เส้นทางชีวิต ยาว ลูกหยี ขายแอร์ให้ ป๋าเทพ จนได้เข้าวงการตลก

ยาว ลูกหยี เปิดเส้นทางจากพนักงานขายของสู่นักแสดงตลกที่หลายคนจดจำ ได้เพราะขายแอร์ให้ ป๋าเทพ

อีกหนึ่งนักแสดงตลกมากความสามารถ สำหรับ น้ายาว ลูกหยี ที่ล่าสุดก็ได้เปิดใจเล่าถึงเรื่องราวชีวิต ผ่านทางรายการ ต้มยำอมรินทร์ ที่กว่าจะเข้ามาสู่วงการตลกไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ชีวิตต้องผ่านบททดสอบและอุปสรรคมามากมาย แต่เมื่อได้เข้ามาแล้วก็ยังไม่ใช่ได้เป็นตลกเพราะตัวเองต้องเริ่มต้นจากเป็นเด็กเก็บของในวง จนวันหนึ่งได้มีโอกาสโชว์ฝีมือการแสดงตลกก็ไม่เคยปล่อยให้โอกาสนั้นหลุดลอยไป

ถาม ท่าเต้นของ น้ายาว เกิดจากความบังเอิญ หรือ ว่ามันเกิดจากการที่เราคิด

ยาว ลูกหยี : คือ มันฉุกคิดมาเองครับ เวลาเราเต้นท่าอื่นคือ คนอื่นมันเต้นมาเยอะแล้ว ซึ่งท่านี้คือ คิดได้ตอนอยู่หน้าเวทีเลยครับ ท่าสะบัดขานี้ เรารู้สึกว่าเราเต้นแล้วมันฮาดีเลยเต้นตั้งแต่นั้นมาตลอดเลย

ถาม นอกจากท่าเต้นที่เป็นเอกลักษณ์แล้วเขายังเลียนแบบเสียงคนดังๆในเมืองไทยมากมาย โดยเฉพาะ สุทธิชัย หยุน

ยาว ลูกหยี : ใช่ครับ เพราะว่าเราชอบอ่านข่าวแล้วเราชอบพี่เขาอ่านข่าวด้วยครับ แล้วพอเรามาเล่นตลกแล้วเราก็เอาเสียงพี่เขามาพูด เสียงนี้เราไม่ต้องฝึกเลยครับ จนพี่สุทธิชัย หยุน เขาก็มีติดต่อมาหาเพราะด้วยตัวของผมเองก็อยากเจอพี่เขาอยู่แล้ว เขาก็ให้เราไปที่ห้องข่าวของเขา พี่เขาก็ให้เราพูดเลียนเสียงของเขา ตอนที่เจอตัวจริงๆของพี่เขาเราก็รู้สึกตื่นเต้นมากๆเลยครับ แล้วคือ เขาก็ให้เราปลอบตัวเป็นเขารับสายด้วยครับ ว่าคนที่โทรมาจากทางบ้านจะจับผิดได้ไหมว่าไม่ใช่เขา แต่คนที่เขาโทรมาเขาก็รู้ว่าเป็นเราครับ

ถาม และอีกท่านที่ น้ายาว เลียนเสียงได้อีกคนคือ ท่าน ว วชิรเมธี

ยาว ลูกหยี : คือ มีครั้งหนึ่งที่น้ำท่วมอุบลราชธานี แล้วผมได้ไปช่วยร่วมกับมูลนิธิร่วมกตัญญูอยู่ที่นั่น 3 เดือน แล้วท่าน ว วชิรเมธี ท่านก็ได้ไปเทศน์ให้เหล่าท่าน CEO ทั้งหลายได้ฟังเราก็ชื่นชอบเสียงของท่านตั้งแต่นั้นมาเลยครับ

ถาม นอกจากการเลียนแบบเสียงแล้ว น้ายาว ยังแหล่อีสานได้ด้วย

ยาว ลูกหยี : เราเติบโตมากับสิ่งนี้อยู่แล้วครับ คือ น้ายาว เคยบวชเป็นสามเณรนะครับ แล้วก็มีช่วง ช่วงหนึ่งมันมีงานบุญพระเวสสันดรทั้งหมด 13 กัณฑ์ เราก็ฝึกการแหล่มาจากการท่องจำ พระเวสสันดรทั้ง 13 กัณฑ์

ถาม น้ายาว มีความสามารถมากมายแบบนี้ ต้องขอย้อนกลับไปทำความรู้จักว่าก่อนที่จะมาอยู่จุดนี้ น้ายาว ทำอะไรมาบ้าง

