เพิ่งเดินทางกลับถึงเมืองไทยหมาดๆสำหรับ อแมนด้า ชาลิสา ออบดัม มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2020 ที่เพิ่งเดินทางกลับจากภารกิจพิชิตมง การประกวดเวที Miss Universe 2020 รัฐฟลอริด้า ประเทศสหรัฐอเมริกา เจ้าตัวก็รีบออกมาให้สัมภาษณ์ เปิดใจ เล่าเรื่องราวต่างๆ โมเมนต์สุดประทับใจ ถึงเวลาการประกวดในครั้งนี้ โดย อแมนด้า เผยว่า
“สวัสดีแฟนแฟนชาวไทยและเป็นแฟนจากทั่วโลกเลยนะคะวันนี้ ด้า ก็จะมาอัพเดต หลังจากที่ได้ประกวดมิสยูนิเวอร์ส 2020 เสร็จสิ้นแล้วนะคะ”
ความรู้สึกตอนอยู่บนเวทีเป็นอย่างไรบ้าง?
“มันเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจค่ะ ที่เราได้เป็นตัวแทนผู้หญิงไทย ไปประกวดบนเวที มิสยูนิเวอร์ส ซึ่งเป็นเวทีที่ ผู้หญิงหลายหลายคน ใฝ่ฝัน รวมถึง ด้า ด้วย จำได้ว่าตอนเด็กๆเคยดู มิสยูนิเวอร์ส กับคุณแม่ แล้วคิดว่าเวทีนี้มันใกล้ตัวเรามากๆ แล้วเราไม่คิดว่าเราจะมีโอกาสไปยืนอยู่บนเวที มิสยูนิเวอร์ส เพราะฉะนั้นเวลาอยู่บนเวทีมันมีทั้งความสุข ความภาคภูมิใจมีความปลื้มปริ่ม ทุกครั้งที่แฟนๆที่เข้าไปดูแล้วพูดว่าไทยแลนด์ มันเป็นความขลังและมันทำให้รู้สึกว่ามันมีพลังบางอย่าง”
หลังจากประกวดจบรู้สึกอย่างไรบ้าง?
“หลังจากประกวดจบก็รู้สึกเหงาเหมือนกันนะคะ กำลังสนุกเลย กำลังรู้จักเพื่อนมากขึ้น ไปประกวดร่วมกับสาวสวย 73 ประเทศ มันยากที่จะทำความรู้จักทุกคน เรารู้จักคนมากขึ้น มันเลยทำให้เรารู้สึกว่าอ้าวหมดเวลาแล้วหรอ กำลังสนุกที่จะรู้จักเพื่อนๆมากขึ้น ก็ไม่เป็นไรค่ะจริงๆแล้วพอประกวดจบ มันเต็มไปด้วยความสุข มันเป็นมิตรภาพของสาวงามแต่ละประเทศมีให้กัน ทุกคนก็หันมากอดกันแล้วบอกว่าอย่าลืมไปเที่ยวประเทศฉันนะ ดีใจนะคะที่ได้มีโอกาสมีประสบการณ์ดีๆแบบนี้”
คิดว่าเราทำเต็มที่มากแค่ไหน?
“คิดว่าการประกวดครั้งนี้ ด้า ทำเต็มที่มากกว่า 100%อีก เพราะว่า ด้า ตั้งมายด์เซ็ทก่อนบินไปแล้วว่า การไปประกวดครั้งนี้เราจะไม่แบกความหวัง ความคาดหวังของใคร แต่การไปครั้งมีเราจะทำทุกวันให้ดีที่สุด เราจะเอ็นจอยทุกโมเมนต์ เพราะด้าเองรู้ตัวว่า ความรู้สึกเนี่ยมันออกมาจากสีหน้าและสายตาเรา เพราะว่าสายตาเรามันเป็นอะไรที่โกหกไม่ได้เลย ฉะนั้นไปเราคิดไว้เลยว่าเราจะมีความสุข เราจะเอ็นจอยจะทำความรู้จักกับเพื่อนๆทุกคน ซึ่งเราก็ทำอย่างนั้นจริงๆ ทุกก้าวที่เดินบนเวทีมันคือความสุขล้วนๆเลยค่ะ ลองย้อนกลับไปดูได้เลยนะคะว่าสีหน้าและแววตาที่เดินบนเวทีมันออกมาจากใจล้วนๆเลยค่ะ”
เคยมีอารมณ์รู้สึกเหนื่อยรู้สึกท้อบ้างไหมเวลาเก็บตัว?
