จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์คลิปวงจรปิดภายในบ้าน มีชายใส่เสื้อสีเหลือง กางเกงขายาว และมีเสื้อดำมาปกคลุมปิดบังใบหน้า เห็นเพียงแค่ดวงตา กำลังทำร้ายแม่ของเธอ ซึ่งถือไม้กวาดอยู่ในมือ และพยายามป้องกันตัวเองจากชายดังกล่าวที่บุกมาทำร้าย โดยในมือของชายคนนั้นมีอาวุธบางอย่าง กระหน่ำทุบแม่ของเธอ จนได้รับบาดเจ็บศีรษะแตก จนต้องเย็บ 3 เข็ม ซึ่งแม่ของเธอได้ส่งเสียงเรียกหลาน และคนให้มาช่วย ก่อนที่ชายดังกล่าวจะหลบหนีไป ภายหลังทราบว่าเป็นเพื่อนบ้านอยู่ติดกัน พร้อมข้อความระบุว่า
“เตือนภัยใกล้ตัว อยู่บ้านตัวเองแท้ๆ เข้ามาจนถึงหลังบ้าน บ้านตัวเองยังไม่ปลอดภัย แตกเย็บ 3 เข็ม”
ทีมข่าวอีจันได้เดินทางไปพบกับผู้โพสต์ คือ น.ส.จันทร์เพ็ญ คำมณีจันทร์ อายุ 29 ปี ซึ่งเป็นลูกสาวของผู้บาดเจ็บ ที่บ้านขามป้อม อ.พระยืน จ.ขอนแก่น เธอเล่าว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 24 เม.ย.67 คุณแม่กำลังกวาดบ้านอยู่หน้าบ้าน ซึ่งประตูรั้วบ้านเปิดเล็กน้อย ชายคนดังกล่าวซึ่งเป็นเพื่อนบ้าน มีบ้านอยู่หลังติดกัน ได้วิ่งเข้ามาทำร้ายแม่ที่หน้าบ้าน ก่อนที่จะวิ่งเข้าไปตามทำร้ายแม่ในบ้าน แล้วไล่ทำร้ายไปอีกจนถึงหลังบ้าน โดยการทำร้ายในครั้งนี้ มีการปิดบังใบหน้า และในมือมีอาวุธบางอย่าง ก่อนที่เพื่อนบ้านจะได้ยินเสียงตะโกนของแม่ จึงได้ออกมาช่วย จึงทำให้ชายคนนี้หลบหนีไป จากนั้นตนได้มีการแจ้งทางผู้นำชุมชนได้ทราบ พร้อมพาแม่ไปโรงพยาบาล พบที่ศีรษะแตก ได้เย็บ 3 เข็ม และมีรอยฟกช้ำตามร่างกาย ก่อนจะกลับมาที่บ้าน กระทั่งมีตำรวจเห็นคลิป จึงลงพื้นที่มาสอบถาม และนัดเข้าไปพบพนักงานสอบสวน เพื่อแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมาย
น.ส.จันทร์เพ็ญ ยังบอกอีกว่า จากข้อมูลที่พูดคุยกับชาวบ้านในหมู่บ้าน บอกว่าแม่ตนเป็นรายที่ 5 แล้ว ที่โดนเพื่อนบ้านคนนี้ทำร้าย แต่คนอื่นๆ ไม่ได้เข้าแจ้งความ เพราะทุกคนในหมู่บ้านทราบดีว่าเพื่อนบ้านรายนี้มีอาการทางประสาท จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ที่เข้าเกี่ยวข้อง เข้ามาช่วยแก้ใขปัญหา นำตัวชายคนดังกล่าวไปบำบัด หากมีพฤติกรรมยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด หรือหากมีอาการทางประสาท ก็อยากให้ไปรักษาด้านจิตเวช และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยลงพื้นที่ติดตามผลการรักษา ทั้งการกินยาตามแพทย์สั่งหรือไม่ ผู้ปกครองเอาใจใส่ดูแลมากน้อยขนาดไหน อยากให้ดูแลในจุดนี้ด้วย เพราะที่บ้านมีทั้งเด็กและคนแก่ หลังเกิดเรื่องคนที่บ้านก็อยู่กันอย่างหวาดผวา
ด้าน นางลำไย อายุ 56 ปี ผู้เสียหายที่ถูกทำร้ายร่างกาย กล่าวว่า ปกติตนอาศัยอยู่บ้านหลังนี้กับหลายน้อยวัย 2 ขวบ เนื่องจากลูกสาวและลูกเขยไปทำงานที่ต่างจังหวัด และลูกคนเล็กก็เพิ่งออกจากค่ายทหาร มาเยี่ยมแม่ไม่ถึงสัปดาห์ วันและเวลาเกิดเหตุ ลูกชายและหลานนอนพักอยู่ในบ้าน
ขณะที่ตนอยู่นอกบ้าน ตนกำลังก้มตักน้ำแข็ง ทันทีที่เงยหน้าขึ้น ก็พบว่าชายเพื่อนบ้านกระโดดเข้ามาทุบตีทำร้ายตนแบบไม่ทันตั้งตัว จนทำให้ล้มลงไปกองกับพื้น ตนจึงคว้าไม้กวาดที่วางอยู่ต่อสู้กับชายคนดังกล่าว ซึ่งตอนนั้นยังไม่ทราบว่า คนร้ายคือ นายจ่อย เพราะคนร้ายใช้ผ้าโพกคลุมศีรษะปิดบังใบหน้า
จากนั้น ตนจึงวิ่งเข้าไปหลังบ้าน พร้อมกับตะโกนเรียกลูกชายที่นอนอยู่ภายในบ้านให้ช่วยเหลือ แต่คนร้ายก็วิ่งตามเข้ามาทำร้ายตน โดยการใช้กำปั้นทุบที่ศีรษะจนแตก และระบมไปทั้งตัว ซึ่งที่ตนพยายามต่อสู้จนผ้าที่คนร้ายโพกหน้าเปิดออก จึงทำให้รู้ว่าคือนายจ่อย ชายป่วยทางจิตที่บ้านอยู่ติดกัน และลูกชายของตนก็วิ่งออกมาจากบ้าน นายจ่อยก็รีบวิ่งหนี
นางลำไย กล่าวต่อว่า ตนอาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้มาตั้งแต่เกิด ที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีเรื่องขัดแย้งใดๆ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนตกใจและหวาดกลัวมาก เพราะอยู่บ้านดึกๆ ก็ถูกนายจ่อยบุกเข้ามาทำร้าย หากในวันเกิดเหตุนายจ่อยมีอาวุธมาด้วย ตนคงเอาชีวิตไม่รอด ตนจึงเข้าแจ้งความที่ สภ.พระยืน จ.ขอนแก่น มาจับตัวนายจ่อยไปดำเนินคดีแล้ว แต่ตนก็กลัวว่า หากนายจ่อยถูกปล่อยตัวออกมา ก็อาจจะมาทำร้ายตนอีก จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจัดการอย่างเด็ดขาด เพราะที่ผ่านมา นายจ่อยเคยทำร้ายร่างกายชาวบ้านในหมู่บ้านมาแล้ว 4 ครั้ง แต่ไม่มีใครเอาความ เพราะไม่รุนแรงเหมือนตนเอง
คลิปอีจันแนะนำ
เมื่อบ้านตัวเอง กลายเป็นที่ไม่ปลอดภัย