เกริก ชิลเลอร์ โต้ใช้เส้นดันลูกขึ้นแท่นศิลปินค่ายดัง

เกริก ชิลเลอร์ เปิดใจ ปมข่าวเม้าท์ ใช้เส้นสาย ในวงการดันลูกสาว น้องแซมมี่ เป็น ศิลปินค่ายดัง ยันไม่เคยทำอะไรแบบนั้น เพราะลูกสาวมีความสามารถมากพอ

เป็นนักแสดงรุ่นใหญ่ที่โลดแล่นอยู่ในวงการบันเทิงมาอย่างยาวนาน สำหรับ เกริก ชิลเลอร์ จนตอนนี้ เกริก มีลูกสาวที่นับวันยิ่งโตยิ่งสวยขึ้น แถมยังได้เข้าวงการบันเทิงตามรอยคุณพ่อ และได้เดบิวต์เป็นศิลปินเรียบร้อย เกริก จึงขอควงลูกสาวอย่าง น้องแซมมี่ ภัคธีมา มาเปิดใจครั้งแรกหลังขึ้นแท่นเป็นศิลปินเต็มตัว พร้อมทั้งขอมาเคลียร์ข่าวเม้าท์ถึงเรื่องที่ น้องแซมมี่ มาเป็นเป็นศิลปินได้ก็เพราะใช้เส้นคุณพ่อ ผ่านทางรายการ คุยแซ่บ Show โดย เกริก กับ น้องแซมมี่ เปิดใจว่า

น้อง แซมมี่ ปีนี้กี่ขวบแล้ว?

แซมมี่ : 18 ปีค่ะ

มีคนเคยบอกเยอะมากๆ เลยว่าลูกสาวเราหน้าตาน่ารักมากๆ ฟังจนชินหรือยัง?

เกริก : หน้าตาก็พอไปวัดไปวาได้ เดี๋ยวชมลูกตัวเองว่าสวย เดี๋ยวมันจะไม่ดี ผมไม่ค่อยได้ภูมิใจว่าจะต้องสวยหรือต้องอะไร เอามันสมองที่จะให้มันมีทัศนคติที่ดี ดีกว่า นั่นคือคนสวย

น้องเขาฉายแววเป็นศิลปินตั้งแต่อายุเท่าไร?

เกริก : เริ่มแรกเลย ผมให้ลูกเรียนเปียโน ผมเป็นคนชอบฟังเปียโน ฟังเพลงคลาสสิคแล้วหมายมั่นปั้นมือว่าน่าจะมีสักคนใน 3 คนนี้ น่าจะเล่นเปียโนคลาสสิคภายในบ้าน แล้วลูกก็ไม่เคยร้องเพลงภายในบ้านให้ผมได้ยินเลย มาถามเขาตอนหลัง เขาร้องในห้องน้ำ ห้องนอน ร้องอยู่ที่โรงเรียนอะไรอย่างนี้ เราก็เลยไม่รู้ว่าเขามีความสามารถอะไร ความเป็นพ่ออยากให้เขาได้ความรู้ อยากให้เขาเรียน อยากให้มีดนตรีเป็นเพื่อนเขาในวันที่เขาโตขึ้น เพราะว่าดนตรีมันจะอยู่ติดตัวไปจนแก่ตาย เราก็คิดแค่นั้น หรือว่าสายการเรียนปกติแล้วใครๆ เขาก็เรียนกัน แต่ที่เรามีความสามารถพิเศษเปียโน ต่อไปไม่มีงานทำก็ไปเป็นครูสอนเปียโนได้ ไปอยู่ไหนบนโลกนี้มันก็หางานทำได้ง่าย ผมคิดแค่นั้นเอง

แซมมี่ ซ่อนพ่ออย่างไร ทำไมพ่อถึงไม่รู้เลยว่าเรามีความสามารถด้านดนตรีมากๆ?

