เปิดใจ​ โม​ อมีนา​​ คดีแตงโม​ พร้อมโต้หิวแสง​ ดูแล​เบิร์ด​ เกินหน้าที่

เปิดใจ​ โม​ อมีนา​​ เรื่อง คดีแตงโม​ พร้อมโต้ข่าวหิวแสง​ กอบโกยผลประโยชน์​ และดูแล​ เบิร์ด​ เกินหน้าที่

ยังคงเดินหน้าตามหาความจริงใน​ คดีการเสียชีวิตของ​ แตงโม​ นิดา​ สำหรับนางร้ายหน้าสวย​ โม อมีนา โดยเธอจะมาขอเปิดใจในรายการ​ คุยแซ่บโชว์​ ถึงเรื่องคดีของพี่สาวอันเป็นที่รัก พร้อมเคลียร์ดราม่า คนมองว่าหิวแสง​ กอบโกยผลประโยชน์​ และดูแล​ แฟนแตงโม​ หรือ​ เบิร์ด​ จนเกินหน้าที่

เรื่อง​ แตงโม​ ผ่านมาเดือนกว่าแล้ว ตอนนี้โอเคขึ้นหรือยัง?

โม : มันจะมีบางช่วงที่โอเค​ และไม่โอเค ตอนที่หนูเจอปัญหาต่างๆ​ ในงานของพี่ กระแสตอบรับต่างๆ มันก็ปนๆ​ กันไป ก็มีที่ดี​ และก็ไม่ดี ความเศร้ามันเบาลงเพราะเราให้กำลังใจกัน อย่างในกลุ่มบ้านพี่โม แอนนา ฮิปโป พุดเดิ้ล ทุกคนพยายามให้กำลังใจกัน​ ว่างก็ไปหาที่บ้าน พี่​ เบิร์ด​ ก็สนับสนุนกัน มันเลยทำให้เรามีกำลังใจมากขึ้น

คิดว่าเรื่องคดีจะนานขนาดนี้ไหม?

โม : คิดไว้แล้วค่ะว่านาน วันที่พบพี่พวกหนูได้ไปคุยกับเจ้าหน้าที่ว่า หนูให้ปากคำได้นะคะให้ข้อมูลได้นะ จากที่เรียกไปซ้ำ 2-3 รอบ เราก็พอรู้ในรูปต่างๆ​ ว่านานแหละ โมอยากให้ทุกคนมองในเรื่องของความเป็นจริงที่อยู่ตรงหน้า ไม่อยากให้มอง​ และจินตนาการว่าจะต้องเป็นแบบนั้นหรือแบบนี้ โมเป็นกลางนะ โมรู้สึกว่าทุกอย่างที่โมพยายามสู้มาทั้งต่อหน้า​ และลับหลังโมสู้หมด​ ใครให้เราทำอะไรเราทำหมด ใครให้เราช่วยเหลืออะไรเราช่วยหมด หนูมองว่าอย่างไรก็นาน เพราะสุดท้ายแล้วทางเจ้าหน้าที่ต้องสรุปสำนวนคดีมาก่อน สรุปสำนวนแต่มันก็ยังไม่สามารถปิดคดีได้

คุณแม่ท่านเปลี่ยนอารมณ์​ทุกวัน หลักท่านไม่ค่อยแข็งแรงไหม?

โม : โมแจ้งก่อนว่าคุณแม่มีความเชื่อมั่นในเจ้าหน้าที่ตำรวจค่อนข้างสูง เมื่อคุณแม่ตัดสินใจแบบนั้นแล้วพวกหนูไปขัดแย้งอะไรไม่ได้ เพราะคุณแม่เป็นคุณแม่พี่โมอยู่ อำนาจการตัดสินใจทั้งหมดต้องยกให้คุณแม่ คุณแม่จะถอดใครเปลี่ยนใคร พวกหนูจะไม่เข้าไปยุ่งค่ะ

ถอดถอนคุณหญิงหมอ คิดว่าอย่างไร?

โม : อันนี้มันเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่หลายๆ​ ฝ่าย เขามีการประชุมกันมาแล้วว่าจะต้องเป็นลำดับขั้นแบบนี้ๆ ที่คุณแม่ยื่นเรื่องต่างๆ​ โมว่าคุณแม่จะต้องคุย ปรึกษากับทางทนายมาแล้วค่อนข้างดีถึงออกมาทำ

รู้มาล่าสุด 3 คนบนเรือไปให้ปากคำเพิ่ม คิดว่ารูปคดีเปลี่ยนไหม?

