หลังจากนักแสดงสาวชื่อดัง ก้อย อรัชพร โภคินภากร แฟนสาวของหนุ่ม นิกกี้ ณฉัตร จันทพันธ์ ได้ทำการมอบหมายให้ โกบอย เป็นตัวแทนในการดำเนิน คดีความ ฟ้อง เกรียนคีย์บอร์ด รายหนึ่ง ที่ใช้ถ้อยคำไม่สุภาพ คอมเมนต์ถึงสาวก้อย ในคลิปล่องเรือยอร์ช ที่สาวก้อยไปออกในช่องยูทูบของแฟนหนุ่ม ทำให้เกิดความเสียหาย เช่นคำว่า ‘ดอก_อง’ ซึ่งถือเป็นคำที่ลดคุณค่าของอีกฝ่าย เข้าข่ายหมิ่นประมาท แล้วในกรณีนี้ มีการคอมเมนต์ในยูทูบ ซึ่งเป็นสื่อสาธารณะ คดีนี้จึงเป็นข้อหา หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา
ล่าสุด โกบอย พร้อมด้วย ทนายก้องภพ ได้ทำคลิปอัปเดต จุดจบของ เกรียนคีย์บอร์ด ผ่านช่องยูทูบ หลังจากศาลพิพากษาตัดสินคดีดังกล่าวแล้ว เพื่อเป็น กรณีศึกษา และบทเรียนสำหรับ เกรียนคีย์บอร์ด ทุกคน ก่อนที่จะพิมพ์อะไรลงไปในโซเชียล
โดยในคลิป โกบอย และ ทนายก้องภพ เผยว่า ก่อนหน้านี้หลังจากที่หมายศาลถูกส่งออกไป ทางด้านคู่กรณีก็มีการติดต่อมาขอโทษ ทั้งนี้จึงมีการขอนัดไกล่เกลี่ยกันที่ชั้นศาล โดยเรียกค่าเสียหายเป็นจำนวนเงิน 1 แสนบาท พร้อมกับทำคลิปขอโทษ แต่ทางคู่กรณีติดปัญหาเรื่องเงิน และนำใบตรวจสุขภาพจิตมาแสดงให้ดู พร้อมทั้งพาแม่ที่มีอายุมากแล้วมาด้วย ตนจึงเห็นใจ และลดให้เหลือเพียง 20,000 บาท เป็นค่าทนายความ แต่คู่กรณีกลับบ่ายเบี่ยง พร้อมกลับคำต่อศาลว่าต้องการสู้คดี ให้ศาลตั้งทนายอาสา ซึ่งต้องนำหลักทรัพย์มาวางประกัน 50,000 บาท แต่คู่กรณีไม่มีเงิน ศาลจึงต้องสั่งขังวันนั้น และนัดพิจารณาคดีอีกครั้งหนึ่ง ในวันที่ 17 ม.ค.
ต่อมาในวันพิจารณาคดี คู่กรณีตัดสินใจรับสารภาพ ศาลจึงตัดสินว่ามีความผิดจริง ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา พร้อมลดโทษให้กึ่งหนึ่ง จากโทษจำคุก 1 ปี ปรับ 100,000 บาท และค่าเสียหายทางแพ่งอีก 50,000 เหลือเพียง จำคุก 6 เดือน และปรับ 50,000 บาท ทั้งนี้คู่กรณีไม่มีเงินจ่ายค่าปรับ จึงให้ผู้คุมเรือนจำนำไปกักขังแทน โดย 1 วัน จะคิดเป็นจำนวนเงิน 500 บาท ส่วนโทษจำคุกให้รอลงอาญา
ทางด้านแฟนหนุ่ม นิกกี้ ณฉัตร และสาว ก้อย อรัชพร ก็ได้เปิดใจว่า ทั้งคู่ไม่มีความตั้งใจที่จะให้คู่กรณีต้องติดคุก เพียงอยากให้รู้ว่าควรรับผิดชอบต่อสิ่งที่ทำลงไป และไม่ทำแบบนี้กับใครอีก ซึ่งหากคู่กรณียอมจ่าย 20,000 บาทตั้งแต่แรก พวกตนก็ตั้งใจจะนำเงินจำนวนนี้คืนให้ทั้งหมด โดยการอุดหนุนคุณแม่ของเขาที่ขายข้าวแกง พร้อมทิ้งท้ายอยากให้ทุกคนพิมพ์อย่างสร้างสรรค์ คิดก่อนพิมพ์ นึกถึงใจเขาใจเรา เพราะบางทีมันทำให้คนอื่นเดือดร้อน และแน่นอนตนเข้าใจดีในเรื่องของการเป็นบุคคลสาธารณะ มันสามารถวิจารณ์ได้ แต่ต้องสร้างสรรค์ เตือนไปในทางที่ดีได้
เอาเป็นว่างานนี้คงเป็นอีกหนึ่งกรณีตัวอย่าง สำหรับ เกรียนคีย์บอร์ด ทั้งหลาย อย่าพิมพ์เพียงเพื่อความสนุก เพราะทุกอย่างมันมีผลตามมาเสมอนะคะ