เจ้เล้ง​ เผยสาเหตุ​ หย่า​ อดีตสามี​ ไม่สนโดนเทียบ​ พิมรี่พาย

เจ้เล้ง​ เผยสาเหตุ​ฟาดเงิน​ 700​ ล้าน​ หย่า​ อดีตสามี​ หลังอยู่กินกันนาน​ 40​ ปี​ ลั่นไม่ขอเผาผี เมิน​หลังโดนเทียบ​ พิมรี่พาย

เปิดชีวิต​ เจ้เล้ง อารยา​ หลังยอมเสียเงินกว่า​ 700​ ล้าน​ เพื่อหย่าอดีตสามี​ พร้อมเคลียร์​ประเด็นโดนเปรียบเทียบ​ พิมรี่พาย​ และเผยเคล็ดลับในการประสบในความสำเร็จ​ เพราะมีองค์ ในรายการ คุยแซ่บโชว์​

เรื่องอดีตสามี ฟาดไป 700 ล้านไม่เผาผีกันเลย?

เจ้เล้ง : จบแล้วคือจบ เจ้เล้งเป็นคนเด็ดอยู่อย่างหนึ่ง เป็นคนเฉยๆ เงียบๆ อดทน เมื่อสุดขีดความอดทนให้ไปแล้วก็คิดว่าทิ้งน้ำไปคือจบ ไม่เคยอยากจะรู้ข่าว ไม่เคยอยากจะถาม เหมือนว่าในโลกนี้ไม่มีเขาอีกแล้ว

คบกันมา แต่งงานอยู่ด้วยกันมากี่ปี?

เจ้เล้ง : 40 กว่าปี

แสดงว่าต้องหนักมาก 40 กว่าปีไม่เหลือความผูกพันเลย?

เจ้เล้ง : ไม่ค่ะ เพราะว่าพยายามทน ความที่เราเป็นคนรู้จัก เราจะไปเล่าให้ใครฟังให้อายทำไม จริงๆ เวลาเก็บไว้เยอะๆ มันอึดอัด พอถึงเวลามันขาดก็คือขาดไปเลย

เริ่มปีที่เท่าไร ที่เรารู้สึกว่าเราต้องทนอยู่?

เจ้เล้ง : จริงๆ สัก 2 ปีก็รู้สึกแล้ว คุณแม่​ เจ้เล้ง​ เองแรกเลยสัก 5-6 ปี เขาบอกว่าจะทนทำไมลูก เขาก็เป็นหมันลูกไม่มี สายใยไม่มี แต่เราก็อยากเป็นผู้หญิงที่ทำมาหากิน ไม่อยากออกสังคม บอกแม่ว่ามีผัวคนเดียวก็ซวยแล้วนะ ถ้าเกิดไปมีหลายคน เลิกแล้วมีอีกหนูว่าซวยกว่าเดิม ทนๆ มันไปเถอะ แก่ๆ อาจจะดีขึ้นก็คิดคำนี้ คือเขาไม่ได้เลวร้ายถึงขนาดอยู่กันไม่ได้ เขาไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ไม่เล่นการพนัน ไม่เจ้าชู้ แต่คุยกันไม่รู้เรื่อง คือเขาไม่เอาใครเลยคนรอบข้าง มองทุกคนเป็นศัตรูหมด แม้แต่เราบางทีเขานอนตื่นขึ้นมา อาจจะฝันอะไรผิดไปหน่อย​ เจ้เล้ง​ ก็เป็นศัตรูของเขาเหมือนกัน

ด้วยประสบการณ์ของ​ เจ้เล้ง​ เห็นบอกว่าอยากสอนผู้หญิงด้วย?

เจ้เล้ง : ผู้หญิงทุกคน หรือผู้ชายทุกคน ผู้ชายแต่งงานมีเมีย กับผู้หญิงแต่งงานมีสามี คนเราสิ่งที่สำคัญคือเราต้องรักตัวเองก่อน อย่าไปทุ่มให้เขาจนหมด เวลามีอะไรขึ้นมาก็ไม่เหลืออะไรเลย เหมือนบ้าไปเลย ส่วน​ เจ้เล้ง​ นี้ค่อยๆ ขีดเส้นหนาไปทีละเส้น จนไม่มีที่ขีดละ มันก็คือหมด ก็ทำใจเตรียมตัวไว้ เราเป็นคนจริงๆ คือ​ เจ้เล้ง​ เป็นคนทำธุรกิจ ไม่มีใครเชื่อนะ เจ้เล้ง​ ไม่เคยจับเงินเลย อดีตสามีเป็นคนถือเงินทั้งหมด เพราะเขาเป็นนักบัญชี คนทำบัญชีก็ทำไปเราก็หาๆ เรารู้ยอดใหญ่ แต่จริงๆ ยอดมันใหญ่กว่านั้น ทุกเดือนเขาจะเบี่ยงไป 4-5 ล้าน เราไม่รู้เรื่องเลย

เบี่ยงไปไหน?