โม : อันนี้ไม่ทราบค่ะ หนูบอกตรงๆ​ ว่าพวกหนูมองในเรื่องของข้อเท็จจริง หลักฐานความเป็นจริงที่อยู่ตรงหน้า คนนั้นคนนี้บอกว่าพี่โมเป็นแบบนี้ พวกหนูไม่ฟังกันเลย ไม่ใช่ว่าไม่เชื่อ แต่เรามองในเรื่องหลักฐานที่มันพิสูจน์เป็นไปได้มากกว่า

2 คนที่เพิ่งสึก เขาสัญญากับแม่ไว้ว่าสึกแล้วจะสารภาพ?

โม : ก็ขอให้เขาทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับคุณแม่ก็แล้วกันเท่านั้นเอง ขอให้เป็นความจริง ทุกคนแค่อยากรู้ความจริง ทุกคนไม่ได้อยากยุ่งเกี่ยวกับคดี หรือทะเลาะกับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง​ หรือแม้กระทั่งคุณแม่ก็ดี เราขอแค่ความจริงเอง อยากรู้ความจริงที่เกิดกับพี่เราเท่านั้นเอง

รอความจริงมาตลอด ผ่านมาเดือนกว่าแล้ว เหนื่อยขนาดไหน?

โม : ทุกวันนี้หนูก็ยังนอนน้อยกันเหมือนเดิม หนูพยายามเท่าที่สามารถหนูจะทำได้ บางคนเป็นห่วงเราว่าเราจะต้องแลกกับอะไร หนูมีสติพอที่จะเลือกได้ว่าเรามีขอบเขตแค่นี้เราได้เท่านี้ เราอยู่ได้แค่นี้ โดยที่เราจะไม่ได้รับอันตรายหรืออะไรใดๆ หนูไม่ได้คิดถึงขั้นว่าใครจะมาทำร้ายใครจะมาขู่หรืออะไร เพราะหนูถือว่าแค่อยากหาความจริงให้พี่เท่านั้นเอง

มีคนเตือนไหม?

โม : เยอะมากค่ะ มีบ้างแต่โมไม่เรียกว่าการขู่คือการเตือน เพราะหนูรู้สึกว่าเราไม่ได้ทำอะไรผิด เจตนาของเขาหนูไม่ทราบ ถ้าหวังดีก็ขอบคุณค่ะ ถ้าหวังอย่างอื่นหนูไม่ได้มองว่าหนูทำอะไรผิดแล้วหนูไม่ได้ทำเกินหน้าที่ขอบเขตของตัวเอง

กลัวไหม?

โม : ไม่กลัวค่ะ

ทนายเดชาบอกจะปดคดี 24 เมษาคิดว่าปิดได้ไหม?

โม : ถ้าปิดได้ก็ขอบคุณทนายเดชามากค่ะ ก็อยากปิดให้ได้พวกหนูก็รอดูอยู่เพราะไม่ได้อำนาจเข้าไปยุ่งในเรื่องของทนาย

ปิดคดีแล้วออกมาเป็นอุบัติเหตุ เราใช้ชีวิตไปต่อได้ไหม?

โม : ได้ค่ะ ทุกวันนี้หนูก็ไม่ถึงกับใช้ชีวิตไม่ได้ก็ใช้ได้ แต่หนูแค่อยากฟังอะไรที่มันคือความจริง ต่อให้มันเป็นอุบัติเหตุแต่เป็นความจริงก็จบ

ในกลุ่มเพื่อนๆ​ มีใครได้คุยกับ​ กระติก​ บ้างหรือยัง?

โม : รู้สึกว่าเขาจะตีตัวออกห่างออกไปเลยค่ะ กลุ่มนี้เขาไม่ได้อยู่ตั้งแต่แรก กลุ่มไลน์นี้ตั้งขึ้นหลังจากที่พี่หายไป โมว่าพี่เขาก็ทำตัวชัดเจนกับพวกหนูดีนะ พวกหนูไม่ได้โกรธไม่ได้เกลียดพี่ติก พวกหนูไม่มีเจตนาแบบนั้น พวกหนูแค่อยากรู้ความจริงจากใจของเขาจริงๆ

อยากให้เขาออกมาพูด?

โม : เขาจะไปพูดตอนไหนก็ได้ จะไปพูดในชั้นศาลก็ได้ พูดต่อหน้าตำรวจก็ได้ ไม่ต้องพูดกับพวกหนูก็ได้แต่ขอให้เป็นความจริงจากใจเขาจริงๆ หนูอยากบอกว่าพี่โมรักพี่ติกมากรักมากจนแบบหนูเองก็ไม่แตะเลย ไม่กล้าแตะไม่กล้ามีเรื่องกับพี่ติก รักมากจริงๆ พี่ติกคือ 1 ในครอบครัวของพี่โมอ่ะ

พูดว่า พี่ติกทำตัวชัดเจนกับพวกหนูดี คืออย่างไร?

