ส่องหัวใจ นุ่น รมิดา เผยจุดกำเนินความรักที่แสนจะคลุมเครือกับ หลุยส์ สก๊อต

เปิดใจ นุ่น รมิดา เผยจุดกำเนินความรักที่แสนจะคลุมเครือกับ หลุยส์ สก๊อต รับเคยน้อยใจหนัก หลังถูกโจมตีแต่กลับไม่ถูกปกป้อง

เรียกได้ว่ากว่าจะผ่านบททดสอบความรักครั้งนี้มาได้ ก็ต้องใช้เวลาไม่น้อยกันเลยทีเดียวเพื่อเป็นเครื่องพิสูจน์ อย่างคู่รักของ นุ่น รมิดา กับ หลุยส์ สก๊อต ซึ่งล่าสุดสาว นุ่น ก็ได้ออกมาเปิดใจผ่านรายการ Club Friday Show เผยเส้นทางและจุดกำเนิดความรักสุดคลุมเครือ รับเคยน้อยใจ หลุยส์ หนักมาก เนื่องจากไม่ยอมปกป้องหลังถูกโจมตี

โดย นุ่น ได้ให้สัมภาษณ์ดังนี้

“ถาม เจอกันยังไงเอ่ยระหว่าง นุ่น กับ หลุยส์

นุ่น รมิดา : คือจริงๆนุ่น กับ หลุยส์ อยู่ในบริษัทเดียวกันค่ะ เราเป็นเด็กใหม่ที่ต้องออกงานตลอด คือ หลุยส์ เขาหายจากวงการไปนานพอสมควรค่ะ แล้วเราก็ไปออกงานด้วยกันแล้วเราก็มาเจอกันครั้งแรกตรงหน้าบริษัทเพราะเราต้องไปทำงานด้วยกัน เราก็แบบหลุยส์ สก๊อตเหรออะไรอย่างนี้ เพราะว่าเราไม่ได้เห็นเขานานมากแล้ว

ถาม สารภาพตรงๆก่อนเราเคยเป็นแฟนคลับเขาไหม

นุ่น รมิดา : เราคลั่งไคล้ แรพเตอร์ มากค่ะ แต่ไม่ใช่ หลุยส์ เฉยๆค่ะ แต่เราชอบ จอนนี่ มากขนาดที่เรานอนกอดรูป จอนนี่ แล้วเรานอนหลับไปเลยเพราะหนูมองว่า หลุยส์ เป็นแบบลิงน้อยเพราะ จอนนี่ หล่อมากตอนนั้นผมแดงๆจมูกคมหล่อ แต่ตอนที่ได้มาเจอ หลุยส์ ตอนนั้นคือ นุ่น ไม่กล้าคุยกับเขาด้วยภาษาแล้วเป็นเด็กใหม่ด้วยที่เพิ่งเข้าวงการความไม่มั่นใจของเราด้วย เขาเป็นฝรั่งเขามา ฮัลโหล !! อะไรอย่างนี้ เราคือหันหน้าหลบเลยไม่ใช่ไม่อยากคุยนะคะ ใจหนึ่งคือ โตขึ้นแล้วเนอะ