เจ้เล้ง : เบี่ยงไปบัญชี ไปลงชื่อพี่ น้องเขา เราก็ไม่รู้ จนครั้งหลังสุดผิดปกติคือเยอะเกินเหตุละ ทำไมสภาพคล่องขาดละ เราขายของขนาดนี้เราไม่เคยต้องหมุนเงินเลย แต่สภาพคล่องก้อนนี้ไม่เหลือได้อย่างไร ไปถอนเงินฝากประจำ เจ้เล้ง​ ทุบโต๊ะเรียกสมุดบัญชีคืน เจ้เล้ง​ ไม่เคยเก็บสมุดบัญชีเอง ไม่รู้ว่ามีกี่เล่ม จนจะหย่ากันให้เอาสมุดบัญชีมาคืน ถึงรู้ว่ามี 137 เล่ม

ตัดสินใจนานไหมกว่าจะแบบเอาไป 700 ล้าน?

เจ้เล้ง : ไม่ใช่เงินสดทั้งหมด 700 เงินสดจริงๆ ให้เขาไปแค่ 300 แล้วเขาก็ขอทรัพย์สินไปส่วนหนึ่ง แล้วเรากลับไปซื้อคืน อพาร์ทเมนท์​ เจ้เล้ง​ ทำเองเขาจะเอาก็ให้ พอให้ไป 15 วันก็ขายทิ้ง พอเรารู้ เราเสียดายซื้อคืน ให้ที่ดินก็ขายทิ้งก็ซื้อไปอีก 150 ล้าน ให้ที่ดินเชียงใหม่ เขาค้อมีหมด ที่ดินตรงนั้นมูลค่า 3-4 ร้อยล้าน เขาก็ขายหมดเลย แล้วเขาทอยเงินเก่ง ทุกปีจะมีการปันผลคนละกี่สิบล้าน อย่างพีเคปันไปครึ่งหนึ่ง พี่ก็ปันมาครึ่งหนึ่ง พีเคเข้าบัญชีส่วนตัวพีเค แต่ของพี่มันเอาเข้ากองกลาง เฉพาะเสียภาษีปันผลปีหนึ่ง 6-7 ล้าน สมัยก่อน 6-7 ล้านซื้อบ้านได้หลังหนึ่งทำไมจะไปปันผลละ ทำไมไม่ซื้อเป็นที่ดินขึ้นมา ไม่ซื้อเป็นทรัพย์สินขึ้นมามันก็เป็นการทอยเงินออกเหมือนกัน ไม่มันจะปันผลอย่างเดียว จนจะหย่ากันมันยังปันผลนะ ดีนะตบโต๊ะทัน ไม่งั้นไม่เหลือนะ

ปีนี้​ เจ้เล้ง 75 แล้ว เอากำลัง เอาความสดใสมาจากไหน?

เจ้เล้ง : จริงๆ เจ้เล้ง​ เป็นคนพอเริ่ม 55 ก็เริ่มดูแลตัวเอง ทำงานตั้งแต่อายุ 12 ไม่เคยดูแลตัวเอง ทำงานถึงเที่ยงคืน ตี1-2-3 บางที 3 คืนไม่ได้นอนก็ยังทำ เพราะอยากรวย ระหว่างที่ทำงาน​ เจ้เล้ง​ ก็ไม่เหมือนคนอื่น เจ้เล้ง​ จะมีวางแผนล่วงหน้ากับธุรกิจตลอดเวลา ข้อที่​ 2 เจ้เล้ง​ ไม่เคยออกสังคมเลย เวลาทำงานก็จะเก็บเงินอย่างเดียว พักผ่อนไหม ถ้ามีเวลาอยากพักผ่อน ไม่อยากไปไหนเลย อยากนอนอย่างเดียว เจ้เล้ง​ เป็นคนทำงานวางแผน แต่งงานก็มีการวางแผนจะอยู่ด้วยกันได้ไหม ฉะนั้นเวลาทำธุรกิจทำไมไม่ทำอย่างเดียวละ ไม่ใช่ที่ทำอยู่ไม่ดี ที่ทำอยู่ก็ดี แต่​ เจ้เล้ง​ ไม่โลภไม่ขยายสาขาเยอะๆ ไม่ชอบ เอาแค่นี้แหละ อยู่ได้แล้ว ทีนี้​ เจ้เล้ง​ ก็ทอยเงินจากกำไรไปทำธุรกิจอื่นโดยการไม่ได้เอาเงินเก็บมาลงทุนเลย คือ 3 ปีนี้จะไม่เก็บเงินนะ แบงก์ไม่ต้องมาขอเงินฝาก จะทำอพาร์ทเมนท์ละ เจ้เล้ง​ ก็เอาเงินกำไรไปทำ โดยการเอาพี่ไปเลี้ยงน้อง เจ้เล้ง​ ไม่โหมทีเดียว เพราะว่าทุกอย่างที่ไปโหมเกิดไม่ได้ขึ้นมามันก็หมด เจ้เล้ง​ ก็ 1,2,3,4,5 สเต็ปไปเรื่อยๆ 1 เลี้ยง​ 2 แล้ว 2 เลี้ยง​ 3 ไปเรื่อยๆ

