กดดันตัวเองไม่น้อยสำหรับ เป้ย ปานวาด ที่ต้องมาสานต่อกับหน้าที่นักแสดงในละครเรื่องคุณชาย ที่ แตงโม ภัทรธิดา เคยแสดงไว้ช่วงหนึ่ง เป็นช่วงระยะเวลาสั้นๆ เมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน กับกลายเป็นว่าฉากที่ แตงโม แสดงเอาไว้ ไม่สามารถมาร้อยเป็นเรื่องราวได้ เลยทำให้ต้องมีการถ่ายทำใหม่ งานนี้ เป้ย เปิดใจว่า กดดันมาก เข้าฉากวันแรกถึงกับร้องไห้ แต่สุดท้ายต้องฮึดสู้มีสติอีกครั้ง เพื่อหวังจะสานต่อในสิ่งที่เพื่อนตั้งใจทำไว้ให้สำเร็จนั่นเอง โดย เป้ย เผยว่า
“วันแรกที่ผู้ใหญ่ติดต่อมา หลังจากที่จบละครเรื่องล่าสุดไป ตั้งใจจะพัก อยู่ในช่วงระหว่างดูบท แต่พอผู้ใหญ่โทรมา ก็ 70% น่าจะเล่น แต่ขอดูบทก่อน ยังไม่ได้บอก หรือรับปากผู้ใหญ่ไป เพราะกลัวว่าถ้ารับปากไปแล้วทำไม่ได้ หรือ ทำได้ไม่ดี มันก็คงไม่ดีเท่าไหร่ กับการที่จะมาสานต่อแทนโม เลยขอทำการบ้านก่อนดีกว่า แต่พอทำการบ้านแล้ว อ่านบทแล้ว ต้องมานั่งคุยเรื่องคาแรคเตอร์ ว่าจะให้ออกมาในรูปแบบไหน เพราะมันค่อนข้างใกล้เคียงกับเรื่องที่แล้วที่เราเล่นไว้มากๆ ต้องเล่นยังไงให้แตกต่าง โมห่างหายจากการเล่นละครไป 2 ปี เป้ยก็ 10 ปี ช่วงที่เรารับละครมันใกล้กันเลย ซึ่งเป้ยก็ถามพี่ต๊ะว่าโมเป็นยังไงบ้าง เห็นกลับมาเล่นละคร ฝากบอกไปว่าสู้ๆ หลังจากที่ เป้ย ได้อ่านข้อความที่โมส่งหาผู้ใหญ่ ความรู้สึกมันเหมือนเรา อยากให้ตัวละครเป็นอย่างนี้ รู้สึกได้ถึงความตั้งใจ โมอยากให้ตัวบท จันทร์ เป็นแบบนี้ พอเรามาสานต่อก็อยากตั้งใจทำให้เหมือนที่โมวางไว้ ก็คือ เล็บแดง ปากแดง ผมเป้ยก็ไปย้อมสีเข้ม ตัดผม ให้ตรงกับที่เขาตั้งใจให้เป็น”
วันที่ตัดสินใจเล่น บอกกับ แตงโม ยังไงบ้าง?
“ก่อนที่รับปากจะเล่น เห็นบทก็นึกถึงโมแล้ว ก็นึกในใจของอนุญาตเขาก่อน ถ้าโมอนุญาตให้เล่นก็ให้ทุกอย่างราบรื่น ฉากแรกที่เพิ่งเข้าไปน้ำตาไหลเลย หลังจากถ่ายเสร็จ มันกังวล กดดันตัวเองหลายๆอย่างๆ ทุกคนให้กำลังใจมาก แต่พอเรารับบทในจุดๆนี้ มันคิดมากมาย มันมีคำถามว่าเราจะเล่นได้ไหม ทำได้ดีหรือเปล่า คนจะให้โอกาสเราไหม เป้ยค่อนข้างเครียดในการทำการบ้าน พอถ่ายไปแล้วก็รีบมาคุยกับตัวเอง เราตั้งใจมาทำให้โม เรากดดันตัวเอง มันไม่ดีเลย มันต้องมีความสุขกับการทำให้โม มากกว่ากดดันทำให้ตัวเองเครียด ต้องรีบเปลี่ยนความคิด ทีมงาน นักแสดงให้กำลังใจ มันก็เลยดีขึ้น”
เห็นว่าได้บทมาไม่กล้าจับ?