ถาม แต่มันกลับทำให้ หลุยส์ รู้สึกว่าทำไมผู้หญิงคนนี้ค่อนข้างหยิ่ง

นุ่น รมิดา : ใช่ค่ะ เพราะด้วยรูปหน้าด้วยคือถ้า นุ่น ไม่ได้พูดก็จะดูตึงๆหน่อย ดูเหวี่ยงๆ แล้วด้วยความที่ไม่เป็นมิตรกับเขาเขาจะมีความรู้สึกไม่เข้าใจตลอดว่าทำไม นั่นเป็นส่วนหนึ่งที่เขารู้สึกติดใจกับเราว่า.. หยิ่งเหรอ ทำไมไม่ทักทาย ไม่ตอบโต้บ้างอะไรอย่างนี้ ครั้งแรกเจอกัน (ถามว่าเขาตามจีบไหม) นุ่น ว่ามันไม่ได้มีอารมณ์ที่จะจีบ เพราะเราไม่ได้ประสานตากันเลยเพราะ นุ่น ไม่ได้มอง หลุยส์ เลย คืออยากมองเขานะคะ เพราะเขาเป็นคนที่เราชื่นชอบ แต่ว่าด้วยความที่เหมือนทำงานด้วย ด้วยความที่เราเป็นเป็นเด็กใหม่ไม่มั่นใจด้วย ความเจียมตัวของเรา นุ่น เลยไม่รู้ว่าเราปิ๊งเขา หรือ เขาปิ๊งเรา นุ่น พูดตรงๆวันแรกคือไม่ได้มีความรู้สึกว่าชอบเลยเฉยๆมากเลยค่ะ และหลังจากวันนั้น ครั้งแรกเลยจริงๆเขาให้ เขาเหมือนเป็น AR ที่ดูแลศิลปินทุกคนพี่คนนี้เราก็สนิท เขาโทรมาหาหนูสักพักบอกว่ามีน้องพี่จะคุยด้วยเราก็ถามว่าใคร หลุยส์ๆ เราก็เลยถามว่าเขาไปไหนกันเขาบอกว่าพา หลุยส์ ไปถ่ายละครต่างจังหวัดเราก็โอเค คือ นุ่น ก็คุยโทรศัพท์กับเขาในจุดที่แบบเราคุยกันปกติเหมือนเพื่อนที่คุยกันเลยแล้ว หลุยส์ ก็พูดมาคำหนึ่งว่าถ้าหลังจากวันนี้ฉันโทรมาหาคุณเองได้ไหม ?? หนูก็บอกว่าได้สิโทรมาได้เลย แต่ความหมายของ นุ่น ไม่ได้หมายความว่า ถ้าอยากจีบโทรมานะ แต่ตอนนั้นคือเรารู้สึกว่าถ้าอยากคุย อยากเป็นเพื่อนกันก็โทรมาได้ไม่มีปัญหา ก็ยังไม่ได้คิดว่าเขาจีบเพราะเขาก็หายไปเลย แต่พอวางโทรศัพท์ไป 1-2 วันก็เริ่มมาคิดว่าหรือว่าเขาจีบเราหรือเปล่าแต่ก็พยายามคิดว่าไม่ใช่หรอกเขาเหรอจะมาเลือกเรา แต่หลังจากนั้น 4-5 วัน ก็มีเบอร์ขึ้นมาเราก็รับสาย !! เขาก็บอกว่า หลุยส์ เองนะเราก็แบบว่ามาแล้วในใจตอนนั้นคือ ดีดนิ้วเลยค่ะ (หัวเราะ) อยากให้เห็นหน้ามากเลยค่ะ แบบ Yes อะไรอย่างนี้

