โทนี่ ผี เล่าประสบการณ์ แม่ ป่วย โควิด ลงปอด ด้าน คุณพ่อ ปลอยภัย ไม่พบเชื้อ

โทนี่ ผี เล่าประสบการณ์ แม่ ป่วย โควิด ลงปอด ด้าน คุณพ่อ ปลอยภัย ไม่พบเชื้อ ยิ้มออก คุณแม่ ได้กลับบ้านแล้ว

เรียกว่าการแพร่ระบาดของเชื้อ โควิด ยังคงิวกฤตยังไม่มีวี่แววว่าจะลดลงเลย ล่าสุดคุณแม่ของนักร้องหนุ่ม ต้น ธนัญชัย ชนะโชติ หรือที่รู้จักกันอีกชื่อหนึ่งว่า โทนี่ ผี ได้ออกมา เล่าประสบการณ์ ที่ คุณแม่ ของตนเองป่วย ติดเชื้อ โควิด ลงปอด จนต้องเข้า ICU รวมถึง เรื่อง ค่ารักษา ด้วย โดยเจ้าตัวได้บอกเล่าเรื่องนี้ผ่าน เฟซบุ๊ก ว่า

“เล่าประสบการณ์ คุณ แม่ ป่วย โควิด ลงปอด อย่างหนัก ตั้งวันที่ 5 พค. ที่ผ่านมา พ่อผมโทรมาแต่เช้าบอก ว่าแม่ ป่วยหนักมากตอนนี้พามาที่ ….

โรงพยาบาล ศิริราชปิยมหาราชการุณย์ โดยยังไม่ทราบว่า คุณแม่ ป่วยเป็นอะไร พอมาถึงโรงพยาบาล คุณหมอ x-ray ปอด พบว่ามีอาการ ปอดบวม ผม กลัวว่าแม่จะเป็น โควิด ทาง คุณพ่อ เลยให้ คุณ หมอตรวจ โควิด เลย ผลปรากฎว่าแม่ เป็น โควิด เลยต้องตรวจ คุณพ่อ ต่อ อีกคน แต่เนื่องจาก คุณพ่อ ไม่มีอาการ ทางโรงพยาบาลเลยให้ คุณพ่อ รอผลตรวจอีกวัน ระหว่างรอผลตรวจให้ คุณพ่อ กลับบ้าน ส่วน คุณแม่ ต้องเข้า ห้องฉุกเฉิน ICU พร้อมทั้งต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ ตลอด 24 ชั่วโมง”

“ทางผม ทั้งกังวลเรื่อง พ่อ จะติด โควิด ด้วย เพราะ อยู่บ้านกับ แม่ 2 คน ส่วนผมอยู่ บ้าน ภรรยา และ ก็เรื่อง ค่ารักษาพยาบาล ซึ่ง ทางผมและพ่อน่าจะจ่ายไม่ไหว เพราะแม่ไม่ได้มีประกันชีวิต บวกกับเป็น โรงบาลเอกชน ผลปรากฏว่า โรงบาล โทรมาแจ้งว่าผล ตรวจของ คุณพ่อ ไม่พบเชื้อ โควิด ส่วนคุณ แม่ ยังอยู่ ในห้อง ฉุกเฉิน ผมพยายาม ถาม ญาติพี่น้อง เพื่อน พี่ รวมไปถึง เพื่อนๆ ที่ ออฟฟิศ จนได้ ความว่า เรา สามารถใช้ สิทธิ ucep กับทุกโรงพยาบาลได้”

“รู้จักสิทธิ UCEP สิทธิ UCEP (Universal Coverage for Emergency Patients) คือ สิทธิการรักษาตามนโยบายรัฐ เพื่อคุ้มครองผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต ให้สามารถ เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลทุกแห่งที่ใกล้ที่สุดได้ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายจน พ้นวิกฤตและสามารถเคลื่อนย้ายได้อย่างปลอดภัย แต่ไม่เกิน 72 ชั่วโมง”

“วันนี้ คือวัน ที่ ผม กับภรรยา ขับ รถไปรับคุณ แม่ กลับมารักษาตัวต่อที่บ้าน ครับ ปล. ตอนไปก็ลุ้นว่า จะโดน ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเท่าไร เพราะ ทางการเงิน ของโรงพยาบาลโทรมาบอกว่า ก่อนจะรับ คุณแม่กลับบ้านได้ ต้องไป เคลียร์ เรื่องเอกสารที่การเงินก่อน

ระหว่างนั่นก็ ยัง ประสานกับ 1330 ตลอด โดยได้คำตอบเหมือนทุกครั้งว่า ไม่ต้องจ่าย ”

