หมูหยอง – พ่อเอ๊ะ ระเบียบวาทศิลป์ เผยเส้นทาง สู่การเป็น ศิลปิน

หมูหยอง ระเบียบวาทศิลป์ เผยเส้นทาง จาก แดนซ์เซอร์ สู่การเป็น ศิลปิน พ่อเอ๊ะ เปิดใจ สาเหตุที่อยากรับเป็น ลูกบุญธรรม

เรียกว่าความหล่อที่โดดเด่นแล้ว ความสามารถไม่เป็นสองใครจริงๆสำหรับ หมูหยอง ระเบียบวาทศิลป์ จากก่อนหน้านี้เคยเป็น แดนซ์เซอร์ ที่คว้าหัวใจแม่ยกไปครอง ตอนนี้ขอกระโดดข้ามสเต็ปจาก แดนซ์เซอร์ มาสู่การเป็น ศิลปิน จากการปั้นของ พ่อเอ๊ะ ระเบียบวาทศิลป์ ล่าสุดได้มาเปิดใจพูดคุยกันที่รายการ ต้มยำอมรินทร์ เจ้าตัวก็ขอจัดเต็มนำเพลงแรกในชีวิตของตัวเอง เหลียใจเด้ว่ะ มาโชว์สร้างสีสันให้ได้คึกคักกันเลยทีเดียว และงานนี้ พ่อเอ๊ะ ยังได้ชี้แจ้งให้หายสงสัยในเรื่องที่ขอ หมูหยอง มาเป็น ลูกบุญธรรม

ถาม : ทั้งวงของ ระเบียบวาทะศิลป์ มีกี่ชีวิต แล้วช่วงนี้เป็นยังไงบ้าง?

พ่อเอ๊ะ : มีทั้งหมด 300 กว่าชีวิตครับ ช่วงนี้คือขยับไม่ได้เลยเพราะว่าเราต้องทำตามมาตรการ เราก็ทำอะไรเล็กๆน้อยๆให้คนที่ยังอยู่ได้พอมีกิจกรรมทำเราก็จะมีไลฟ์เป็นกลุ่มปิดเล็กๆน้อยๆอาทิตย์ละครั้งครับ

ถาม: แต่ต้องบอกว่าครั้งนี้ หมูหยอง ไม่ได้มาในฐานะ แดนซ์เซอร์ แล้วนะเขามาในฐานะ ศิลปิน นักร้อง รู้สึกย่างไรบ้าง?

หมูหยอง : ก็ยังไม่ได้เป็น ศิลปิน อะไรขนาดนั้นครับ ก็รู้สึกดีใจครับเพราะว่าผมไม่เคยมีเพลงของตัวเองด้วยแล้วนี่เป็นเพลงแรกของเราด้วย แล้วที่ผ่านมาเราก็ไม่ได้สนใจเรื่องการร้องเพลงเลย เพราะว่าเรามาเป็น แดนซ์เซอร์ เลย แล้วพอวันหนึ่งที่พ่อบอกว่าจะทำเพลงให้เราคือ เราคิดว่าเราจะทำได้ไหม

พ่อเอ๊ะ : ต้องย้อนกลับไปตอนแรก หมูหยอง มาเต้นแล้วเขาก็มีแฟนคลับ แล้วแฟนๆเขาก็เรียกร้องอยากให้น้องร้องเพลงนั้นเพลงนี้ แล้วเราจะให้เขามาร้องเลยก็ไม่ได้ เพราะว่าเขาไม่มีประสบการณ์หรือพื้นฐานในการร้องเลย ก็เลยให้เขาไปเล่นกับพี่ๆตลกก่อนเพราะเขาจะได้มีทักษะในการคุยกับคนหรือมีลูกเล่น พอตรงนั้นเขาไปแล้วเริ่มเฉลยๆมันไม่มีอะไรที่ทำให้เขาดึงดูดคนได้มาก เราก็เลยถามว่าร้องเพลงเป็นไหม เขาก็บอกว่าไม่เป็น ฟังเพลงก็ไม่เคย

ถาม : ทำไม พ่อเอ๊ะ ถึงตัดสินใจทำเพลงให้ หมูหยอง เพราะทั้งๆที่เขาก็ร้องเพลงไม่เป็น?