นุ่น รมิดา : มีวันหนึ่งจริงๆเหมือนเขาพร้อมเขาก็ชวนเราไปเที่ยวเขาก็บอกว่าเพื่อนฉันเพิ่งกลับมาจากอเมริกาเราก็แบบเหรอๆเขาก็บอกว่าไปเสม็ดไหม เราก็บอกว่าได้นะอยากไปเพราะไม่ได้ไปนานแล้วเราก็ชวนผู้จัดการของเราทุกวันนี้ไปด้วยก็ไปกัน 4 คน แต่จริงๆแล้วมีครั้งหนึ่งด้วยซ้ำไป หลุยส์ ชวนไปดูภาพยนตร์แต่ก็โอเค (คือ อันแรกเลยที่เราตื่นเต้นมากแบบ..นี่มันจริงหรือเปล่า) แต่สรุปสุดท้ายเขาไม่มา แล้วเขาไม่โทรด้วย ตอนนั้นเราก็โกรธนะคะ เพราะมีความรู้สึกว่าทำไมคือแค่โทรมาบอกไม่ได้ใช่ไหมว่ามาไม่ได้ ถ้าสมมติว่านี่คือเดตแรกที่จะได้ไปดูภาพยนตร์ด้วยกัน แต่หลังจากวันนั้นเขาโทรหานะคะ เราก็บอกเขาว่าคุณลืมนัดเราไหมที่จะไปดูหนังด้วยกัน เขาบอกว่าใช่ฉันลืม (หัวเราะ) เขาลืม เหตุผลที่ นุ่น กับ หลุยส์ อยู่กันได้ยาวนานขนาดนี้เป็นเพราะไม่ได้คาดหวัง ไม่ได้ผูกมัด ไม่ได้เสียใจในสิ่งที่เขานัดแล้วไม่มาอะไรอย่างนี้ค่ะ เราแฮปปี้กับสิ่งที่อยู่ตรงหน้ามากกว่า แล้วที่จะพาไปเสม็ด เอาแบบตรงๆตอนนัด นุ่น ก็ไม่ได้คิดว่ามันจะเกิดขึ้นอีกเหมือนกันเพราะ นุ่น มีความรู้สึกว่าไม่รู้ว่า หลุยส์ เขาคิดอะไรบอกตรงๆเราก็รับปาก แต่ก็เตรียมเสื้อผ้าแล้วนะคะ(หัวเราะ) ไม่ได้รอหรอกแต่เตรียมเสื้อผ้าแล้ว นัดพี่มาแล้วมานั่งรอด้วยกันแล้ว ดูเวลาแล้วถึงเวลานัดเขาก็ยังไม่มา เราก็มองหน้ากับพี่น่าจะเหมือนเดิม แต่สุดท้าย หลุยส์ เขาก็โทรมาเพิ่งเลี้ยงปิดกล้องละครเสร็จกำลังจะมารับแล้วนะ ตอนนี้รับเพื่อนเรียบร้อย เราคือ ดีใจร้อนรนเลยจะมาแล้วเหรอมาแล้วจริงๆเหรอนี่เป็นครั้งแรกจริงๆที่ได้เจอหน้าเขาเพราะไม่เคยเจอเลยต้องแอ๊บนิดนึงว่าแบบเฮ้ย.. สวัสดีอะไรอย่างนี้ แต่ในใจคือ หัวใจเราระเบิดออกมาเลยเริ่มชอบแล้ว ชอบผู้ชายผมยาว เริ่มสังเกตในตัวเขามากขึ้น เริ่มรู้สึก..น่าจะชอบจะ crazy แล้วเนี่ยช่วงที่คุยกัน 6 เดือนย้อนกลับไปนิดนะคะ คือบางวันที่เขาโทรมาหาบางวันเขาก็จะเล่าเรื่องเขาให้เราฟังอย่างเช่น เรากำลังจะกลับบ้านไปหาแม่ ข้อหนึ่งที่เราชอบผู้ชายคนนี้คือ เขาเป็นคนที่รักครอบครัวมาก รักคุณแม่มาก ก็เริ่มมาดูรูปลักษณ์หน้าตาของเขาแล้วค่อยๆหลงเสน่ห์เขาไปเรื่อยๆรู้สึกเลยแววตามันมีประกาย มองทุกส่วนในร่างของเขาพยายามจะมองทุกส่วนใบหน้าของเขาจิ๊กๆอย่างนี้ เราก็แบบบอกตัวเองสงสัยจะชอบแล้วแหละ แต่ว่าอีกฝั่งหนึ่งเราไม่รู้เลยว่าเขารู้สึกอย่างไร แต่สุดท้ายมันก็จะมีเรื่องที่ทำให้ความรู้สึกของทหลุยส์ ชัดเจนกับ นุ่น เพราะเพื่อนของเขาที่มาเขาบอกว่าจีบเราได้ไหม หลุยส์ เขาก็เหมือนมีความรู้สึกว่า.. ก็ด้วยความกับเรากับเขามันไม่ได้มีอะไรคุยกัน หลุยส์ เขาก็บอกเพื่อนว่าก็ลองถาม นุ่น สิว่าเขารู้สึกอย่างไร แต่เราก็มองเห็นว่าปฏิกิริยาของเขาเริ่มเปลี่ยนไป เขาเริ่มจะเหมือนแบบจะจับตาเราเยอะขึ้น คนที่ทำคะแนนกับเราก็ทำจังเลย ก็แบบคุยกับเราเล่นกับเราจนบางเราก็แบบคิดว่าเรามาแบบในฐานะอะไรกับ หลุยส์ เนี่ยเราจะยังไงเพื่อนคุณเล่นกับเราเยอะมากเขาก็เหมือนนิ่งๆ เราก็คิดว่าหรือว่า หลุยส์ ไม่ได้ชอบเราจริงๆ แล้วมีคืนหนึ่งก่อนกลับเราก็ไปทานข้าวกันค่ะ เขาก็ขอเราคุยด้วยเขาก็เล่าให้เราฟังว่า..เพื่อนเขาอยากจีบเราเราโอเคไหม อันนั้นเป็นครั้งแรกที่หนูถามเขา แล้วเขาล่ะ แล้วเขาก็บอกเราว่าเรามีสิทธิ์เลือกนะ เราก็เลยบอกเขาไปว่าเราไม่ได้ชอบเพื่อนคุณตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ซึ่งเราก็บอกเขาว่าด้วยความที่เราเป็นคนที่อัธยาศัยดีเราก็แค่คุยเป็นเพื่อน .. เขาก็เข้าใจแต่เขาก็ไม่ได้แสดงออกกับเพื่อนของเขาว่าเขาเป็นเจ้าของเรานะ หลังจากกลับมาจากเสม็ดค่ะ ทุกครั้งที่มาเจอกันสามคนเพื่อนเขาก็ยังจะทำคะแนนกับเราแต่บางครั้งเราก็เล่นกับเขาเหมือนกันแต่ไม่ได้เล่นแบบทางชู้สาวนะคะ เล่นปกติ หลุยส์ ก็จะนิ่งๆใส่เราไม่ค่อยพอใจแต่เขาไม่พูดว่าอะไร เพราะช่วงนั้นเราก็งงๆกับความสัมพันธ์เหมือนกันว่าอย่างไรถ้าหวงก็พูดสิ เพราะหลังจากกลับมาจากเสม็ดความสัมพันธ์เหมือนกระโดดเลย คือ เขาโทรมาบ่อยขึ้น

