เมย์ มาริษา แจ้งความอดีตพนักงานทำแสบ ลบไฟล์งานต้นฉบับทั้งหมดก่อนลาออก

ถึงกับต้องขึ้นโรงขึ้นศาล! เมย์ มาริษา เข้าแจ้งความอดีตพนักงาน ทำแสบ! แกล้งลบไฟล์งานต้นฉบับสำคัญเกลี้ยงบริษัท ก่อนลาออก พร้อมท้าฟ้อง

ทำเอาต้องขึ้นโรงขึ้นศาลกันเลยทีเดียว! สำหรับอดีตดาราสาว เมย์ มาริษา หลังจากที่เจออดีตพนักงานของบริษัท ได้ทำการลบไฟล์งานต้นฉบับสำคัญทั้งหมดออกจากคอมพิวเตอร์บริษัท ก่อนจะแจ้งลาออกในเวลาต่อมา ซึ่งสร้างผลกระทบและความเสียหายให้กับบริษัทเป็นอย่างมาก

“Finally !!! #ยาวหน่อยแต่มีประโยชน์ และเป็นอุทาหรณ์ได้ดีค่ะ

อีกคดีความที่ถูก พนักงาน แผนกออกแบบของบริษัทเมย์เอง แจ้งลาออก และ ลบไฟล์งานทั้งหมดออกจากเครื่องคอมพิวเตอร์ของบริษัทที่ใช้ทำงานออกแบบให้เรา ขณะยังเป็นพนักงานประจำและนำเอกสารงานทั้งหมดออกจากแฟ้มงานโดยไม่ได้รับอนุญาต เอกสารหายเกลี้ยง เขาลบไฟล์ ai ลบต้นฉบับเอกสารสำคัญออกจากเครื่องบริษัททั้งหมดทั้งงานออกแบบลายผ้า งานปัก งานออกแบบของลูกค้า และอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งส่งผลกระทบทำให้เราและบริษัทเสียหายอย่างมากในการทำงานต่อไป

ทางบริษัทได้มีการเจรจาทางโทรศัพท์ เพื่อให้เขาคืนงานมาให้ แต่เขายืนกรานว่า ลบไฟล์ไปหมดแล้ว ไม่มีคืน และท้าทายมาว่า อยากได้ก็เชิญฟ้อง อยากจะลองดูสักตั้งเหมือนกัน งงมากน้องเป็นอะไร เราแจ้งความเมื่อวันที่ 2 ก.ค. เขารีบส่งงานคืนทางอิเมล แต่ไฟล์เปิดอ่านไม่ได้ ถูกเข้ารหัส เราแจ้งขอคืนงานทั้งหมดมาทางอุปกรณ์ Harddrive หรือ External ตามสะดวกภายในวันจันทร์ที่ 5 ก.ค. แต่เขาเงียบ!!

สุดท้ายวันที่ 7 ก.ค. เราต้องกลับไปที่ สน. ด้วยตัวเอง เพื่อให้เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือ ประสานเรื่องให้ เมื่อเจ้าหน้าที่โทรไปเจรจา เขารีบนำคอมพิวเตอร์เข้ามาโอนข้อมูลงานคืนที่โรงพักทันทีค่ะ เหนื่อย เดือดร้อน วุ่นวายกันไปหมดทุกคน เห็นใจเจ้าหน้าที่ตำรวจมากมายในกรณีนี้ เพียงเพราะเด็กเกรี้ยวกราดคนหนึ่งที่อยากจะแกล้งบริษัทเพื่อความสะใจของตัวเอง เราไม่ควรปล่อยให้คนแบบนี้ลอยนวล โดยไร้สามัญสำนึกไหมคะ เขากลั่นแกล้งให้พวกเราวุ่นวายตามหาข้อมูลกัน โดยไม่รู้สึกผิดเลยค่ะ ไม่มีคำว่าขอโทษ ไม่มีท่าทางแสดงความเสียใจใดใด ขนาดของเมย์เป็นบริษัทเล็กๆยังวุ่นวายกันขนาดนี้ เมย์คิดว่าเขาเป็นบุคคลอันตรายมากคนหนึ่งที่สามารถสร้างความเสียหายและเดือดร้อนให้แก่องค์กรและผู้อื่นได้ ใครจะรับคนเข้าทำงานขอให้ดูเคสของเมย์เป็นกรณีศึกษานะคะ

เมื่อพนักงานเริ่มมีเงื่อนไข พฤติกรรมเปลี่ยนหลังจากผ่านช่วงทดลองงาน จงพิจารณาเปลี่ยนพนักงานโดยไม่ลังเล ไม่ต้องเห็นใจแต่จงเห็นแก่ประโยชน์สูงสุดขององค์กรเราค่ะ เคสนี้หลังผ่านโปร เขาเริ่มเยอะ ขอไม่ทำงานนี้ งานนั้น งานอาร์ตไม่ทำ ตอนนั้นเราก็บอกไปว่า ถ้าหนูทำไม่ได้ พี่ไม่ว่าเลย ขอให้บอกกันนะ พี่ต้องหาคนใหม่ที่เค้าทำได้ เพื่อความสบายใจทั้ง 2 ฝ่าย พี่ไม่บังคับเลย เพราะตอนสัมภาษณ์พี่บอกรายละเอียดงานหมดแล้ว น้องเขาตอบกลับมาว่า เขาขอทำ หนูจะพยายาม หนูจะปรับตัว ฯลฯ เราก็ให้โอกาส แต่โอกาสที่ให้ไปนั้นมันกลับมารัดคอเราเองค่ะ สุดท้ายนี้เมย์หวังว่าจะไม่มีใครเจอแบบนี้นะคะ #จบไม่สวย”

เรียกได้ว่าเหตุการณ์ครั้งนี้สร้างความเสียหายในการทำงานของบริษัทเป็นอย่างมากเลยทีเดียว