พ่อเอ๊ะ: คือเพราะเราเคยหยิบเพลงของคนอื่นมาให้เขาร้องแล้วเขาไม่มีพื้นฐานไม่มีอะไรเลย แล้วมาร้องเพลงคนอื่นได้ในระดับนั้นเราก็คิดว่ามันน่าจะพอมอบความสนุกให้แฟนคลับได้ โดยที่เป็นสไตล์ของเขาเองเพราะว่าถ้าเอาเพลงของคนอื่นมาร้องเขาก็คือ จะร้องเพี้ยน (เราก็คิดว่าถ้าเขาไปร้องเพลงคนอื่นก็จะทำให้เสียเพลงคนอื่นเขา)

ถาม : แล้วก่อนหน้านี้ หมูหยอง มีเพลงโปรด หรือ ศิลปิน ในดวงใจไหม?

หมูหยอง : เราไม่ได้เคยสนใจเพลงเลยครับ เพราะว่าเราสนใจ กีฬา กับเพื่อนครับ

ถาม: แล้วพอเรามีเพลงแต่ก็มีกระแสว่าเรายังร้องเพี้ยนอยู่เลย ?

หมูหยอง : ไม่คิดอะไรเลยครับ เราก็เอาคำที่เขาพูดมาปรับปรุงแก้ไขในส่วนที่ผิดพลาดครับ

พ่อเอ๊ะ : เขาก็เอาทุกคำติชมของแฟนคลับไปพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา เพราะเขาก็อยากจะพัฒนาให้เหมือนพี่ๆที่เป็นพระเอก ในวงของเรา

ถาม: ต้องถามถึงที่มาของเพลงนี้ เหลียใจเด้ว่ะ ?

พ่อเอ๊ะ : เพลงนี้ความหมายประมาณว่า เสียใจมากที่ไปจีบใคร เขาก็ว่าเราเป็นเด็ก เราก็คุยกับอาจารย์ที่เขาแต่งเพลงเพราะว่าวัยของน้องจะไปร้องแบบพระเอก อกหัก ผิดหวัง ฟูมฟาย มันก็ไม่ถูกเพราะว่าวัยของเขายังสดเราก็เลยเอาความเป็นจริงที่ว่าไปไหนเขาก็ไปกับพ่อ แล้วชอบกินหมูกระทะ เราก็บอกกับอาจารย์ที่แต่งเพลงให้เขาว่าธรรมชาติของเขาเป็นแบบนี้ จะจีบสาวก็เอาไว้รอโตก่อนนะ

ถาม : เพลงนี้ร้องยากไหม?

หมูหยอง : ยากอยู่ครับ อัดตอนแรก 20 ครั้งเลยครับ ใช้เวลา 4 ชั่วโมงเลยครับ

ถาม : และอีกอย่างหนึ่งคือ ตอนนี้ พ่อเอ๊ะ ยังรับ หมูหยอง เป็น ลูกบุญธรรม ด้วยเป็นทางการขนาดไหน?

พ่อเอ๊ะ : ก็ไปขอกับพ่อแม่เขาว่า เราอยากเอาน้องมาดูแล ซึ่งทางครอบครัวของ หมูหยอง เขาก็ยินดีที่จะ มอบลูกให้มาเป็น ลูกบุญธรรม ของเรา แต่ก็ยังไม่ได้เซ็นเอกสารแบบถูกต้องนะครับ เพราะเราไม่อยากให้ใครมาวิพากษ์วิจารณ์ว่า ที่เรารับน้องมาเป็น ลูกบุญธรรม เพราะประโยชน์อะไรหรือเปล่า เราก็รอที่ความพร้อมของเขาจริงๆให้เขามาสัมผัสดูว่าลูกพร้อมไหมที่จะมาอยู่ตรงนี้ แล้วพ่อแม่มั่นใจแล้วหรือยังว่า ถ้าเราจะขอลูกเขามาใช้นามสกุลของเรา พ่อแม่ พร้อมหรือยัง แล้วให้เขาดูก่อนว่าพอลูกเขามาอยู่กับเราแล้วเป็นยังไง ถ้าลูกเขามาอยู่กับเราแล้วพฤติกรรมเปลี่ยนไปเขาก็อาจจะอยากเอาลูกเขาคืนก็ได้ เราก็เลยคิดว่าให้ลูกเขามาศึกษาเรา ให้พ่อแม่เขามาศึกษาเราให้ดีก่อนแล้วขั้นตอนต่อไปค่อยว่ากัน ถ้าไว้ใจ สบายใจแล้วเวลานั้นค่อยว่ากันอีกที

ถาม : แล้วมาเจอกับ หมุหยอง ได้อย่างไร ?