นุ่น รมิดา : จริงๆหนูกับ หลุยส์ คุยกันแต่เป็นเพื่อนกันนักข่าวถามเราก่อนที่ไปออกงาน แล้วก็มีอีกงานหนึ่งที่ หลุยส์ ต้องไปออกงาน นักข่าวก็ถามว่าคุยกับ นุ่น อยู่เหรอ เป็นแฟนกันหรือยัง หลุยส์ เขาก็เป็นคนพูดออกมาเองว่าใช่ครับ ผมกับนุ่น คุยกัน อันนั้นคือ จุดระเบิดเลยค่ะ เพราะหลังจากวันนั้น นั่นคือคำว่าแฟนจริงๆเลยค่ะ ที่เราสามารถไปไหนด้วยกันได้ หลุยส์ โทรคุยกับเราคิดถึงมาหาได้ไหม มันมีคำนี้มาแล้วหลังจากนั้น หลังจากนักข่าวถามเราแทบอยากจะกราบนักข่าวที่ถามเลยค่ะ (หัวเราะ) ขอบคุณมากๆเลยค่ะ ที่ทำให้หนูมีแฟนเป็นตัวเป็นตน คือ เราแฮปปี้มาก

ถาม เคยถามเขาไหมว่าทำไมเขาถึงคลุมเครือ

นุ่น รมิดา : เพราะเราเป็นคนไม่ชอบถามค่ะ ลึกๆในใจ นุ่น คิดว่ามันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วว่าคนอย่าง หลุยส์ เขาจะมาจีบเราเคยมีคนรู้ว่าเราคุยกันเป็นน้องผู้ชาย เคยเจอคำพูดคำหนึ่งว่า… เขาจะเอาพี่เหรอ คือ เขาพูดแบบติดตลกนะคะ แต่เรามีความรู้สึก.. คำนี้คือเจ็บมากเลยทำไมพอเราฟังแล้วน้ำตาเราคลอเลย

ถาม นุ่น จะรู้สึกตลอดว่าเป็นความรักของคนตัวเล็กๆอย่างที่ประโยคที่น้องผู้ชายคนนั้นพูด พี่อ้อย รู้สึกว่าคำพูดของเขาไม่สำคัญเท่าเราก็รู้สึกกับตัวเองเหมือนกัน

นุ่น รมิดา : ใช่คือ นุ่น มีความรู้สึกว่าจริงๆไม่ใช่เรื่องของกระแสข่าวหลังจากเปิดตัวด้วยซ้ำไปนะคะ แต่ด้วยความที่เรารู้ว่าเราโตมา เป็นเด็กต่างจังหวัด โชคดีแค่ไหนแล้วที่เราเดินเข้ามาในวงการบันเทิง แล้วได้เป็นดารา นุ่น เคยพูดกับตัวเองว่าเราจะไม่มีแฟนเป็นนักแสดงคือเราจะไม่มีแฟนเป็นดารา เหมือนกับการอยู่อย่างเจียมตัวค่ะ คือเราเข้าวงการมาคือเรารู้ตัวว่าเราไม่ดังมันก็เลยกลายเป็นเหมือนกดดันตัวเองนิดนึงว่า .. คนอย่างเขาเหรอที่เขาสามารถเลือกอะไรก็ได้จะมาเลือกเราเหรอ ณ ตอนนั้น