โม : ก็คือไม่ยุ่ง ตีตัวออกห่างออกเลย หนูว่าหนูก็สนิทกับพี่ติกประมาณหนึ่งนะ ก็รู้จักกันมานานนะ ไม่ใช่ว่าหนูไม่รักพี่เขานะ แต่หนูอยากจะบอกพี่เขาว่าเขาคือคนในครอบครัวของพี่โม แล้วทุกคนก็รักหลานเหมือนที่พี่รักลูก

น้องอีสเตอร์ เป็นอย่างไรบ้างทราบไหม?

โม : ไม่ทราบเลยค่ะ เรารู้แหละว่าหลานอยู่กับแม่ ก็อดไม่ได้ที่จะเป็นห่วง

หน้าที่หลักในงานของ​ แตงโม​ คืออะไร?

โม : โมจะมีทีมกล้องวีดีโอภาพนิ่ง อยู่เลย 3 ชั้น เก็บภาพบรรยากาศทั้งหมด ทีมสตาฟใช้คนในกลุ่มทั้งหมด 15 คน ทั้งหมดเกือบ 20 คน อันนี้เป็นหน้าที่ของโม

งานใหญ่มากๆ ทำไมถึงไม่จ้างคนให้รันงาน?

โม : งานพี่อะเนอะหนูอยากทำเอง หนูเป็นคนวิ่งเอง เวลา​ ดารา​ ใครมาหนูวิ่งลงไปให้เพราะหนูห่วงแต่ละคน มันเป็นไว้อาลัยไม่ใช่งานอีเวนท์ เพราะฉนั้นหนูจะถามทุกคนคำนี้ทุกคนจะได้ยินจากหนู “พี่ค่ะ พี่สะดวกให้สัมภาษณ์ไหม ถ้าพี่ไม่สะดวกให้สัมภาษณ์บอกนะคะ เดี๋ยวให้ทีมพาขึ้นไปหรือโมพาขึ้นไปเองก็ได้” หรือถ้ามาพร้อมกันจะมีทีมการ์ดของพี่เอส กันตพงศ์ส่งมาให้ เราจะบอกเขาไปรอคนนี้พาเขาขึ้นไป หนูก็ต้องขอโทษพี่ๆ​ นักข่าวด้วยบางคนเขาไม่สะดวกให้สัมภาษณ์จริงๆ เขามาไว้อาลัย

กระแสดีก็มี ดราม่า​ ก็เยอะ โดนว่า หิวแสง รู้สึกอย่างไรคำนี้?

โม : ใครที่เป็นเพื่อนโม โมดูแลแบบนี้ทุกคน พี่เขาเป็นหนึ่งในคนแรกในชีวิตหนูที่หนูรักมากที่เขาจากไปเท่านั้นเอง เชื่อว่าหลายๆ​ คนยังไม่เห็นโมเมนต์ของเราที่เราแสดงออกับเพื่อนเราเป็นแบบนี้จริงๆ เราเป็นแบบนี้อยู่แล้ว

เจอคอมเมนต์ลบท้อไหม?

โม : ท้อมากค่ะ แต่เพื่อพี่คำเดียว

ได้ยินใครพูดอะไรมาถึงเจ็บขนาดนั้น?

โม : วันนั้นไม่รู้มาก่อนเลยว่าพี่เอจะเรียกไปทานข้าว เพราะหนูเป็นคนที่ต้องมางานก่อนเพื่อน งานเลิกก็รอเคลียร์งาน วันนั้นดึกมากเพราะเป็นวันสุดท้ายหนูต้องคอยเคลียร์ ขอบคุณทุกคน หนูก็ตามไปที่บ้านพี่เอก็ไปกินข้าว หนูสาบานเลยหนูไม่รู้ว่าเขาถ่ายวีดีโอ เรารู้สึกว่ามันเป็นวันนั้นเดียวที่เราพูดได้ เพราะวันอื่นเราไม่มีเวลาแม้แต่ดูทีวีต้องไปงานพี่ หนูหมายถึงว่าถ้ามันแลกกันได้เอาพี่หนูคืนแล้วเอาชื่อเสียงหนูไปไม่เป็นไร เพราะว่าเวลาที่มีคนติดต่องานหนูมาหนูพูดเลยว่าพี่พอก่อนเนอะ หนูลงให้ได้ หนูก็ไม่ได้อยากให้ลูกค้าด่าเราเรื่องงาน แต่ไม่ได้อยากให้คนอื่นมองว่าโกย หนูไม่ได้จะทำแบบนั้นเลย

ความน่ารักของอมีนาคนกดไลค์เยอะมาก ยอดติดตามเท่าไรแล้ว?