พ่อเอ๊ะ : เพราะว่าพี่ชายเขา ติงลี่ เขาอยู่ที่คณะของเราอยู่แล้วก็เลยอยากให้น้องมาอยู่กับพี่ชาย เพราะพ่อแม่เขาไม่ค่อยได้อยู่บ้านเขาเลยห่วงลูกชายก็เลยขอให้มาอยู่ที่นี่ เขามาอยู่ก็เหมือน แดนซ์เซอร์ ทั่วไปคือ ซ้อมก็ซ้อม ทำงานก็ทำงาน แล้วตามที่เราดูคือ เด็กคนนี้ไม่ดื้อตอนนั้นนะ เพราะว่าเขายังมองเราว่าเราเป็นหัวหน้า แต่มาตอนนี้พอมาเป็นพ่อลูกคือ อยากดื้อก็ดื้อ อยากงอนก็งอน อยากไม่ก็ไม่ ก็เลยกลายเป็นว่าภาพเด็กที่ไม่ดื้อหายไปแล้ว

ถาม : ขอถามย้อนไปก่อนที่ หมูหยอง จะเข้ามาอยู่ที่ ระเบียบวาทศิลป์ ที่อยู่ของเราคือแบบไหน?

หมูหยอง : เป็นบ้านเมืองเลยครับ แล้วก็ไม่มีพื้นปูนเป็นพื้นดิน แต่พอเราเข้ามาที่ ระเบียบวาทศิลป์ เราก็พอมีเงินแล้วก็นำกลับไปสร้างบ้านให้คุณพ่อคุณแม่ครับ

ถาม: พูดถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นอยู่ตอนนี้การดูคนกว่า 300 ชีวิต พ่อเอ๊ะ ดูแลยังไง?

พ่อเอ๊ะ : ตั้งแต่ยังไม่เกิดโควิดเราก็ดูแลทั้งคนหมดทุกอย่าง กิน อยู่ น้ำ ไฟ ดูแลหมด แต่พอมาช่วงโควิดตอนแรกก็ร่วมกันอยู่แต่พอเรารู้ว่าสถานการณ์ตอนนี้ไม่สามารถไปต่อได้ แล้วทุกคนก็มีภาระทางบ้านก็ต้องหาเงินก็แยกย้ายไปทำงาน ที่เหลืออยู่ตอนนี้ก็ประมาณ 20 กว่าคน เขาก็อยากมีรายได้เหมือนกันก็เลยไปทำงานที่โรงงานคัดแยกพัสดุ เราก็ช่วยเหลือเขาตรงที่พักอาศัยน้ำไฟ จะได้ไม่ต้องไปเช่าบ้านแพงๆแต่ถ้าวันไหนมีการไลฟ์สดกลุ่มปิด เด็กพวกนี้เขาก็จะมาช่วยเราเพราะว่าผมจะทำช่วง ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ การไลฟ์ของเราก็จะเป็นแบบมินิคอนเสิร์ตสอนน้องรำขำๆ แบบเอาพี่ๆพระเอก นางเอก ที่เขาเก่งๆแล้วมาสอน หมูหยอง ให้ร้องให้รำ

ถาม : เห็นบอกว่าทำเล่นๆแต่ค่าขนมที่แม่ๆโอนเข้ามาเป็นค่าพวงมาลัยออนไลน์มันไม่ใช่น้อยๆเลยใช่ไหม?

พ่อเอ๊ะ : มันเกินความคาดหมายที่เราไม่คิดว่ามันจะเป็นไปได้เลยครับ เพราะว่าเราไม่ได้รวมตัวพระ ตัวนางครั้งเดียว เราก็ทำครั้งละแบบเป็นคู่ๆเพื่อที่จะได้มาสอนน้องคือเราตั้งเป้าว่าคนดู 600 คนเราก็โอเคแล้ว ทำไมทำมาเป็นสองพันสามพัน และพวงมาลัยจากหลักหมื่นก็เพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆจนเป็นหลักแสน มันก็เป็นกำลังใจให้เขาที่ต้องพัฒนา เพราะเราก็เห็นเขาได้พัฒนาขึ้นมาทุกไลฟ์ แฟนคลับเขาก็ได้มองเห็นว่า หมูหยอง ไม่ได้หยุดเอาคำที่แฟนๆเสนอแนะมาปรับปรุงตัว ซึ่งน้องเขาก็ปรับปรุงตัวให้แฟนคลับเห็นเขาก็เลยเมตตา

ถาม: หมูหยอง มีความรู้สึกยังไงบ้างที่มีคนรักเรามากขนาดนี้ ?

หมูหยอง : รู้สึกดีใจแบบสุดๆเลยครับ เพราะเราไม่เคยคิดว่าจะมีใครมารักเรามากขนาดนี้

ถาม: เพราะด้วยความรักของทุกคนก็เลยทำให้ หมูหยอง ส่งเงินไปให้คุณพ่อคุณแม่ ต่อเติมทำบ้าน?