นุ่น รมิดา : บางครั้งเราโดนตัดสินจนเราอยู่กับมันได้ ว่าเราไม่เห็นสวย ไม่เหมาะสม ไม่เห็นคู่ควร ทำไม หลุยส์ ต้องเอาผู้หญิงตนนี้ทำไมไม่คู่กับนางเอกคนนั้นคนนี้ แต่ที่เราอยู่กับคำเหล่านี้ได้เพราะ หลุยส์ กลับมาบ้านกลับมาเจอเราเขาก็ยังเป็น หลุยส์ คนเดิมที่เขาไม่ได้แคร์ใคร เพราะเรารู้กันสองคนเราไม่จำเป็นต้องแคร์คนข้างนอกเลย นุ่น ไม่จำเป็นต้องแคร์คนที่คอมเมนต์ นุ่น เลยด้วยซ้ำทำไม หลุยส์ ไม่เลือกผู้หญิงคนอื่นทำไมต้องมาเลือกผู้หญิงคนนี้ บางครั้งเราก็มาถามตัวเองว่าเรามีดีอะไรขนาดนั้นที่เขาต้องอยู่กับเรา สวยก็ไม่ได้สวย เคยถามเขานะเขาพูดว่า ผมไม่จำเป็นต้องได้ผู้หญิงที่สวยที่สุด แต่ผมคิดว่าผมอยากหาผู้หญิงที่แบบอยู่กับผมแล้วผมสบายใจ ผมสามารถคุยกับเขาได้ทุกเรื่อง ผมเป็นตัวของตัวเองได้มากที่สุด แล้วก็เป็นผู้หญิงที่อดทน ขยัน เก่ง เขาชอบเราที่เราเป็นแบบนี้

ถาม หลุยส์ เคยรู้ไหมว่า นุ่น เคยคิดอะไรแบบนี้ ฉันต่ำต้อยกว่าเธออะไรอย่างนี้

นุ่น รมิดา : หลุยส์ เขาไม่เคยรู้เลยค่ะ เพราะเวลาเจอข่าวเราไม่เคยมานั่งร้องไห้นะคะ คือเวลาเราออกไปทำงานข้างนอก หรือเราเจอข่าวเพราะเราอ่านข่าวแต่เราไม่คุยกันด้วยซ้ำว่านักข่าวเขียนถึงเรากันแบบนี้ เพราะฉะนั้นเวลา นุ่น อยู่กับ หลุยส์ เป็นโลกของเราเป็นชีวิตของเราจริงๆที่ทั้งคู่จะไปอย่างไรต่อ อยู่ด้วยกันอย่างไรต่อ

ถาม การที่เราเลือกที่จะไม่พูดคือ เราเหมือนปล่อยปัญหาไว้ไหม

นุ่น รมิดา : เรื่องที่ไม่คุย เขาไม่ได้ทำให้เราเจ็บไงค่ะ คือ ตอนที่คบกันที่เขาหายไปเขามีสิทธิ์เหมือนกันที่จะหายไปได้เพราะฉะนั้นช่วงเวลาที่มันผ่านร่วมกันมามันมีแต่อย่างเดียวคือ ถ้า หลุยส์ เลือกเราเราก็ต้องเป็นผู้หญิงที่ดีให้กับเขาเหมือนกันช่วยเหลือเขาซัพพอร์ตเขาในทุกๆเรื่อง แต่เราก็แค่ว่ารอให้วันนั้นมาถึงแล้วกัน วันที่เขาเลือกเราแล้วเราทนกับสิ่งแบบนี้ได้เราก็คงได้อยู่ด้วยกัน