เคยคิดไหมว่าอายุ 75 แล้วอยู่บ้านไม่ต้องทำอะไร?

เจ้เล้ง : จริงๆ ตอนนี้ก็ดูซีรีส์ แต่ดูมากๆ ก็ไม่สบาย เพราะการดูซีรีส์ดูแล้วหยุดไม่ได้ นอนก็ไม่พอ ตาแสบ แก่แล้วตาเริ่มแห้ง แต่ก็ยังดู เป็นคนติดซีรีส์ แต่ว่า​ เจ้เล้ง​ เป็นคนแบ่งอะไรพอเหมาะ พอควร ดูซีรีส์คืนนี้จะดู 2 ตอน ก็ปิดเลย จริงๆ อายุเท่านี้ไม่ควรทำอะไรแล้ว ใครๆ ก็พูดอย่างนี้ เจ้เล้ง​ ก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน มีวันหนึ่งลองทำแบบที่คนอื่นเขาทำ อยู่สบายชิลๆ วันนี้ไม่ทำงาน ตื่นเสร็จเรียกเด็กมานวดตัว นวดตัวเสร็จกินข้าว พอกินข้าวเสร็จทำอะไรต่อวะเนี่ย เมื่อไรมันจะมืด เมื่อไรจะได้นอน พอถึงเวลานอน วันนี้พักเยอะ นอนไม่หลับอีกละ ก็ทำได้วันเดียว ไม่เอาลงมาละ ถามว่าทำไปทำไมเยอะๆ คนเรามีของดีในตัวเอาไปเก็บไว้มันอึดอัด เรายังมีแรง มีกำลังที่จะออกไปได้ เราก็ต้องออกมาทำ ถามจริงๆ ทำแล้วหิวไหมไม่ได้หิวหรอก อิ่มแต่ว่าขอให้ได้ทำ เงินต้องการไหม ลงทุนเนี่ย ขาดทุนไม่ได้ ต้องได้ทุนคืน กำไรมาก กำไรน้อยว่ากันไป แต่ทุกอย่างที่​ เจ้เล้ง​ ลงทุนจะได้กำไร เพราะเราไม่มีดอกเบี้ยที่ต้องจ่าย ช่วงโควิดปิดร้านเกือบ 20 วัน ลูกเข้ามาถึง แม่ถ้าเราจะปิดร้านแม่ทำใจได้ไหม บอกว่าทำไมอะ เราต้องปิดร้านเลยนะ เพราะเด็กเป็นโควิดกันเนี่ย ปิดก็ปิดสิ แม่ทำใจได้เหรอ ทำไมจะทำใจไม่ได้ กูรวยนะ กูไม่ได้จน แม่ทนได้ไหม ก็ทนได้สิ ไม่ทนแล้วกูตาย กูคุ้มไหมละ

แต่จริงๆ เจ้เล้ง​ ไม่ได้มีลูก?

เจ้เล้ง : ไม่มีลูก เป็นหลานลูกพี่ชายเอามาเลี้ยง จริงๆ มี 4 แต่อีกคนไม่ได้สมบัติ เพราะว่าเขาไปเอาทางพ่อเขา ก็แยกกันไป เขาอยู่ฝั่งโน้น

อันนี้จริงไหมที่​ เจ้เล้ง​ เขียนพินัยกรรมให้ทั้ง 3 คนเรียบร้อยแล้ว?

