียงชัย วิศิษฎ์สรอรรถ ยื่นฟ้อง นายวรพันธ์ อุดมพงษ์ ครูสอนดำน้ำ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2563 ข้อหา หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา เนื่องจากว่าคู่กรณีได้มีการโพสต์เฟซบุ๊ก หมิ่นประมาทเรื่องของสินค้าของ สายป่าน ทำให้ธุรกิจของ สายป่าน ได้รับความเสียหาย เกิดความเข้าใจผิด ยอดขายสินค้าลดลง งานนี้เจ้าตัวเลย เรียกค่าเสียหาย 5 ล้าน
ล่าสุดเมื่อวานนี้ 7 มิ.ย. 64 สายป่าน พร้อมทนาย ได้เดินทางมาที่ ศาลอาญา อีกครั้ง เพื่อเข้าฟังการไต่สวนมูลฟ้องคดี หลังยื่นฟ้อง ครูสอนดำน้ำ พร้อมให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน
ทนาย : “วันนี้เรามาไต่สวนมูลฟ้องนัดแรก เพราะว่าก่อนหน้านี้ มีการไกล่เกลี่ย ต้องบอกก่อนว่า ทางเราก็เปิดโอกาสให้เขามาคุย แต่ว่าตอนไกล่เกลี่ย ทางโน้นเขาก็ไม่มา เขาอ้างว่าขออนุญาตติดต่อผ่านทางอินเทอร์เน็ต อิเล็กทรอนิกส์ แล้วก็โทรศัพท์ แล้วเขาก็มีการติดต่อ แต่ปรากฏเจ้าหน้าที่ศาลก็ติดต่อไม่ได้ จนมาถึงวันนี้ ที่เป็นนัดแรก แต่เดิมมันเป็นนัดไต่สวนตอนต้นปี แต่เลื่อนมาเพราะเหตุโควิด วันนี้เราก็เตรียมมาไต่สวน ซึ่งไม่รู้ว่าตัวความเขาจะมาหรือเปล่า ที่ผ่านมาเขาก็ไม่ได้มา หรือแสดงความจริงใจที่จะมาไกล่เกลี่ยกับเราด้วย มันก็เป็นเรื่องของการแสดงความจริงใจ ว่าเขาพร้อมจะรับผิดชอบหรือเปล่า ซึ่งอันนี้เราก็ยังไม่เห็น เดี๋ยวก็รอดูในศาลวันนี้ ว่าอย่างไร เรามีหลักฐานชัดเจนในเรื่องของความเสียหายที่เกิดขึ้นกับน้อง สายป่าน รวมถึงความชัดเจนเรื่องของ หมิ่นประมาท ”
ฟ้อง 5 ล้าน เหมือนเดิมไหม ?
ทนาย : “ใช่ครับ ก็มีการเรียกค่าเสียหายด้วย ก็ยังเป็น 5 ล้านเหมือนเดิมอยู่ครับ”
ชื่อเสียงกลับมาหรือยัง?
สายป่าน : “กลับมาในมุมอื่นๆเรื่องการแสดง ความเสียหายทางธุรกิจ คิดว่าละครออนแอร์มากกว่าคนก็เลยยังจำได้ เรื่องขอช่วงนั้น ณ เวลานั้นยังกลับมาไม่เท่าเดิม เคยรอให้เค้าติดต่อกลับมา แต่พอเวลาผ่านมา ก็มั่นใจว่าเขาน่าจะเลือกแบบนี้ เรื่องธุรกิจถามว่าลูกค้ากลับมาเชื่อใจทั้งหมด คิดว่ายังนะคะ”
ทนาย : “เรามีหลักฐานที่ว่าลูกค้ายกเลิกจำนวนมาก ทางเราเต็มที่เรื่องของเอกสาร หลักฐาน ก็คิดว่าจะได้รับความเป็นธรรม”
สายป่าน ไม่เคยคุยกับเขาเลย คิดว่าจะเป็นอย่างไร ?
สายป่าน :” ขอให้ได้เจอเขาก่อน ตอนนี้ยังไม่เคยเจอเขาเลย ยังไม่เคยคุยกับเขาด้วย คำขอโทษน่าจะไม่ทันแล้วมั้งคะ ถ้าจะขอโทษมันควรจะเกิดขึ้นตั้งแต่ในช่วงแรกแล้ว”
ทนาย : “คิดว่าขอโทษ และเยียวยาค่าเสียหายไปด้วยดีกว่า รับคำขอโทษเป็นเงินดีกว่า เพราะว่าเสียหายหนัก”
ถ้าเจอกันครั้งแรก จะบอกอะไรกับเขา?