ถาม แล้วอะไรที่ทำให้เราสามารถจะแข็งแรงพอในการรับมือกับปากของผู้คนเยอะแยะขนาดนั้น

นุ่น รมิดา : ทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ที่ตัวเราเราเป็นคนที่รู้เหตุการณ์ทุกวันๆของเราแล้วเราเป็นคนที่อยู่ใกล้เขามากที่สุดที่รู้ว่าวันหนึ่งที่เขาเลือกเรามันไม่ใช่เพราะว่าเพราะเหตุผลที่เราสวยมากหรืออะไร แต่มันคือเหตุผลที่เราชอบอยู่ด้วยกันทีเราเลือกกันเพราะเราผ่านอะไรด้วยกันมาตั้งเยอะก่อนหน้านี้ เขาจะไปเมื่อไหร่ก็ได้ นุ่น คิดแบบนี้นะคะ ถึงจะเปิดตัวว่าคบกันแต่พอได้คบกับจริงๆอาจจะอยู่ด้วยกันไม่ได้ก็ได้แล้วเราก็รู้สึกว่าคนที่เขาเขียนเราไม่เคยเจอเขาด้วยซ้ำ คือ นุ่น ไม่พยายามให้ค่าอะไรกับคนที่เขาไม่รู้จักเราแล้วมาพูดกับเราแบบนี้ อาจจะเป็นเพราะว่าในวัยเด็ก นุ่น ผ่านการกดดันพวกนี้มาเยอะแล้วเวลาเราเจอคนแบบนี้เราเลยไม่ค่อยใส่ใจค่ะ คิดว่า หลุยส์ โชคดีด้วยที่เราต้านทานแรงกดดันตรงนั้นได้ แต่ถามว่าในความที่เราเป็นมนุษย์เรามีแอบน้อยใจไหมมีแอบน้อยใจมีแอบร้องไห้ไหม มีคือสิ่งที่ นุ่ม ไม่ชอบที่สุดคือการมาพาดพิงถึงครอบครัวอย่างนี้ อย่างเช่น..เนี่ย นุ่น เกาะ หลุยส์ ดัง อยากเกาะเป็นกระแสสิอะไรอย่างนี้บางครั้งเรามีความรู้สึกพ่อแม่เราเขาก็เลี้ยงเรามาดีสอนให้เราเจียมตัวนะลูกไปอยู่ตรงไหนต้องเจียมตัวต้องรู้ตัวเองตลอดเวลา แล้วบางทีมันเจอคอมเมนต์ที่แบบ.. อยากสร้างกระแส อยากเกาะ หลุยส์ ดัง หรืออะไรก็ตามแต่ที่ทำให้รู้สึกว่านี่ไม่ใช่เราเลย บางทีก็แอบน้อยใจเพราะ หลุยส์ ไม่มีแอ็กชั่นกับสิ่งพวกนี้กับเราเลย อย่างเช่น บางทีเราน้อยใจ หลุยส์ ว่าเขาไม่มีปกป้องเราบ้างอะไรอย่างนี้ นุ่น มองแล้วว่าดีดีที่เขาไม่ทำเพราะว่าถ้าเขายิ่งทำ นุ่น จะดูยิ่งแย่ไปกว่านี้อีกเพราะว่าเหมือนเขาพยายามให้ นุ่น พิสูจน์ตัวเองจากตัวเอง อันนี้ คือนุ่น คิดได้เองนะคะ นุ่น เป็นคนอย่างนี้ สิ่งที่ นุ่น แปลกคือ นุ่น มีอะไรแบบนี้ในหัวตลอดเวลา แล้วเวลาที่ นุ่น คิด นุ่น จะคิดเผื่อเขาด้วย อย่างเช่น นุ่น โดนอะไรแบบนี้ ถามว่าน้อยใจ หลุยส์ ไหมน้อยใจ แต่ก็จะคิดเผื่อแนวหนึ่งว่าก็ดีแล้วที่เขาไม่ทำแบบนี้ไม่งั้นฉันก็จะโดนเยอะกว่านี้ทุกคนก็จะแบบปกป้องจังเลย คนจะเกลียด นุ่น มากกว่าที่เป็นอีกอย่างนี้ค่ะ

ถาม แล้วตัว หลุยส์ เขาเคยมาถามหรือตัวเขาเคยรู้สึกว่ามันกระทบกระเทือนใจ กับตัวเขาฝั่งเขาบ้างไหม

นุ่น รมิดา : นุ่น ว่าที่ หลุยส์ ไม่คุยจริงๆเพราะว่าเอาตรงๆเขาฝรั่งค่ะ เขาไม่มานั่งแคร์อะไรแบบนี้ แล้วเขาไม่มานั่งอ่านอะไรแบบนี้เลยด้วยซ้ำ เขาไม่ได้มานั่งดูทีวี ดูข่าวบันเทิงสังคมของเขาคือเพื่อนที่เป็นฝรั่งไม่มีใครอัพเดทเรื่องของวงการบันเทิง เพราะฉะนั้นคือที่เราบอกว่าเราคิดถึงเขาเพราะว่าเขาที่ไม่แอ็กชั่นเพราะว่าเขาไม่รู้เรื่องเลยว่าข้างนอกคืออะไร อินสตราแกรม หลุยส์ ก็แทบไม่ได้เล่นแล้วทุกวันนี้ อย่างช่วงแรกๆที่เราลงรูปคู่กับเขา ก็จะโดนคอมเมนต์ต่างๆแต่เขาก็ไม่อ่านเราเลยเข้าใจ ทำไมเขาไม่ตอบโตัเพราะเขาไม่อ่าน เขาไม่รู้ว่าข้างนอกคิดยังไงกัน แต่ลึกๆนุ่นก็เจ็บแหละแต่เพราะเราไม่ได้ใส่ใจมาก ทุกอย่างมันเลยผ่านไปเร็วมากค่ะ