เจ้เล้ง : เรียบร้อยคะ ลูก​ เจ้เล้ง​ จะดีอย่างหนึ่งเป็นผู้หญิงหมด ตอนเลี้ยง​ เจ้เล้ง​ ไม่เอาลูกผู้ชายเลย เพราะ​ เจ้เล้ง​ รู้ว่าถ้ามีผู้หญิง ผู้ชาย มันก็จะกบฏกัน แต่บังเอิญลูกผู้ชายของ​ เจ้เล้ง​ เป็นเด็กดี คนโตเขาจะเป็นพี่ที่ดีของน้องหมด เขาแต่งงานไปแล้ว เจ้เล้ง​ เวลาเลี้ยง ไม่ได้เลี้ยงเหมือนคนอื่น จะเอาเงินลูกเอาไปเลยก้อนหนึ่ง ไม่เคย เจ้เล้ง​ ให้เงินเดือนเท่านี้ ต้องไปบริหารกันเอง ไม่พอขอได้ไหม เขาไม่กล้ามาขอ เวลาไม่พอมันก็ไปหาพี่ใหญ่มัน ดูแลน้อง ลูกเขยก็ดีด้วย น้องทุกคนจะเกรงใจพี่คนโต แล้วพี่คนโตไม่เคยเอาเปรียบน้อง น้องขาดอะไรบอกพี่ได้หมด

ธุรกิจของ​ เจ้เล้ง​ มีอพาร์ทเมนท์ 20 กว่าไร่ตรงลาดกระบัง, สวนทุเรียนร้อยกว่าไร่ที่ระยอง, ทำหิน ทำกระเบื้อง, ทำพลาซ่าให้เช่า?

เจ้เล้ง : ตอนนี้กำลังจะทำบ้านพักคนชราอีก 100 ไร่ที่ลาดกระบัง เจ้เล้ง​ จะทำไม่เหมือนคนอื่น คือเอาคนจนสัก 40 คน ต้องไม่เป็นโรค นิสัยดี ไม่มองคนรอบข้างเป็นศัตรู ก็เอาไปปลูกผัก ปลูกอะไรกินในที่เราก่อน ให้ทำนา หากินเองได้ในนั้น ทำจนคุณเก่ง เจ้เล้ง​ ก็จะสร้างบ้านพักคนชราขาย ขายเสร็จให้พวกนี้เป็นคนปลูกผัก ปลูกหญ้าขายคนแก่ที่อยู่ด้วยกัน คือจะไม่ทำทีเดียวเยอะๆ ค่อยๆ ทำ ทำไปเรื่อยๆ อาจจะมีน้ำประปาเอง อาจจะไม่ต้องอาศัยน้ำประปาของหลวงเลย เพราะบ้าน​ เจ้เล้ง​ อยู่ริมคลอง เนื้อที่ประมาณ 97 ไร่ ก็อยากจะทำ แต่อยากทำเป็นสวนก่อน สิ่งแรกก็ต้องทำสะพาน สร้างรั้วให้มิดชิดก็กำลังทำ

เรามีสมบัติเยอะขนาดนี้ เราไม่มีลูก มีแต่หลานๆ เคยกลัวไหมว่าเขาจะตีกันเรื่องสมบัติ?

เจ้เล้ง : ไม่หรอกค่ะ ที่​ เจ้เล้ง​ เลี้ยงไว้ทุกคนเป็นเด็กที่มีคุณภาพชีวิต คือเป็นเด็กไม่โลภ ไม่เคยมาบอกแม่หนูอยากนั่นนี่ จะให้เขาบอกแม่เอาไว้ก่อนเถอะ เอามาทำไม คือ​ เจ้เล้ง​ จริงๆ อพาร์ทเมนท์​ เจ้เล้ง​ ลงชื่อเขาเลยส่วนหนึ่ง ให้ส่วนหนึ่ง ส่วนหนึ่งก็ยังเป็นชื่อ​ เจ้เล้ง ขณะนี้ค่าเช่า​ เจ้เล้ง​ ก็เก็บ เขาไม่เคยถามว่าแม่เมื่อไรจะให้หนู เจ้เล้ง​ ให้เงินเดือนให้เขาอยู่ได้ ลูก​ เจ้เล้ง​ ไม่เคยสอนให้เวอร์ เขาอยู่ในกรอบที่เขาควรจะอยู่ ทั้ง 3 คนพี่น้องไม่เคยทะเลาะกันเลย

เคยไลฟ์สดไปสวนทุเรียนมีคนเข้ามาดู 2-3 ล้านคน?