ยาว ลูกหยี : ด้วยความที่เราอยู่แต่ในโลกของธรรมะมาตลอดเพราะว่าเราบวชตั้งแต่ตอนที่เราเด็ก แล้วพอเราโตขึ้นเราก็สึกแล้วเข้ามาในกรุงเทพฯ น้ายาว คือ ติดรถสิบล้อของลุงที่ส่งมันสําปะหลัง จากยโสธร มาส่งที่ชลบุรี แล้วเราก็ได้เข้ามา กรุงเทพฯเพื่อหางานทำเราก็ได้มีโอกาสทำงานเป็นพนักงานขายในห้าง ขายเครื่องปรับอากาศ เราขายจนหมดโกดังเลยครับ เพราะว่าวิธีการขายของเราคือไม่เหมือนใครเราทำยอดให้บริษัท 4-5 ล้านต่อเดือนนะครับ แต่เพราะเราไปเคลมว่าแอร์ของเรารับประกัน 10 ปี จริงๆมันแค่ปีเดียว เพราะเรากลัวว่ายอดขายของเราจะตกทางผู้จักดารก็เลยเรียกเราเข้าไปอบรมว่าคุณจะพูดแบบนี้ไม่ได้นะ คุณต้องบอกลูกค้าไปตามความจริงรับประกัน 1 ปี ก็คือ 1 ปีนะไม่ใช่ไปบอกเขาว่า 10 ปี เพราะว่าลูกค้าโทรมาร้องเรียนเยอะมากเลย ซึ่งนั่นเป็นครั้งแรกที่ผู้จัดการเรียกไปและเขาก็เรียกอีกครั้ง คือ น้ายาว ก็ยังไม่เข็ดครับ พอครั้งที่สองก็โดนเรียกอีก ครั้งที่สามโดนย้ายจากพาต้า ไปอยู่ที่ เดอะมอลล์ เราก็ยังคงพูดอยู่เหมือนเดิมคือ ไม่เข็ด แต่สุดท้ายเราก็ขอลาออกเพื่อที่จะมาอยู่คณะตลก น้าหม่ำ กับ ป๋าเทพ ครับ เพราะตอนนั้นเขาอยู่คณะเดียวกัน

ถาม แล้วตอนนั้นไปรู้จัก ป๋าเทพ ได้ยังไง

ยาว ลูกหยี : เราก็เป็นพนักงานขายอยู่ในห้างแหละครับ ตอนนั้น คือ ป๋าเทพ จะมาซื้อแอร์แต่ไม่ได้โดนผมบอกเคลมว่า 10 ปีนะครับ แต่โดน 20 ปี (หัวเราะ) แล้ว ป๋า เขาก็ไม่เชื่อขอดูใบรับประกันเขาก็ว่าเราพูดแปลกแต่เขาก็ซื้อนะครับ หนึ่งเครื่องไปตอนนั้นเพราะว่าเขาตั้งใจมาซื้ออยู่แล้ว ตอนนั้นเราก็เลยขอเบอร์แพคลิ้งไว้และนั่นก็คือ จุดเริ่มต้นที่ทำให้เราก้าวเข้ามาในวงการ แต่ตอนที่เราเริ่มต้นเราไม่ได้เป็นตลกเลยนะครับ เป็นคนเก็บของครับ ที่เราเลือกที่จะทิ้งอาชีพการขาย มาเป็นนักแสดงตลกก็เพราะด้วยการชักชวนจาก น้าหม่ำ ด้วยแล้วเงินก็น่าจะดีกว่า แล้วอีกอย่างคือ เป็นคนบ้านเดียวกันด้วย และเราก็อยากที่จะออกมาสู่โลกภายนอกบ้าง ซึ่งหน้าที่ของ น้ายาว ที่เริ่มเข้ามาคือ เสิร์ฟกาแฟ เสิร์ฟน้ำชา ให้ น้าหม่ำ นะ แล้ววิก ฉิ่ง ฉาบ กลอง คือ น้ายาวเป็นคนที่ต้องเก็บทั้งหมด

ถาม แล้วอะไรที่ทำให้ น้ายาว ขึ้นเวทีเล่นตลก

ยาว ลูกหยี : เพราะว่ามีตัวเล่นขาดเราก็ขึ้นไปเสริมบ้าง น้าหม่ำ เขาก็สอนนะครับ ตลกคนไหนอายเขาก็ให้แก้ผ้าเหลือแต่ชุดชั้นใน เดินขึ้นเวทีแล้วก็เดินผ่านมาแล้วก็ลงเวทีไป บางคนก็หนีไปเลยแล้วก็กลับมาถอดนะครับ แต่มันก็จะทำให้เรากล้าที่จะทำกล้าที่จะแสดงมากขึ้น