ถาม ตัวนุ่นเองก็เหมือนกับตั้งใจทำงานหาบทบาทต่างๆเพื่อที่จะทำให้ตัวเองประสบความสำเร็จมากขึ้นในวงการด้วยอันนี้ถือว่าเป็นแรงบันดาลใจส่วนหนึ่งที่เป็นการกดดันตัวเองในทางบวก

นุ่น รมิดา : ณ ตอนนั้นที่คนด่าเราเยอะเพราะหนึ่งเราไม่ใช่นางเอกแล้วบทบาทที่เราได้ก็คือ บางทีก็เป็นบ่าวบ้าง เป็นเพื่อนนางเอกกลางๆบาง เราอยู่ในวงการบันเทิงแต่เราไม่สามารถพูดได้สักเรื่องเลยว่าฉันเล่นเรื่องนี้แล้วมันดัง งานของเรามันยังพิสูจน์ให้คนในวงการเห็นไม่ได้เลยว่า นุ่น เล่นละครดีนะ นุ่น เล่นละครเก่งนะ อยากเอา นุ่น มาทำงานเรื่องนี้ด้วยนะ ซึ่งพอเราออกมาจากสังกัดของเรา เราเหมือนตัวคนเดียวเลยค่ะ แล้วพี่คิดว่า หลุยส์ ช่วยหนูได้ไหมเรื่องนี้ก็ไม่ได้ใช่ไหมคะ แบบเราจะบอกว่า หลุยส์ เอา นุ่น ไปเสนอพี่ฉอด ให้เล่นละครหน่อยสิ หลุยส์ ก็ทำไม่ได้ถูกต้องไหมค่ะ นั่นคือความกดดันในชีวิตเราตอนที่เราแบบอยากได้ละครดีๆสักเรื่องเราจะได้พูดได้บ้างว่า.. ฉันประสบความสำเร็จแล้วนะ แต่ในระยะเวลาที่มันหาอยู่ กับ ข่าวที่โดนอยู่ทุกวันบางทีมันก็รู้สึกว่ามันก็ระเบิดได้เหมือนกันบางวันก็มีนะคะ ร้องไห้เลย ร้องไห้แบบหลุดเลยแล้ววันหนึ่งโอกาสมันมาจริงๆอย่าง บุพเพสันนิวาส อย่างนี้เพราะทุกวันนี้ นุ่น เป็นฟรีแลนด์ไม่ได้เซ็นกับค่ายไหนและบทบาทที่เราได้มันอาจจะไม่ได้ดีเท่ากับเด็กช่องหรือคนที่มีชื่อมาอยู่แล้ว วันหนึ่งพอ นุ่น เหมือนฟลุ๊คด้วยเพราะว่าแคสติงของ บุพเพสันนิวาส เขาแคสกันไปหมดแล้วมันเหลือแค่ผิน แย้ม ที่อยู่เฉยๆก็โทรมาบอกเราว่า นุ่น พี่หน่อง โทรมาบอก นุ่น เล่น บุพเพสันนิวาส นะลูก เราก็ค่ะ จนละครออนแอร์จนละครดังจน ผิน แย้ม นี่คือแบบใครก็รักอย่างนี้ เรามีความรู้สึกว่าเหมือนได้เกิดใหม่เลยจริงๆคุ้มเหนื่อยมากๆ เพราะจริงๆเรื่องนี้ นุ่น กะว่าจะรับเป็นเรื่องสุดท้ายเพราะว่าเล่นมากี่เรื่องก็ไม่ได้มีอะไรดีขึ้น