เจ้เล้ง : จริงๆ การดูสวนทุเรียน การทำธุรกิจแบบนี้ บางคนก็ด่าในไลฟ์ว่าแก่แล้ว มีเหรียญ 10 เหรียญเดียว จะทำไปทำไม บางคนก็ด่าว่ามึงจะได้ดูก่อนตายหรือเปล่าทุเรียนอะ พอพูดอย่างนั้นเราก็ยิ้มๆ บอกว่าได้ดูสิ ข้างๆ ต้นใหญ่ใช่ไหม เราก็ถามว่าขายไหม เขาขายเราก็ซื้อเลย คนขายก็งง เราก็บอกซื้อสิ ซื้อให้ fc ดูว่ายังไม่ทันตายกูได้ดู

เวลาโดนคนไม่รู้จักคอมเมนต์แย่ๆ เสียใจไหม?

เจ้เล้ง : ก็เสียใจนะคะ แต่คิดว่าเขาอาจจะมีความคิดกับเราคนละทาง เจ้เล้ง​ ด่าตอบไหม ไม่ด่าคะ ใครด่า ด่าไป แต่วันหลัง​ เจ้เล้ง​ ไลฟ์สดเหน็บทีละนิดคืนหน่อย

ถ้าคนดูเยอะขนาดนี้ทำไม​ เจ้เล้ง​ ไม่ไลฟ์ขายของไปเลย?

เจ้เล้ง : ก็ขายค่ะ เวลา​ เจ้เล้ง​ ขายของจะไม่ทำแบบคนอื่นที่มาปุ้งปังๆ เราเป็น​ เจ้เล้ง เรามีร้านเราจริงๆ ของทุกอย่างที่จะขายต้องมั่นใจจริงๆ เราไม่จำเป็นต้องเยอะมากขนาดนั้น เจ้เล้ง​ ขายได้กำไร 100 เจ้เล้ง​ ก็เหลือ 100 เพราะฉะนั้น​ เจ้เล้ง​ เอาที่พอประมาณ เอาความจริงใจ ความมีคุณภาพของสินค้ามากกว่าที่จะขายปุ้งๆ

เห็นว่า​ เจ้เล้ง​ มีกฎด้วยสำหรับการประสบความสำเร็จของตัวเอง?

เจ้เล้ง : การที่จะทำธุรกิจ หนึ่งต้องมีความจริงใจต่อผู้บริโภค เวลาพูด ของต้องมีคุณภาพ

ประโยคนี้​ เจ้เล้ง​ เคยพูดไหม ของดีไม่ต้องแหกปาก?

เจ้เล้ง : จริงค่ะ ของดีไม่ต้องแหกปาก เอาคุณภาพตัวเราขาย

เจ้เล้ง​ เป็นรุ่นพี่ในวงการขาย ที่ตามมาตอนนี้ก็พิมรี่พาย​  เจ้เล้ง​ มีอะไรจะบอกพิมรี่พายหรือเด็กรุ่นใหม่ที่อยากประสบความสำเร็จเหมือน​ เจ้เล้ง​ ไหม?

เจ้เล้ง : จริงๆ พิมรี่พายเขาเก่งอยู่แล้ว คือเดินทางคนละทางกัน ขายของก็คนละแบบกัน เจ้เล้ง​ ขายของแบบไปเรื่อยๆ สบายๆ เจ้เล้ง​ ไม่กล้าอธิบายที่มันเยอะหรือเกินความจริง ไม่กล้าทำอะไรที่จะมาตอบโจทย์ทีหลัง โจทย์แรกที่​ เจ้เล้ง​ ขายออกไปปุ๊บ คำตอบคือใช่ ไม่มีมาใช่ ไม่ใช่ ด่ากันไม่มี เวลาขายของไม่เคยโดนด่า เจ้เล้ง​ ไม่ได้รับโฆษณาให้ใคร ของที่​ เจ้เล้ง​ ขายส่วนมาก เอาเขามาแล้วเทสเอง เราก็จะได้ลูกค้าที่เป็นลูกค้าจริงๆ ที่ซื้อต่อเนื่อง ไม่ได้ซื้อเพราะ​ เจ้เล้ง​ พูดๆ ไปแล้วหาย ลูกค้า​ เจ้เล้ง​ ขายเป็นร้อยก็จะกลับมาอีกพัน ขายเป็นพันก็จะกลับมาอีกหมื่นก็จะเป็นแบบนั้นมากกว่า ไม่ได้ทำให้มันดังๆ แล้วหายไป

จริงไหมที่คุณพิมรี่พายได้ติดต่อธุรกิจกับ​ เจ้เล้ง​ ด้วย?