สายป่าน : “คงไม่คุยอ่ะค่ะ เพราะว่าเราไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ไม่ใช่คนสนิท หรือคนที่ป่านเคยรู้จักมาก่อน เหมือนเราเจอคนแปลกหน้า ก็คงไม่ได้คุยค่ะ”
ทนาย : คือเรื่องนี้ต้องบอกว่าค่อนข้างได้รับผลกระทบส่วนหนึ่งทางบริษัทที่ต่างประเทศเขาก็สงสัยทำไมยอดตก และคดีไปถึงไหน ก็มีการอัปเดตทางอีเมลกัน เพราะว่าเดิมมันขายดี แต่พอมาเจอเรื่องนี้ยอดตกลงไปเยอะด้วย”
สายป่าน : ธุรกิจนี้ก็ยังจะทำต่อไปเรื่อบๆ ณ ตอนนี้ก็ต้องเอาชื่อเสียงกลับมาก่อน เรื่องคดีก็จะเดินหน้า ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ค่ะ
โอกาสที่จะชนะกี่เปอร์เซ็นต์?
ทนาย : ให้เป็นดุลพินิจของศาลดีกว่าครับ หากคู่กรณีแสดงความจริงใจ รับผิดชอบเรื่องความเสียหายอย่างสมเหตุสมผล คุยกันได้ เรื่องนี้ก็อาจจะจบในวันนี้ได้เหมือนกัน ถ้าจริงใจตั้งแต่ครั้งแรกอาจจะจบไปแล้ว ทางเราเปิดโอกาสมาตลอด แต่ครั้งนี้หากจริงใจด้วยก็ต้องมีค่าเสียหายติดปลายนวมให้เราด้วยเหมือนกัน อย่างสมเหตุสมผลนะครับ”
ทั้งนี้หลังจากที่สายป่าน และ ทนาย ได้เข้าไปในห้องพิจารณา และได้ออกมาให้สัมภาษณ์ กับสื่ออีกครั้ง งานนี้ ไร้เงาคู่กรณี มีเพียงส่งทนายมา เท่านั้น
สายป่าน : “ทางคู่กรณีไม่ได้เดินทางมา ให้ทนายมาแทน โดยยื่นข้อเสนอว่า ให้ถอนฟ้อง และเขาจะขอโทษ แต่ไม่ประสงค์จะจ่ายค่าเสียหาย ยืนยันว่าต้องการทั้งคำขอโทษ และค่าเสียหาย เพราะว่าเราเสียหายมาก ทุกวันนี้ยังมีคนถามเรื่องนี้อยู่เลย ถามว่าโกรธไหม มันก็เบาบางลง ป่านไม่ได้รู้จักเขา ไม่เข้าใจเหตุผลว่าเขาจะมาทำเราทำไม ที่ผ่านมาเขาไม่เคยติดต่อมาเลย ป่านให้โอกาสเขามาตลอด”
ทนาย : “ทางเขาไม่ประสงค์จะจ่ายเพราะว่าเขามอกว่าเขาไม่ผิด เรื่องคดีว่ากันไปตามกระกระบวนการยุติธรรม ซึ่งหลักฐานเรามี ที่ผ่านมา ไม่เคยมีแม้กระทั่งคำขอโทษ ไม่แคยแสดงความจริงใจ ทางเราก็นำเสนอเรื่องความเสียหายไปชัดเจน หากศาลประทับรับฟ้องก็จะเห็นว่าเราเสียหายมากมายขนาดไหน”
สายป่าน : “ป่านมองตรงนี้ว่า 5 ล้าน มันเป็นราคาที่สูง ถ้าเทียบกับความเสียหายจริงๆ มันไม่ได้เยอะน่าเกลียด ถ้าเทียบกับความเสียหายที่ป่านเสียไป เขาไม่ใช่ป่านเขาไม่รู้หรอกว่าป่านเสียหายอะไรบ้าง จริงๆ เจ้าของภาพสินค้านั้น เขาก็มาคอมเมนต์ข้างล่างแล้วเหมือนกัน อยู่ในโพสต์ที่เขาโพสต์ลงไป แต่ว่าเจ้าของเรื่อง ก็คือตัวความที่เราฟ้องไปเนี่ย เขามาคอมเมนต์ตอบ ว่ายังไม่เชื่อ แล้วก็พยายามจะเบี่ยงประเด็นไป แล้วก็ตอบด้วยประโยคคำถาม ว่าจริงเหรอ แบบนี้จริงหรือเปล่า อ๋อ เหรอครับ ชี้แจงหน่อยนะครับ อะไรประมาณนี้”
ถ้าศาลประทับรับฟ้อง ได้เจอกันแน่?
ทนาย : “สำหรับฝั่งเขา ถ้าเกิดศาลประทับรับฟ้อง เขาได้มาแน่ครับ ไม่ต้องห่วง ก็อยากจะเจอเขาเหมือนกัน ก็อยากรู้ว่า ทำไมถึงทำแบบนี้กับคนที่ไม่ได้รู้จักกัน แล้วก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรกันด้วย”
ซึ่งงานนี้คงต้องดูกันต่อไปว่า สุดท้ายคู่กรณีของ สายป่าน จะมาเจรจาไกล่เกลี่ย หรือจะมาชี้แจงในแนวทางไหน หากมีอะไรคืบหน้า แอดจะรายงานให้ทราบต่อไปค่ะ