“ไม่เคยนะคะ ไม่เคยรู้สึกท้อแต่มันก็มีเหนื่อยบ้าง เหนื่อยกายแต่เราไม่เคยเหนื่อยใจนะ วันไหนที่ซ้อมหนักๆหรือมีกิจกรรมแน่นๆ ก็จะมีบ้างที่รู้สึกง่วงนอนจังเลยรู้สึกเหนื่อยจังเลย ไม่มีความรู้สึกเหนื่อยใจเลยค่ะ แค่รู้สึกว่าโอเควันนี้เราทำเต็มที่แล้วเราก็นอน พรุ่งนี้ตื่นมาเริ่มต้นใหม่ เป็นอย่างนี้มากกว่าค่ะ แต่มันคือความสุขนะคะเพราะว่าเราไป เราเต็มที่มาก มันคือครั้งหนึ่งในชีวิตเนอะ เลยไม่เคยรู้สึกท้อเลยค่ะ”
ตอนประกาศผลเข้ารอบ 10 คนตอนนั้นคิดอะไรอยู่?
“ความรู้สึกบนเวทีตอนนั้นมันผ่านไปทั้งเร็วและช้านะคะ มันช้าเพราะว่าเอ๊ะ เมื่อไหร่จะประกาศชื่อเราสักที เราจะอยู่หนึ่งในนั้นไหม แต่มันก็แอบเร็วตรงที่ว่าเขาประกาศไป หนึ่ง สอง สาม สี่ เพราะมันเริ่มเลขท้ายๆเราก็แอบลุ้นเราว่า อ๊ะยังไง เริ่มไม่สนุกแล้วนะ ใส่จะเรียกไทยแลนด์สักที (หัวเราะ)”
เห็นว่าเพื่อนๆในกล่องประกวดรักเรามากสนิทกับใครบ้าง?
“ว่าสาวงามทุกประเทศนิสัยน่ารักมากๆค่ะ มีความสุขมากๆเลยค่ะ และโชคดีที่ ด้า เนี่ยได้เป็นรูมเมทกับ มิสสิงคโปร์ ขออวยรูมเมทหน่อยนะคะว่า เขาเป็นคนที่นิสัยน่ารักมากและคอยซัพพอร์ตเราจริงๆ เรามีการปรึกษากันตลอดเขาเป็นคนน่ารักนะคะ เป็นคนที่คอยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและคอยช่วยเหลือกันตลอด แล้วเขาก็คอยปลุก ด้า ด้วยนะวันสุดท้าย เหมือนเรานอนดึกสะสมกันมาหลายวัน แล้วเราก็เป็นคนที่ชอบนอน ซึ่งเขาก็เป็นคนปลุกเรา ถือว่าน่ารักมากค่ะ และก็มีเพื่อนนางงามอีกหลายคนเลยนะคะที่ด้าชอบ เพื่อนแต่ละคนน่ารักหมดแต่ก็อาจจะไม่มีโอกาสที่จะรู้จักทุกคน แบบลึกซึ้งนะคะ”
พูดถึงเรื่องชุดทำไมถึงเลือกสีทองในวันพรีลิม และทำไมถึงเลือกชุดสีน้ำเงินในวันไฟนอล?