เจ้เล้ง : ก็เคย เลขาเขาโทรมา แต่เราไม่ได้ขายกันเพราะว่า​ เจ้เล้ง​ ไม่มีสต็อกสินค้าที่จะขายเขาขนาดนั้น

เจ้เล้ง​ เป็นคนมีองค์?

เจ้เล้ง : จริงๆ เหมือนมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อยู่ในตัวโดยที่เราไม่รู้ตัว เราก็ไม่สามารถที่จะเสาะหาท่านได้ แต่ทุกครั้งที่เรามีเรื่องทุกข์ใจหรือมีอะไร เราก็แค่ไปสวดมนต์ในห้องพระ แล้วจะมาเข้าฝัน สมัยก่อน​ เจ้เล้ง​ ขายของหนีภาษี เจ้เล้ง​ ไม่เคยจ่ายส่วย ไม่เคยจ่ายเงินใครเลย พอจะมีโดนจับ คืนนี้ตี​ 3-4 กำลังมึนๆ หลับ มาเข้าฝัน เก็บของเดี๋ยวนี้ เดี๋ยวจะมีคนมาตรวจ เราก็ลุกขึ้นมาปลุกเด็กทั้งบ้านเก็บของ ตอนเช้ามีมายืนหน้าบ้านเต็มเลย

องค์ที่อยู่กับ​ เจ้เล้ง​ คือองค์ไหน?

เจ้เล้ง : จริงๆ เจ้เล้ง​ ไม่ชอบไปวัด ชอบสวดมนต์ที่บ้าน วันหนึ่งพระพิฆเนศหน้าบ้านหาย เขาบอกต้องไปเช่าใหม่ เราก็ถามต้องไปเช่าที่ไหน นั่นไงวัดแขก เราก็ไปเลย คือที่เราเห็นแบบนี้เลย แต่งตัวแบบนี้ แต่งตัวดำๆ ก็เป็นเหมือนพราหมณ์ จริงๆ เคยครั้งหนึ่งนั่งวิปัสสนาครั้งแรกเลย แต่งงานมีครอบครัวแล้วไม่ค่อยสบายใจ ก็ตัดสินใจว่าจะทำไงดีลองหาความสงบด้วยการนั่งวิปัสสนาในห้องนอน นั่งปั๊บมีความรู้สึกว่าตัวเองลอยขึ้นลอยลง เหมือนคนที่เบาไปหมด สักพักมีคนมาจูง มีพราหมณ์ไปนั่งสมเด็จพระสังกะจายกลางทุ่งนาใหญ่ถามมาทำไม อยากรวยค่ะ กลับไปเอ็งจะรวย แล้วจิตก็กลับมาเลย แล้วตั้งแต่วันนั้นก็มีองค์นั้นอยู่ในตัวตลอด

องค์นี้เป็นคนที่บอกให้เจ้เล้งซื้ออาณาจักรไว้เลยไหม?