ถาม รับเป็นเรื่องสุดท้าย ณ ตอนนั้นคิดว่าจะลาวงการเหรอ

นุ่น รมิดา : คือ ไม่เชิงลาหรอกค่ะ แต่ว่าอยู่อย่างนี้ก็ไม่เห็นมีใครมาจ้างเล่นละคร ถ้าเราไม่รีบเฟดตัวออกไปหาอะไรที่แบบมั่นคงทำ บางทีก็เคยคิดถึงขั้นว่าถ้าไม่เวิร์กก็ต้องกลับไปอยู่ชัยภูมิเลยค่ะ คือกับไปอยู่โคราชใช้ชีวิตเหมือนเดิมดีไหม มันก็ไฟต์กันอยู่แบบนี้ค่ะ จนวันหนึ่ง บุพเพสันนิวาส ดังแล้วก็มาบวกกับเรื่องของ หลุยส์ ด้วยกับคำที่ว่า วันนี้จุดที่เรายืนอยู่กับเขาเราพูดได้คำเดียวว่าเราคู่ควรแล้วจากอะไรหลายๆอย่างที่เราผ่านมาหนูพูดเลยว่าเราคิดว่า หลุยส์ เลือกคนถูกและเราก็รู้ว่าเราเลือกคนถูกเพราะฉะนั้นตรงจุดที่ฉันยืนอยู่ ฉันคู่ควร ไม่ว่าใครจะพูดอะไรกับฉัน ฉันคู่ควร ถ้าไม่งั้นฉันจะไม่อยู่มาได้ถึงขนาดนี้

ถาม จริงๆเราแค่อยากจะภาคภูมิใจในการยืนข้างๆเขาเพราะที่ผ่านมาขนาดคุยวันนี้ยังรู้สึกเสมอว่า นุ่น เองยังรู้สึกว่าเราเป็นคนที่ยืนด้อยอยู่ข้างๆเขาจนกระทั่งวันที่นี่ไง.. คนจำฉันได้ฉันมีตัวตนในวงการบันเทิง

นุ่น รมิดา : ใช่ค่ะ เรื่องที่ผ่านมาทำให้เรารู้สึกว่าเราเป็นอากาศเราเป็นเหมือนคนที่ไม่มีใครสนใจเอาง่ายๆอย่างเมื่อก่อน นุ่น ไปไหนใครๆก็จะทักว่า นุ่นแฟน หลุยส์ๆ แต่กลายเป็นว่าเดี๋ยวนี้คือ นุ่น รมิดา ไง นุ่น บุพเพสันนิวาส แต่เราไม่ได้อยากบอกว่าเราเป็นดารานะ แต่พอเราเจอแบบนี้ เนี่ยคุ้นหน้าจังเลยใครนะเดี๋ยวใครนะ เออ..แฟน หลุยส์ ใช่ไหม (เราแบบถอนหายใจเลย) แบบมองบนอีกแล้วเหรออะไรอย่างนี้ ไม่ใช่ไม่ชอบนะคะ ที่คนบอกว่าเราเป็นแฟน หลุยส์ แต่มันมีความรู้สึกว่าแล้วฉันล่ะ ฉันคือใคร ??

ถาม ในความสำเร็จของเราใน บุพเพสันนิวาส หลุยส์ เขารู้สึกอย่างไรบ้าง เคยคุยกันไหม

นุ่น รมิดา : เขาภูมิใจในตัวเรามากเลยค่ะ เขารู้สึกว่าสิ่งที่เราเจอคืออะไรแต่เขาไม่พูด เขารู้แหละว่าเราเจ็บที่ผ่านมา แต่เขาเห็นว่าเราอดทนและพยายามกัดฟันและผ่านมาได้ แต่เขาก็มีโอ๋บ้าง เขาก็บอกว่าเดี๋ยวคุณก็ผ่านได้แหละ คุณอย่าไปสนใจมาก คุณก็รู้ว่าทุกวันนี้เราอยู่ด้วยกันเราไม่ได้อยู่กับคนอื่นเราก็รู้สึกว่าโอเคคนข้างๆเราเข้าใจเรา เราก็แฮปปี้กับมันแล้ว กับอีกส่วนก็คือแบบ หลุยส์ เขาจะแมนมากเขาจะแบบไม่พูดอะไรเยอะค่ะ ฉันรู้ว่าคุณไหว คุณเก่ง แล้วเขาก็เหมือนซัพพอร์ตเราค่ะ ดูแลเราเวลาออกไปไหนไปห้างด้วยกันคนเริ่มแบบเฮ้ย .. พี่แย้มๆเขาก็เดินแล้วไม่พูดแต่เขาอมยิ้มเหมือน..เป็นวันของคุณแล้วอะไรอย่างนี้

เรียกได้ว่าทั้ง นุ่น และ หลุยส์ ที่ผ่านมาอาจจะมีงอแงกันบ้าง แต่แอดเชื่อว่าทั้งสองคนเกิดมาเพื่อคู่กันจริงๆค่ะ แอดเอาใจช่วยค่ะเพราะคู่นี้น่ารักมากจริงๆ