หมูหยอง : ตอนนี้ก็เริ่มทำหลังไปแล้วครับ และก็เริ่มต่อเติมทำไปเรื่อยๆ

พ่อเอ๊ะ : ที่พ่อตัดสินใจขอเขามาเป็นลูกบุตรธรรมเพราะว่าเขามีความกัตญญู แล้วเขาก็ช่วยเหลือแม่ของเขาเลี้ยงน้องมาตลอด เขามีความฝันที่เขาอยากมีโน้นมีนี่ แต่สิ่งหลักๆของเขาคือ อยากทำบ้านให้เสร็จ

ถาม : งั้นถามเลยว่า พ่อเอ๊ะ ดุไหม มีข้อห้ามอะไรไหม?

หมูหยอง : ไม่ครับ เป็นคนใจดี แต่ก็ห้ามยังไม่ให้มีแฟนครับ

พ่อเอ๊ะ : เพราะว่าเขาเพิ่งจะ 16 เองแล้วคนที่มาเอ็นดูเขาตอนนี้ คือ เพราะความที่เขาเป็นเด็ก ส่วนเรื่องกฎระเบียบของพ่อคือ ก็เหมือนทั่วไปเลย ตื่นมาต้องทำอะไร ก่อนนอนต้องทำอะไร ต้องนอนกี่โมง เราก็พยายามที่จะดูแลเขาให้ดีและมากที่สุด เพราะเขาก็ยังไม่ได้มีกำลังที่จะไปจ้างใครมาดูแลแทนเราได้ เราก็เอาคำว่าสถาบันครอบครัว มาใช้มาดูแลกันนี่แหละดีที่สุด

ถาม :จะบอกว่า หมูหยอง คือ ฮอตมาก?

พ่อเอ๊ะ : มีติดต่อเข้ามาเรื่อยๆครับ อย่างล่าสุดก็ของ จินตหรา พูนลาภ ไปเป็นพระเอก MV

ถาม :งานอีกอย่างที่ติดต่อมาคือ ไปเล่นซีรีส์วาย?

พ่อเอ๊ะ : อย่างตอนแรกเขาก็ไม่ได้คิดอะไรเพราะว่าอยากลองเล่นละคร จะเป็นแบบไหน พ่อก็เลยรับปากทางผู้จัดไป ไปถ่ายโปสเตอร์เขาก็ยังโอเคอยู่นะ แต่พอได้บทมาว่าต้องพูด ต้องทำท่าแบบไหน แล้วเขาทำไม่ได้เขาก็เครียดเลยขอให้เขาไม่เล่นได้ไหม เพราะว่าเขาไม่เคยผ่านงานการแสดงมาเลย เราก็เลยคุยกับเขาว่างั้นลองไปแสดงก่อนว่าถ้าทำไม่ได้จริงๆเดี๋ยวค่อยบอกผู้กำกับอีกครั้งว่าเราจะทำยังไงกันดี แต่พอเขาแสดงสรุปว่าวันแรกก็ผ่านไปได้ด้วยดีเลย

ถาม: แล้วในวงมีน้อยใจไหมว่าทำไมไม่ผลักดันบ้าง?

พ่อเอ๊ะ : ก็มีนะครับ เพราะอยากคนที่อยู่มาก่อนเขาก็รู้สึกว่าทำไม ไม่ผลักไม่ดันเขาบ้าง เราก็จะดูแล้วครับว่าความสามารถของแต่ละคนไปสายไหนอย่าง หมูหยอง เขาจะมาสายการแสดงพ่อก็เลยผลักดันเขามาทางนี้ แต่คนอื่นๆเขาก็มีทักษะเรื่องการร้องการำอยู่แล้วแต่ก็ต้องดูจังหวะด้วย

ถาม :จากตอนแรกที่เราจะถอนตัวจากการแสดงตอนนี้เริ่มรู้สึกสนุกกับมันหรือยัง?

หมูหยอง : ตอนนี้เริ่มสนุกแล้วครับ เพราะว่าตอนแรกเราไม่รู้จักกับพี่ๆเขา แต่พอเริ่มสนิทก็เริ่มชอบครับ

เป็นอีหหนึ่งดาวรุ่งหนุ่มน้อยที่มีความสามารถมากมายหลายด้านมากๆเลย และที่น่าชื่นชมคือเป็นลูกที่กตัญญู แอดเชื่อว่าบรรดาแฟนคลับต่างก็ต้องรอชม