เจ้เล้ง : ค่ะ เขาจะบอกทุกครั้ง อย่างร้านเจ้เล้งที่ขายอยู่ปัจจุบัน ก่อนจะมาซื้อตรงนี้ เขาบอกมังกรเปลี่ยนหัวแล้วนะ มีที่ใหม่กำลังจะทำไปทำเลย ตรงนี้จะได้เงินมหาศาล ก็จริงๆ เงินนี่ไหลมาเทมาแบบเก็บไม่ทันอันที่สองอพาร์ทเมนท์นี่วันนั้นสนามบินย้ายไปใหม่ๆเราก็แบบจากรถเคยติดมากๆ มันโล่งไปหมดเลย ไปยืนมองน้ำตาไหล ทำไมอยู่ๆ มันเปลี่ยนได้ไวขนาดนี้ แล้วใจไม่ค่อยดี มาสวดมนต์ไหว้พระ แล้วกลางคืนนอนสักระยะนึง วันนี้จะมีคนมาหาช่วงบ่ายๆ เขาจะเอาที่มาขาย ซื้อเขาไว้นะ ฝันก็ลืมไปเหมือนมีคนมาพูดข้างหู พอตอนบ่ายก็ลงมาขายของข้างล่าง เอ้า…พี่ไปไหนมา ที่พี่สู้คดีกันพี่แพ้ไหม หรือพี่ชนะ ชนะแต่ที่กำลังโดนยึด เพราะไม่มีเงิน แล้วขายเท่าไหร่ 7 ปีที่สู้คดีกันยังขายเท่านั้นไหม เขาบอกขาย พี่ก็เลยไปดูแล้วให้ทนายไปเช็กว่าคดีจบกันจริงไหม จบจริง ตอนนั้นเจ้เล้งก็ซื้อเขามา 100 กว่าล้าน เขาบอกเขามีอพาร์ทเมนท์อยู่ที่เอราวัณ ทัช เป็นหนี้เขาอีก 80 ล้าน ขายยังไง เท่าไหร่ หมดนี่ขายฉันเท่านี้ไหมละ เพิ่มเงินให้หน่อยก่อสร้างให้เสร็จ แล้วต้องไปโอนจากเอราวัณ ทัช มาให้เจ้เล้งเขาก็โอนมาให้ ซื้อเขามาตรงนั้นน่าจะ 117 ล้าน ทั้งหมด 7 แท่ง ก็เอามาลองทำดู แรกๆ ไม่ค่อยได้ไปดู ทำไมเป็นแบบนี้ก็วางแผนใหม่ จริงๆ ตรงนั้นทำ 5 ปีก็ได้ทุนคืน มันเป็นธุรกิจที่ไม่ต้องใช้สมอง ไม่ต้แงไปแย่งชิงกับใคร ต่อไปธุรกิจทุกคนที่ทำจะลำบาก เพราะโลกมันเปลี่ยนเร็ว ถามว่าออนไลน์ดีไหม ขายออนไลน์ดี แต่ต้องเป็นคนที่เก่งจริงๆ คนที่ไม่เก่งจริงคือชกชิงได้มาปั๊บก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ เราก็ไม่ใช่แบบนั้น เราค่อนข้างจริงจังกับการทำธุรกิจ วันนั้นทำอยู่ 7 แท่ง มีคนบอกว่าตรงนี้เขาจะขาย เราก็เลยเรียกมาคุย ไปๆ มาๆ เขาขายให้ 190 ล้าน เจ้เล้งก็ซื้อเลย ซื้อเก็บไว้สัก 2 ปี 20 ไร่เราก็คิดว่านิดเดียว เพราะเราทำทีละตึก ทั้งหมด 46 ตึก แต่เรายังไม่ได้สร้างหมด เราสร้างตึกแรกก่อน สร้างเสร็จคนเช่าเต็มเลย งั้นทำอีก 5 ตึก คนก็เช่าเต็ม ก็เพิ่มไปเรื่อยๆ ตอนนี้เป็น 28 ตึก

ตอนที่เจ้เล้งเอาเงิน 700 ล้านให้อดีตสามี พราหมณ์ท่านนี้เป็นคนบอกให้เลิกไหม?

เจ้เล้ง : ตอนกลางคืนคืนนึง ตอนที่วีดๆ อยู่ ก็มาเข้าฝันว่า ทำไมไมเลิกละ อยู่ด้วยกันมันก็เหมือนไฟดวงนึงที่ไม่รู้วันไหนจะระเบิด เขาก็จะระเบิดทุกวันไม่เบื่อเหรอ เงินที่มี ทรัพย์สินที่มีเยอะแยะ โฉนดเป็นตู้เซฟใหญ่ๆ เนี่ย ถามจริงๆ เคยหยิบมาดูบ้างไหม มันก็เหมือนกระดาษวอลเปเปอร์ที่ติดข้างฝาใช่หรือเปล่า เคยหยิบเงินออกมานับไหมว่าเขาเอาไปเท่าไหร่แล้ว เคยดูโฉนดไหมยังมีครบหรือเปล่า จะเก็บไว้ทำไม ตัดสินใจให้เขาไปซะ ในชีวิตบั้นปลายเราไม่มีไฟ เราไม่มีความร้อนอยู่ในตัวเรา เราจะไม่มีความสุขกันเหรอ โกยไว้ทำไมเยอะๆ ถ้าเลิกแล้วจะดีกว่าตอนที่อยู่เยอะเลย ชีวิตบั้นปลายจะมีความสุขมากๆ ให้ตัดสินใจเอาว่าจะเอาวอลเปเปอร์หรือจะเอาความสุขกับตัวเอง ท่านพูดยาวเลยนะคะ พอตื่นขึ้นมาก็เรียกลูกสาวคนโตมาว่ามันอยากได้อะไร สิ่งที่เราให้มันได้ อันไหนที่ไม่ให้ก็ไม่ให้ ตอนที่จะหย่ากันเขาก็ไปอิงนักการเมือง ให้นักการเมืองมาข่มขู่เจ้เล้งว่าถ้าไม่เลิก จะไม่เหลืออะไรเลย บอกก็ให้มันรู้ไปถ้าเป็นคดีความแล้วมันไม่เหลืออะไร มันเอาเจ้เล้งได้ขนาดนั้น ลองดูสิก็เราไม่ได้ผิดอะไร เสร็จแล้วคนนั้นจะเอาที่ดินตรงลาดกระบัง เจ้เล้งยังมีอีก 14 ไร่ครึ่งตรงนี้ จริงๆ มีคนมาขอซื้อ 600 ล้าน อดีตสามีบอกถ้าชนะเขาจะขอที่ดินอันนี้ มีคนบอกเจ้เล้งมีคนไปรางวัด เราก็ไปทำไม ก็งงๆ ปรากฏว่าพอมาดูๆ อพาร์ทเมนท์ 9 แท่งให้ บ้านอีกตั้งหลายหลังให้ แต่ที่ดินอันนี้ไม่ให้ ถ้าจะเอาที่ดินอันนี้ก็สู้คดีกันแล้วกัน ดูสิใครจะได้ มันก็ยอมถอย พอยอมถอยอยากได้อะไรบอกมาสิ่งที่ให้ได้ เอาที่บนเขาค้อ ที่อยุธยาหลายสิบไร่ เอาที่เชียงใหม่ เอาตึกแถว เอาอพาร์ทเมนท์ 9 แท่ง โอเคให้มันไป แล้วเงินสดตอนแรกจะเอา 600 ให้ 300 แล้วก็จบ รวมทรัพย์สินก็ประมาณ 700 กว่า ที่เอาไปก่อนหน้านั้นอีกไม่รู้เท่าไหร่