“ไม่กล้าจับเลย เราอาจจะเป็นคนคิดเยอะ ระยะเวลา และความตั้งใจ มันเลยทำให้ดีขึ้น พอเราเริ่มเครียด คนรอบข้างบอกทำไมดูเครียด เราก็เลยคิดว่าเป้ยไม่ได้ คือเราตั้งเป้าที่จะทำให้โม ถ้าเครียดเราจะทำไม่ได้ และทำได้ไม่เต็มที่ฉะนั้นเราต้องรีบปรับตัวเอง มายืนตรงนี้มันก็ยาก เรื่องนี้ไม่อยากให้เป็นการมาเล่นแทน แต่เป็นการมาเล่นให้ มาสานต่อสิ่งที่โมทำค้างไว้ให้สำเร็จไปได้ด้วยดี เพราะเป้ยเชื่อว่า เขาคงไม่สบายใจแน่ๆถ้ามีอะไรที่ทำค้างไว้อยู่ ก็อยากให้โมไม่ต้องเป็นห่วง จะทำให้ดีที่สุด ขอบคุณแฟนๆ แฟนคลับน้องแตงโม เป้ยของอนุญาตมาสานต่อตรงนี้แทนโม”
เห็นก่อนหน้านี้ไปวางดอกไม้?
“มีไปวางดอกไม้ค่ะ คุณแม่ก็ไปทำบุญให้ เป้ย ศาสนาอิสลาม เป้ย ก็ทำในแบบของ เป้ย จริงๆเรามีแพลนหลายอย่างที่จะทำให้โม มีถามแอนนาว่าน้องแมวทานอาหารยี่ห้ออะไร ทำอะไรได้ก็จะทำ คิดว่าโมเป็นห่วงอะไรบ้าง ก็ต้องคิดกันอีกทีว่าจะทำอะไร ก่อนหน้านี้ก็บริจาคถุงห่อศพ มีเป้ยกับเพื่อนๆร่วมกัน คือเป้ยกับโมเป็นเพื่อนร่วมวงการที่เราอยู่ในช่วงมีอีเว้นท์แทบทุกอาทิตย์ เราก็เจอกันบ่อย เขาน่ารัก สนุกสนาน นิสัยเราสองคนคล้ายๆกัน พอเป้ยไปมีครอบครัวก็ห่างจากวงการ โมยังเคยบอกอยากไปเล่นกับพี่โปรด แต่ก็ยังไม่มีโอกาสได้ไป เราเป็นลักษณะเพื่อนร่วมงานกัน แต่พอเวลามีอะไรเขาก็จะส่งข้อความมาให้กำลังใจ เรื่องคดีเราก็ติดตามตลอดเวลา และภาวนาขอให้ความยุติธรรมเกิดขึ้นกับโม เรารู้สึกว่าเราลูกผู้หญิงเหมือนกัน เขาเจออะไรมากมาย โหดร้ายสำหรับโมเหมือนกัน ทำไมโลกไม่ยุติธรรมสำหรับโมเลย ตอนอยู่ก็ใจร้ายแล้ว ทำไมตอนไปก็ใจร้ายอีก เวลาเขาเจอปัญหาก็ส่งกำลังใจให้เขา หวังให้เขาได้รับความยุติธรรม”
อยากฝากบอกอะไรกับแฟนๆบ้าง?
“ เป้ย ของอนุญาตสานต่อตรงนี้แทนโม และสัญญาว่าจะทำให้ดีที่สุดค่ะ เป้ยสัญญาค่ะ”
แอดเชื่อว่าถ้า แตงโม รับรู้ได้คงเอาใจช่วยให้ เป้ย ได้ทำหน้าที่ตรงนี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุด และแฟนๆจะต้องอินและชอบกับบทนี้นั่นเองค่ะ
คลิปอีจันแนะนำ
เชียร์ ฑิฆัมพร รับติดต่อ แตงโม เล่นละคร