แซมมี่ : จริงๆ แซมเป็นคนขี้เขิน ก่อนหน้านี้แซมไม่ได้โตมาแบบชอบร้องเพลง ที่บ้านคือไม่ได้ฟังเลย

แล้วหนูไปร้องที่ไหน อย่างไร?

แซมมี่ : ร้องในห้องน้ำ ร้องในพื้นที่ส่วนตัวของเรา ปกติจะไม่ได้ร้องให้คนอื่นฟัง

แต่คนในบ้านก็เริ่มรู้กันหมดทุกคนแล้ว ยกเว้นคุณพ่อ?

เกริก : ผมเป็นผู้ชายคนเดียวในบ้าน ที่เวลาเขาคุยกัน เขาจะคุยเรื่องผู้หญิงๆ ซึ่งเราเป็นผู้ชายเขาคิดว่าเราไม่ค่อยรู้เรื่องแหละ แต่เราก็โตมาในครอบครัวผู้หญิง แต่สุดท้ายแล้วแม่เขาเอาคลิปวีดิโอที่ แซมมี่ เขาร้องเพลงมาเปิดให้เราฟัง เราก็ฟังคนอื่นร้องก่อน เออ..น้องนี่มันเสียงดี พอถึง แซมมี่ เห้ย..ทำไมลูกเราเสียงแปลกๆ มันโดดชัดขึ้นมา แต่คนอื่นก็ร้องดีนะ ร้องแบบนักร้อง เราก็เลยขับรถ แซมมี่ นั่งข้างๆ เราก็หาจังหวะ แซมร้องเพลงอะไรก็ได้ให้พ่อฟังสักเพลง เขาก็บอกว่าไม่เอา หนูไม่ชอบร้อง

ทำไมหนูถึงไม่ยอมร้อง?

แซมมี่ : มันเขิน ถ้าสมมติเราไปงานรวมญาติ แล้วญาติบอกให้ร้องเพลงให้ฟัง แซมเป็นฟิวประมาณนั้นคือมันเขิน

เกริก : เขาเขิน แต่เราอยากฟังไง เข้าใจไหม ด้วยความที่เราเป็นนักแสดงเราไม่เขินตรงไหนเลย ลูกต้องเลือดศิลปินสิ มันต้องทำได้ทุกที่ทุกเวลา แต่อันนี้เป็นเสียงในความคิด แต่ถ้าพูดกับลูกก็บอกว่าไม่เป็นอะไร ถ้าพร้อมแล้วร้องให้พ่อฟังหน่อย

ที่พี่อยากฟังลูกร้องเพลง เพราะจริงๆ ตัวเองเป็นคนร้องเพลงเก่งเหมือนกัน?

เกริก : คือตัวเองชอบฟังเพลงตั้งแต่เด็กเลย แล้วเวลาอยู่ในรถเราก็จะเปิดเพลง แซมก็จะนั่งอยู่ด้วยตั้งแต่เด็ก แล้วผมเปิดเพลงดังมาก ในรถทุกคนก็จะฟังเพลง นี่เขาเอากลิ่นตรงนั้นมาอยู่ในตัวเขาจนถึงทุกวันนี้

คุณพ่อมีวิธีหลอก แซมมี่ อย่างไร เราถึงยอมร้องเพลงให้คุณพ่อฟัง?

แซมมี่ : เขาพูดแบบถ้าสมมติแซมไม่ร้องให้เขาฟัง ลองลงไอจีสักนิด เราก็ลง

เกริก : ผมเปิดมาคลิปดำมากได้ยินแต่เสียง แล้วเราฐานะคนฟังเพลง พอได้ยินเพลงที่เขาร้อง 15 วิ เราอยากฟังอีก

พอลงไปแล้วค่ายเพลงโทรหาพี่ เกริก สายแทบไหม้เลย มีแต่คนอยากได้ตัว?