ถาม แต่หลายคนสงสัยว่าทำไมอยู่กับ พี่หม่ำ แต่ไปใช้ว่า ยาว ลูกหยี ทำไมไปใช้นามสกุลของ หยอง ลูกหยี

ยาว ลูกหยี : คือ ต้องบอกแบบนี้ครับ ผมอยู่กับ พี่หม่ำ มา 4-5 ปีแล้วคุณหยอง ลูกหยี มาขอน้ายาว กับพี่หม่ำ พี่หม่ำ ก็เรียกเราไปคุยว่าเราอยากไปอยู่กับเขาไฟหกดหม แต่ถ้าอยู่กับ พี่หม่ำ เขามีงานเยอะเราก็จะมีงานทำนะ แต่ถ้าเราอยากไปก็ไป แต่ถ้าไปแล้วไม่มีอะไรก็กลับมา อันนี้เป็นที่หัวหน้า หม่ำ เขาพูดนะครับ น้ายาว ก็ตัดสินใจไปอยู่กับ น้าหยอง (ต้องบอกว่างานตลกคาเฟ่ช่วงนั้นเยอะมากเลยนะครับ) สาเหตุที่ไปเพราะว่าตอนนั้น พี่หม่ำ มีบุคลากรในวงเยอะมาก 18 คน ซึ่งเราก็คิดว่าถ้าเราแยกไปดู (แต่เราก็ไม่ได้คิดนะครับว่าจะมีโอกาสอะไร) แต่เพราะว่าเราชอบเราก็เลยลองไปดู ก็อยู่มายาวนานถึง 10 ปีเลยนะครับ ซึ่งตอนที่เราอยู่กับ น้าหยอง เราก็ยังไม่มีอะไรบ้านก็ยังเช่าอยู่ ยังคงต้องนั่งรถมาทำงาน เราก็เลยบอกลา น้าหยอง โดยที่เขาไม่รู้ตัวว่าเราจะออกมาเปิดคณะของตัวเอง ซึ่งเราก็เหมือนวัดใจเลยตอนนั้นว่าเขาจะว่ายังไง ซึ่งคุณหยอง ก็กั้นหายใจนิดนึงแล้วน้ำตาก็ร่วงเลยแล้วเราก็กอดกันร้องไห้เลยครับ เพราะเราไม่อยากจากกัน ซึ่งเราไม่ได้มีอะไรที่ผิดใจอะไรกันเลยนะครับ เพียงแต่ น้ายาว อยากออกไปทำทีมของเราเองเพราะงานมันเยอะ แล้วเราก็อยากจะตั้งตัวของเรา อยากมีบ้านของตัวเอง ก็เลยมาตั้งเป็นคณะ

ถาม ซึ่งก็เลยทำให้มีชื่อของ ยาว ลูกหยี ติดหนึ่งในชื่อของตลกแนวหน้าของประเทศไทยมาถึงทุกวันนี้ และตอนนี้ก็มีครอบครัวที่สมบูรณ์ มีลูกถึง 4 คน

ยาว ลูกหยี : ตอนแรกมีแค่ 3 คน แต่คนที่สี่เหมือนเป็นลูกหลงของ น้ายาว ซึ่งตอนนี้ลูกสาวเขาก็มีความสามารถของเขาเขาเล่น TIKTOK มีคนตามอยู่ประมาณ 4 แสนคนครับ เขาก็จะร้องรำทำเพลง แล้วเขาก็จะขายของในนั้น แล้วลูกสาวก็เอารูปเราไปลงก็มีคนติดต่อให้เรากับลูกรีวิวสินค้า ซึ่งเราก็ทำเพราะว่ามันก็มีรายได้ขึ้นมา แล้วทุกอย่างที่ลงไปก้เป็นไอเดียวของลูกเราก็สนับสนุน ก็ฝากใครที่อยากติดต่อ งานบายศรีสู่ขวัญนาค แหล่อีสาน งานแต่งงาน งานบวงสรวง และทุกงาน สามารถติดต่อผมได้ที่เบอร์โทร 081-554-1704 หรือ ทางแฟสบุ๊ค สุขสันต์ไชยมาตร หรือ ยาว ลูกหยี