“ทั้งสองชุดเป็นชุดที่สวยมากๆ ต้องขอขอบคุณ วาเลนเทียร์ ,โอตกูตูร์ และ พรีเว่ สามห้องเสื้อนี้ที่ทำชุดให้ด้าเลือก แต่ด้าเนี่ยเลือกที่จะใส่ชุดสีน้ำเงินในวันไฟนอล เพราะว่ามันมีภาพในหัวค่ะ ด้าคิดไว้แล้วว่าเห็นตัวเองใส่ชุดสีน้ำเงินอยู่บนเวที แล้ว stories ของชุดนี้มันก็คือ อแมนด้า จากอันดามัน มันคือคลื่นทะเล Stories เราคือมาจากภูเก็ต มันก็เลยทำให้เรารู้สึกมีพลังและขลังทุกครั้ง ที่ใส่ชุด มันเป็นอารมณ์ที่ใส่แล้วขนลุก แล้วอยากจะเดินให้ทุกคนเห็น ว่าชุดนี้มันสวยแค่ไหน ส่วนในชุดสีทองเป็นชุดที่สวยมาก มี storiesที่ดีก็คือ พลุ ซึ่งมันก็มีความโมเดิร์น เป็นเอวลอย ด้าชอบมากเลยทั้ง 2 ชุดเลยค่ะ”
คิดไหมว่าคนจะติดตามไอจีเราเยอะขนาดนี้?
“ไม่คิดเลยว่าจะ ถึง ล้านคน ขอบคุณทุกคนมากเลยนะคะขอบคุณจากใจเลย ที่คอยเป็นกำลังใจให้ด้าตั้งแต่ วันประกวดจนถึงวันนี้เลย ขอบคุณที่เห็นความตั้งใจของด้าในการประกวดครั้งนี้ ทุกก้าวที่ด้าเดินบนเวทีมันคือความภาคภูมิใจ ที่เราได้เกิดมาเป็นคนไทย และได้เป็นตัวแทนของประเทศไทย ขอบคุณทุกคนจากใจเลยค่ะ “
ฝากอะไรถึงแฟนแฟนที่คอยเชียร์เราบ้าง?
“ขอบคุณที่คอยเป็นกำลังใจให้ด้า ด้าได้รับรู้ ถึงพลังของ กำลังใจนี้ รับรู้ถึงพลังของคนไทย เพราะมันทำให้ด้าเนี่ย ตื่นขึ้นมาแล้วมันมี ความตั้งใจที่จะทำทุกวันให้ดีที่สุด เราก็เห็นว่าคนไทยเนี่ยน่ารักทุกคน คุณมากค่ะ ภูมิใจที่ได้เกิดเป็นคนไทย “
ผลงานในอนาคตมีอะไรบ้าง?
“ตอนนี้ก็ยังกักตัวไม่เสร็จเลย ยังไงก็ฝากให้ทุกคนคอยติดตามกันต่อไปนะคะ ด้า เชื่อว่ามันยังมีประตูอีกหลายบาน พี่จะเปิดให้ด้า เพราะฉะนั้นก็ฝากติดตามผลงานในอนาคต ของด้ากันด้วยนะคะ สุดท้ายก็อยากขอบคุณคนไทยทุกคนที่คอยเป็นกำลังใจให้ ทั้งตัวด้าและทีมมิสยูนิเวอร์สไทยแลนด์ ขอบคุณมากเลยนะคะและดีใจที่ได้กลับมาถึงบ้านแล้ว ตั้งแต่เท้าแตะมาถึงประเทศไทยก็รู้เลยว่ารักรออยู่ อุ่นมากค่ะ ขอบคุณพี่พี่สื่อมวลชนด้วยนะคะที่ทำข่าวเกี่ยวกับด้า แล้วก็คอยให้กำลังใจกันมาโดยตลอด ขอบคุณพี่พี่ทุกคนจากใจจริงเลยค่ะ”
เรียกว่าแม้ว่า อแมนด้า จะไม่ได้มง แต่ก็ได้ใจคนไทยทั้งประเทศไปเป็นที่เรียบร้อย หลังจากนี้แฟนๆรอติดตามผลงานในอนาคตคอยดูคอยเชียร์ให้กำลังใจกันต่อไปนะจ๊ะ แอดว่า อแมนด้า เป็นอีกหนึ่งคนที่มากความสามรถ ต้องมีผลงานดีๆมาฝากแฟนๆแน่นอนจ้า