เกริก : เขาไม่ได้โทรหาผม เขาติดต่อไปทางแซมเอง แซมลงได้สัก 3 คลิปปุ๊บ คนดนตรีมันก็จะพูดต่อๆ กันก็อินบ็อกไปหาแซม แซมก็จะเริ่มมาเล่า พ่อมีค่ายนี้โทรมา อินบ็อกมาหาหนู แต่ว่าหนูไม่ใช่แนวนั้น จนกระทั่งร้องไปได้สักพักหนึ่งก็มีค่ายหนึ่งติดต่อมา แล้วเขาคิดว่ามันตรงกับสไตล์เขา เพราะว่าเขาร้องทั้งไทย ทั้งอังกฤษ แล้วเขาก็แต่งเองได้ทั้งไทย ทั้งอังกฤษ แล้วก็อยากมีโอกาสได้ร่วมทำงาน แล้วก็ค่ายที่เขาตัดสินใจอยู่เปิดโอกาสให้เขาได้ทำงานเยอะ คือไม่ได้ไปครอบเขา กำหนดว่าเขาต้องเป็นนู่นเป็นนี่ มากจนเกินไป

มีคนเม้าท์ไหมว่าพี่ เกริก ดันลูก มีเส้นในวงการบันเทิงแน่นอนเลย โดนไหม?

เกริก : มันก็น่าจะมีบ้างครับ คือถ้าผมจะดันลูก ผมดันลูกเล่นละครตั้งแต่เด็กแล้ว ลูกทั้งสามคนของผมไม่มีรอดอ่ะ คนเหยียบผมก็มี แต่คนรักผมก็มีเยอะ แล้วผมก็รู้จักคนเยอะ แต่ผมก็ยังยืนยันจุดยืนเดิมเมื่อ 10 กว่าปีที่ผมให้สัมภาษณ์ไปว่า ผมไม่อยากให้ลูกเข้าวงการบันเทิง ผมอยากให้ลูกเรียนหนังสือและใช้ชีวิตความเป็นเด็กให้มันเป็นสเต็ปขั้นตอนของชีวิต ไปเก็บเกี่ยวไปเอาคอนเนคกับเพื่อนๆ ในวัยเรียน เพื่อเติบโตมา เพราะว่าช่วงชีวิตหลังการแสดงมันจบลงเนี่ย ชีวิตที่เหลือมันยังอีกยาว ถ้าเกิดว่ามันไม่เก็บเกี่ยวความรู้ ไม่เก็บเกี่ยวประสบการณ์ชีวิตที่เหลือของนักแสดงต่อไปมันจะลำบาก เมื่อคุณเลิกเป็นนักแสดงแล้ว

ตอนแรกบอกว่าเป็นเด็กขี้อาย แล้วทำไมอยู่ๆ ถึงส่งเพลงไปให้กับทางค่ายที่เวลาเขาขอมา?

แซมมี่ : แซมเติบโตมากับการเล่นดนตรี มันก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ ชอบฮัมเพลงในห้องน้ำ ชอบร้องเพลงคนเดียว แต่เอาจริงๆ มันน่าจะเกิดจากความมั่นใจนะคะ พอแซมเริ่มโตขึ้นมันก็เริ่มมา แล้วเรื่องเล็กๆ น้อยๆ อย่างการร้องเพลงลงไอจีส่วนตัวมันก็เริ่มมาเรื่อยๆ

ก่อนหน้านี้มีความคิดอยากเข้าวงการบันเทิงไหม?

แซมมี่ : จริงๆ แซมไม่เคยคิดว่าแซมจะเข้ามาทำงานเบื้องหน้า จริงๆ แล้วแซมอยากทำงานศิลปะอะไรก็ได้ แต่เป็นแบบเบื้องหลัง ตอนนี้ก็ได้ทำทั้งเบื้องหลังแล้วก็เบื้องหน้า

คุณพ่อไม่ได้ดันเข้ามาเล่นละคร ไม่ได้ดันเข้าวงการ แต่ทำไมถึงยอมให้เข้าวงการเพลง?