โม : ล้านเจ็ดค่ะ

ในงานดูแลทุกอย่าง ดูแลแขกด้วย และดูแลคุณ​ เบิร์ด​ ด้วย?

โม : กับพี่​ เบิร์ด​ ก็มี​ ดราม่า อันนี้หนูก็เสียใจว่าคิดได้อย่างไรแต่ละคน หนูคอยดูแลพี่​ เบิร์ด​ เพราะหนูรู้พี่​ เบิร์ด​ ไม่ไหว พี่​ เบิร์ด​ เขากินข้าวได้หนูก็เป็นคนประคอง กระแส​ ดราม่า​ หนูถึงเนื้อถึงตัวพี่​ เบิร์ด​ มากไป เราดูแลเกินหน้าที่น้อง คิดได้อย่างไรว่าเราจะอะไรกับแฟนพี่ ปัญญาอ่อนอ่ะพี่ แต่หนูก็ไม่ใส่ใจเพราะหนูรู้หนูทำอะไรอยู่ แต่ก็ไม่ควรคิดอ่ะ พี่​ เบิร์ด​ ก็เหมือนพี่ชายหนู ก็คนที่พี่เรารักอะเนาะ

เบิร์ด​ ดีขึ้นขนาดไหนแล้ว?

โม : เขายังคงไม่เลิกคิดถึงหรอกค่ะ โมว่าคนหลายๆคนก็ออกมาไม่ได้ อย่างหนูเหมือนจะได้ แต่พอถึงเวลาจริงๆ​ ไม่ได้อีกแล้วเขาก็พยายามหาไรทำ เป็นเหมือนกิจกรรมที่ทำให้ตัวเองไม่เครียดแค่นั้นเอง มันเป็นอาชีพของพี่เขาอยู่แล้วด้วย

ทำเสื้อมาขาย 1,000 ตัว คนบอกว่าให้ทำมาอีกเยอะๆช่วงกอบโกย เบิร์ด​ ตอบว่าอย่างไร?

โม : ตอบว่าทำแต่พอเพียงก่อน เพราะเขาเป็นคนทำเองผลิตเอง สกรีนเอง คุยกับลูกค้าเอง ตอบแชทเอง เขามองว่าเขาทำเองทั้งหมดดีกว่าไปจ้างมันเปลืองเงิน เขาเป็นมัธยัด

ตอนที่​ แตงโม​ คบกับ​ เบิร์ด​ ใหม่ๆ พามารู้จัก เขาแนะนำว่าอย่างไร?

โม : เขาแนะนำว่าฉันจะพาตาหนวดมาให้รู้จักนะ เราก็บอกมาสักทีเถอะ เพราะพี่เขาคบกันได้แค่ 2 ปีเอง ถ้าพี่โมเขาไม่ได้อะไรกับใครจริงๆหนูจะไม่รู้จัก ทริปที่อยู่ด้วยกันยาวๆ​ เลยคือเชียงใหม่เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ไปเที่ยวก็อยู่ด้วยกันก็ได้รู้จักพี่​ เบิร์ด​ เยอะเลยค่ะ

เขาเหมือนนิ่งๆเงียบๆ?

โม : เขาเหมือนเป็นผู้ชายสายดาร์กนะ แต่จริงๆเขาเป็นผู้ชายหวานมากดูอบอุ่น เขาดูแลพี่เราไม่ว่าพี่เราจะแว้ดๆ เขาจะหันไปยิ้ม ดูเป็นเรื่องน่าเอ็นดูไปเลยในสายตาเขาเราแอบมองบ่อย เวลาเขาจะมีโมเมนต์ไรกันหนูจะเป็นคนแอบมองน่ารักดี

ดู​ แตงโม​ มีความ​สุขไหม?

โม : มีความสุข ดีขึ้นเยอะมาก เพราะก่อนหน้านี้พี่เราไม่กล้าออกจากบ้าน ไม่กล้าไปเจอใคร ไม่กล้าแม้กระทั่งรับงาน เพราะว่าตัวเองไม่สวย บวกกับการที่เขาเป็นโรคซึมเศร้า แต่หนูนับถือใจพี่​ เบิร์ด​ เลยนะ เพราะว่าพี่​ เบิร์ด​ อ่ะทำให้พี่โมหายดี หายแบบพาไปอยู่กับธรรมชาติ พาไปขายของ มีกิจกรรมต่างๆ​ ให้พี่เรารู้สึกว่าเขาไม่ป่วย โมไม่เคยเห็นอย่างหนึ่ง ไม่เคยเห็นว่าจะมีใครทำกับข้าวให้พี่ทาน มีพี่​ เบิร์ด​ นี่แหละ

คลิปอีจันแนะนำ
เปิดใจ ออกัส และ เงิน หลังการจากไปของเพื่อนรัก