ถ้าเกิดพราหมณ์ท่านนั้นไม่ได้มาบอกเราเรื่องนี้?

เจ้เล้ง : ก็สู้กันไป แต่ท่านพูดว่าสู้กันไปถ้าชนะแล้วจะเอาเขาอีกเหรอ เออ…ก็จริงของเขา เราก็เลยจบก็จบ

มีความเสียดายอะไรบ้างไหมจากที่ใช้ชีวิตอยู่กันมากว่า 40 ปี?

เจ้เล้ง : ความเสียดายมันไม่เหลือเยื้อใยตรงที่ว่าเท่าที่เราอยู่ด้วยกัน 40 ปี เขาไม่มีความดีที่จะให้เรามาทบทวนได้เลย มีอยู่วันนึงเจ้เล้งมีของเก็บไว้บ้านนี้เป็นของหนีภาษี มีคนไปด่อมๆ มองๆ เราก็กลัว ทุกทีเราเป็นคนทำเองหมด เขาทุ่มนึงนอน เรานอนตี3-4 พอ 7 โมงเช้าเราตื่น ใช้เขาไปขับรถไปขนของหน่อย ไม่กล้าไป เพราะคนมองเห็นเรานี่มันตัวเต็งเลย ก็ให้เขาไปทำ กลับมาบ้านมาทะเลาะ มึงรู้ไหม มึงให้กูขับรถ กูขับไปร้องไห้ไป กูเรียนมาขนาดนี้กูต้องมาขับรถขนของหนีภาษีให้มึง เราก็เอ้า…แล้วชีวิตที่มึงอยู่ทุกวันนี้ เงินที่มึงใช้ก็เงินเหี้ยๆ ที่กูหานี่แหละ มึงไม่อายบ้างเหรอ มึงใช้เงินเหี้ยๆ อย่างนี้ มึงกล้าพูดนะ เจ้เล้งก็ด่าอย่างนี้เลย กูไม่รู้สึกเสียใจเลยที่ต้องทำงานนี้ แต่กูรู้สึกเสียใจที่ต้องเลี้ยงคนเหี้ยไว้ในบ้าน

แล้วแบบนี้พราหมณ์ได้บอกเรื่องอนาคตไหมว่าต้องไปอย่างนี้ๆ?

เจ้เล้ง : มีค่ะ คือองค์เจ้เล้งดีอย่างนึงคือเจ้เล้งไม่สามารถติดต่อท่านได้เลย แต่ท่านจะมาเป็นระยะๆ ทำนี่เสร็จแล้ว มีที่อยู่ระยอง ทำไมไม่ทำสวนทุเรียนละ ไปทำดูสิ จริงให้เจ้เล้งไปขุดดินยังทำไม่เป็นเลย เราก็อ่านหนังสือ แล้วดูเอา สอนเขามั้ง เขาสอนเรามั้ง มันก็สนุก พอขายๆ ที่ก็ซื้อๆ ซื้อจนเต็มตรงนั้นมันไม่มีทางขยายโอเคกูพอแค่นี้

คลิปอีจันแนะนำ
หญิง รฐา เล่าประสบการณ์ติด โควิด