เกริก : ผมบอกลูกเสมอ ลูกอยากเรียนอะไรบอก แล้วลูกคิดเลยว่าชีวิตหนูจะไปทางไหน ผมจะไม่บังคับลูกเลยว่าลูกจะเป็นอะไร ขอให้อยู่กับมันแล้วมีความสุข แล้วมันเลี้ยงตัวหนูได้ แล้วไปสอนลูกหลานได้อีก ผมไม่ได้คาดหวังอะไร แม้กระทั่งการร้องเพลงเนี่ยผมก็ถาม แซมมี่ อยู่เสมอว่า แซมมี่ ถ้ามันไม่ดังหนูจะเสียใจไหม เขาบอกหนูไม่เสียใจ จุดประสงค์ จุดมุ่งหมายหนูก็คือทำงานเบื้องหลังดนตรี แล้วหนูก็มุ่งมาทางนั้น หนูไม่ได้มุ่งมาทางเบื้องหน้า หนูมีความสุขที่ได้เขียนเพลง ทุกวันนี้หนูเขียนเพลงออกเป็นเพลงแล้ว หนูประสบความสำเร็จแล้ว ณ ตอนนี้

ค่ายติดต่อเรามาเยอะมาก ทำไมเราถึงตัดสินใจเลือกค่าย Universal Music?

แซมมี่ : มันเป็นโอกาสที่ใหญ่มากสำหรับแซม เพราะว่ามันเป็นค่ายระดับโลก แล้วแซมได้ทำงานเต็มที่ในส่วนของแซม อาร์ตเวิร์คของแซม แซมแต่งเพลงของแซมเอง แซมรู้สึกว่ามันเหมาะกับความเป็นแซม ก็เลยเลือก

ก่อนจะมาเป็นศิลปินเต็มตัวแบบนี้ คุณพ่อบอกตอนเด็กๆ ดื้อมาก?

เกริก : เฟี้ยวๆ ลูก 3 คนก็จะเป็นไปในแต่ละวัย เราเรียนรู้ไปพร้อมๆ กัน ลูกก็เรียนรู้ผม ผมก็เรียนรู้ลูกในช่วงอายุของเด็กๆ ความคิด การมองเห็น ก็จะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ตามสเต็ปของอายุ เราก็ตามเกมเขา แต่เราก็ยังเป็นคนคุมเกมอยู่

เรื่องที่ห่วงที่สุดคือเรื่องลูกมีแฟน?

เกริก : ใช่ แต่ผมยังห่วงไม่เท่าแม่เขานะ แม่เขาหนักเลย

รู้สึกอย่างไรบ้างที่พ่อ แม่ ห่วงเรื่องการมีแฟน?

แซม : แซมเฉยๆ มากๆ เลยนะคะ คือแซมเข้าใจเขา ถ้าวันหนึ่งแซมมีลูก แซมก็คงเป็นห่วง แล้วก็ช็อกๆ นิดหน่อย

แล้วเวลาคนเข้ามาคุยกับเรา เรากล้าเล่าให้พ่อแม่ฟังไหม?

แซมมี่ : แซมเล่าทุกเรื่องเลยนะคะ แบบมีคนเข้ามาหรืออะไรอย่างนี้

เกริก : เล่าทุกเรื่อง พอมันเรียบร้อยแล้วมันถึงเล่าไง เวลามีแฟนแล้วเขาถึงมาเล่า

เห็นว่าสอนให้ดื่มแอลกอฮอล์?

เกริก : มันมีอยู่ครั้งหนึ่งไปคอนเสิร์ต ข้างหน้าเขาก็มีเป็นค็อกเทล เราก็ยืนอยู่ข้างหน้าแต่งตัวเป็นวัยรุ่น เราก็ดื่มๆ แล้วหันมาถามลูกแซมเอาหน่อยไหม จุดประสงค์เรา เราก็ว่าลูกจะไปแอบดื่มกับเพื่อน คือเราเป็นห่วง มันต้องเอาจากมือเราก่อนลูกมันจะได้กลัว กินไปมันจะได้ขม แล้วอี๋ คืออยากให้เขาเข็ดกับความขมของแอลกอฮอล์ เราก็บอกลูกลองชิมสักนิดหนึ่ง เขาก็บอกจะดีเหรอพ่อ เดี๋ยวแม่รู้ แม่ว่าเอา สักนิดไม่เป็นอะไรหรอก แล้วเขาก็ชิม แย่แล้วพ่อหนูชอบ ก็ต้องขอโทษแม่ แม่เขานั่งฟังอยู่ แซมมันชอบ

น้องแซมชอบไหม?