ผมจึงขอยื่นใช้ สิทธิข้อนี้ไปจนกว่าจะหาโรงรัฐบาลลงได้ ระหว่างนั้น ผม โทรไป ประสานกับ สปสช 1330 ปรึกษา เรื่องค่าใช้จ่าย สำหรับ ผู้ป่วย โควิด วิกฤติ โดยทาง สปสช ยืนยัน กลับมาว่า ให้ยืนยันสิทธิ์ UCEP COVID กับโรงพยาบาล ใช้ได้ทุกโรงพยาบาล ได้ทั้ง รัฐบาล และ เอกชน

ปล. ผมก็พึ่งได้ ความรู้ จากทาง Hr. ที่บริษัท ว่า ถ้าเรา ป่วยเป็น โควิด แล้วโรงพยาบาล ไหน ตรวจเจอ โรงพยาบาล นั้นต้อง รับ ผิดชอบ การรักษา รวมทั้ง ค่ารักษา และจะต้องไป เบิกค่ารักษาพยาบาล กับ รัฐ แต่ อาจจะเบิกได้ตาม จำนวนที่รัฐ กำหนด”

“ที่หลายๆ กรณี ที่โรง พยาบาล ไม่ยอมตรวจ โควิด ให้เพราะ เกรงว่าจะไม่สามารถ เบิกค่าใช้จ่าย ได้เท่ากับค่ารักษาปกติ คืออาจจะเบิกได้ 45-50% ซึ่ง ล่าสุด ทาง รัฐบาล มีการเสนอ เสนอ ช่วย ชดเชย ค่ารักษาพยาบาล ตรงนี้ อีก 20 %. จาก 45-50 เป็น 65-70 % แต่ไม่รู้ อนุมัติ หรือยัง”

“ตลอด 1-2 สัปดาห์ แรก ผม ต้องประสาน กับ 1330 ไปๆมาเรื่อง เคส คุณแม่ และ เรื่องค่าใช้จ่าย รวมทั้ง ตาม อาการ คุณแม่ ทุกวัน ซึ่งเป็นความรู้สึก ที่ ทั้ง กังวล ทั้ง ทรมาน สุดๆ โชคดีที่ ยังมี ทีมงานและ น้องๆในทีมที่ออฟฟิศ ค่อย ช่วยเหลือ เรื่อง การประสาน งานประจำ ที่ผม ก็ยังต้องรับผิดชอบ “

“ผ่านมาจน สัปดาห์ ที่ 3 ทาง โรงพยาบาล โทรมาบอกว่า คุณแม่ สามารถ หายใจเองได้ด้วยตัวเอง ย้ายมาอยู่ ห้อง ปกติได้แล้ว อีก ไม่เกิน 5 วัน มารับกลับไปรักษาตัวที่บ้านได้”

“สรุป ค่าใช้จ่าย ทั้งหมด มี 2 บิล. บิลแรก 530,xxx บิลที่สอง. 5 หมื่นกว่าบาท รวมแล้วประมาณ 58x,xxx. ( 5แสน8 )!!!!! โดย ที่ทางผม ไปเซ็น อย่างเดียว แล้ว ทาง โรงบาลจะไปเคลียร์กับ ทาง สปสช ตรงนี้ต้อง ขอ ขอบคุณ หน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และเพื่อนๆ พี่ๆ และทีมงาน ภรรยา ที่คอยอยู่เคียงข้าง รวมทั้ง หมอ พยาบาล โรงพยาบาล ศิริราชปิยมหาราชการุณย์ ถ้าไม่มีทุกคน แม่ผม ไม่รู้จะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้ “

“ปล. ตอนนี้คุณ แม่ ยังต้อง รักษาตัว ฝึกเดิน เนื่องจากนอนโรงพยาบาลนาน หลายสัปดาห์จากการป่วยหนักมากๆ และยังต้อง กักตัว ที่บ้าน อีก 14 วัน ส่วนผม ฉีด วัคซีน เข็มแรกแล้ว กำลังจะฉีดเข็มสอง วันที่ 17 มิย. นี้. ตอนนี้ผมบอกเลยว่า วัคซีน อะไรมาผมคง ฉีดหมด และบังคับทั้งบ้านผมลงทะเบียนฉีดทุกคน เพราะว่า ถ้า โควิด โคม่า ลงปอดแล้ว นอกจากอันตรายแล้ว ยังวุ่น เรื่อง ประสานงาน อย่างหนัก เรื่องคุณ แม่ ถือเป็นเรื่องหนึ่งที่หนัก ที่สุดในชีวิต และไม่อยากให้เกิดกับใคร”

เรียกว่าตอนนี้ก็สบายใจหายห่วงได้เพราะคุณ แม่ หายป่วยเป็นที่เรียบร้อย ยังไงก็ขอให้คุณ แม่ กลับมาแข็งแรงไวๆนะคะ