แซมมี่ : ตอนนี้แซมไม่แล้ว

แต่มันจะทำให้ลูกเราเอาตัวรอดในสังคม?

เกริก : มันทำให้รู้ว่ามนุษย์มีพัฒนาการ มันต้องลองผิดลองถูกด้วยตัวมันเอง

คู่นี้เขาชวนกันไปดูผี?

เกริก : บ้านผมอะไรกับผีก็ไม่รู้เยอะแยะมากมาย คือผมอาจจะเป็นความเชื่อจากรุ่นแม่ รุ่นยายมา แล้วก็ไปบวชมา มีสมาธิ แล้วเป็นคนมีเซนส์ ประกอบกับเดือนที่เกิดด้วยมันก็จะมีซิกเซนส์ แล้ว แซมมี่ เกิดเดือนเดียวกับผม ราศีเดียวกันกับผม เพราะฉะนั้นมันจะมีซิกเซนส์คล้ายๆ กัน

เคยเห็นพร้อมกันด้วย?

เกริก : เคย ปกติผมจะเห็นเป็นรูป เป็นเงาดำๆ แล้วก็เป็นคนเลยเดินผ่านหายไป นั่งมอง ยืนมอง นั่งกินอะไรอย่างนี้ แต่มันมีอยู่ครั้งหนึ่ง แปลกมากผมไม่เคยเห็นเลย ซึ่งผมไม่ได้เห็นคนเดียว แซมก็เห็นด้วย ที่บ้านผมเนี่ยตรงข้างหน้ามันจะมีเป็นกระจก ผมก็นั่งมองต้นไม้ไป แซมมี่ ก็นั่งที่โต๊ะทำงาน สักพักมีเสียงเหมือนเสียงมอเตอร์ไซค์

แซมมี่ : ที่มันจะตลกคือ เราหันหน้ามาพร้อมกัน

เกริก : แซมเห็นใช่ไหม เห็นเป็นอย่างไร

แซมมี่ : แซมเห็นเป็นมอเตอร์ไซค์

เกริก : เห็นเป็นหมวกกันน็อก มันเข้ามาได้อย่างไร

แซมมี่ : แล้วตอนนั้นแซมรีบวิ่งไปดูกล้องวงจรปิด แล้วในกล้องไม่มีแม้แต่นกบินผ่าน

เกริก : คือมันแปลกตรงที่เราไม่เคยเห็นผีมอเตอร์ไซค์มาก่อน

แซมมี่กลัวไหม?

แซมมี่ : แซมอึ้งมากกว่า ติดตาอยู่เลย

เกริก : ด้วยประสบการณ์การเห็นผีของผมตั้งแต่เด็กจนโต เราไม่เคยเห็นผีมอเตอร์ไซค์รับจ้าง เราเห็นเงา เป็นอะไรไป

ถือว่าเคลียร์ชัดเจนทุกเรื่องเลยจริงๆ ค่ะ แถมยังเป็นคู่พ่อลูกที่มีความสนิทสนมกันอย่างมาก ยิ่งเป็นลูกสาวแบบนี้ด้วย เพราะบางทีเราอาจไม่ค่อยได้เห็นลูกสาวสนิทกับคุณพ่อเท่าไร แต่กับครอบครัวของพี่ เกริก แล้ว คนในบ้านทุกคนสนิทกันหมด ดูแล้วอบอุ่น และยิ้มตามได้เลยทีเดียวค่ะ

คลิปอีจัน แนะนำ
ชมพู่ อารยา เผยพยายาม 2 ปี กว่าจะได้ลูกสาว