ไอซ์ รักชนก ลั่นหลักฐานครบ ยันจะดำเนินคดีตามกฎหมาย กับ ต้อม ยุทธเลิศ

ไอซ์ รักชนก ลั่นหลักฐานครบ ยันจะดำเนินคดีตามกฎหมาย กับ ต้อม ยุทธเลิศ ซัดมันคือการ ทำร้ายร่างกาย ไม่ใช่ทะเลาะวิวาท รับพูดจริงว่าให้อีกฝ่าย กราบเท้าขอโทษ

กลายเป็นกรณีข่าวดังที่ดูเหมือนว่ายังไม่มีทีท่าว่าจะจบลงง่ายๆ สำหรับกรณีของ ไอซ์ รักชนก สาวนักเคลื่อนไหวในคลับเฮ้าส์ โพสต์ข้อความอ้างว่าถูก ต้อม ยุทธเลิศ ผู้กำกับชื่อดังทำร้ายร่างกาย โดนตบหน้า 2 ครั้ง และถีบท้อง 1 ครั้ง โดยเธอได้เขียนเรื่องราวเล่าโดยละเอียดในเฟซบุ๊กของเธอ

ต่อมาทาง ต้อม ยุทธเลิศ ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ กับทางช่อง 3 ยืนยันว่าเป็นการทะเลาะวิวาท จนเกิดเหตุการณ์ชุลมุน และมีการด่ากันอย่างรุนแรง ไม่ได้ทำร้ายร่างกายอย่างที่อีกฝ่ายอย่างที่โดนกล่าวอ้าง วันนั้นยอมรับว่าเมาและสติหลุดจริงๆ และจำเหตุการณ์ไม่ค่อยได้ แต่สิ่งที่ทำให้ตนฉุนคือ ฝ่ายหญิง บอกว่าให้ตนขอโทษด้วยการกราบเท้า ซึ่งตนเองไม่มีทางทำแน่นอน พร้อมยืนยันว่าไม่ได้ตบหน้าอีกฝ่าย 2 ครั้งแน่ๆ ซึ่งหาก คู่กรณีมีหลักฐาน ก็ค่อยว่ากัน ผิดก็ว่าไปตามผิด ยินดีรับผิดชอบทุกอย่างถ้าตนเองผิดจริง ตนเองอยู่ใต้กฎหมายอยู่แล้ว

ซึ่งต่อมาเมื่อวันที่ 23 พ.ย. ช่วงเวลาประมาณ 16.30 น. ทางด้านของ ไอซ์ รักชนก ได้เข้าไปให้ปากคำเพิ่มเติมที่สน.ปากคลองสาน พร้อมยืนยันจะ ดำเนินคดีตามกฎหมาย ทั้งนี้ ไอซ์ ได้ออกมาเปิดใจกับสื่อมวลชนว่า

ยืนยันว่าวันนั้นตนเองไม่ได้เมา มีเพียงคู่กรณีเท่านั้นที่เมา ส่วนในเรื่องที่อีกฝ่ายบอกว่ามีการขอโทษกันแล้วตอนอยู่บนเรือนั้น ก็ไม่เป็นความจริง หรือหากว่ามี ต้องไม่ได้มาพูดกับตนแน่นอน เพราะตนไม่ได้ยินคำนั้น ส่วนในเรื่องที่บอกว่า ต้องให้เขาขอโทษด้วยการกราบเท้า ไอซ์ ยอมรับว่าพูดจริง เนื่องจากโดนอีกฝ่ายทำร้ายร่างกายด้วยการ ตบหน้า 2 ที และ ถีบอีก 1 ที ซึ่งตนเองคิดว่า ถ้าโดนขนาดนี้ แค่กราบเท้า มันคงไม่พอ อีกทั้งยังยืนยันว่าจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

ในเรื่องที่อีกฝ่ายบอกว่าอยากให้จบที่โรงพัก ไม่อยากให้พูดโซเชียล ไอซ์ ก็บอกว่า ตนเองนั้นเล่าผ่านเฟซบุ๊กแค่ครั้งเดียว หลังจากนั้นก็แจ้งความ มีเพียงอีกฝ่ายที่ออกมาให้สัมภาษณ์สื่อ และกลายเป็นหลักฐานมัดตัวอีกฝ่ายว่า พูดกี่ครั้งก็ไม่เคยตรงกันสักครั้ง ส่วนเรื่องที่ว่าถ้าเขาจะมาขอโทษแล้วจะยกโทษให้หรือไม่นั้น ไอซ์ เผยว่า ต้องแล้วแต่สามัญสํานึกของอีกฝ่าย แต่ในเรื่องของการดำเนินคดีนั้น อย่างไรก็ต้องเป็นไปตามกฏหมาย เพราะอยากสร้างบรรทัดฐานทางสังคม ว่าไม่ว่าคุณจะเป็นใคร ก็ไม่มีสิทธิ์ไปทำร้ายร่างกายคนอื่น ยืนยันว่าไม่ได้ขึ้นไปหาเรื่องอย่างที่อีกฝ่ายกล่าวอ้าง ตนขึ้นไปเพื่อที่จะขอโทษ พอขึ้นไปเจอก็เห็นหน้าอีกฝ่ายก็รู้เลยว่ากำลังโกรธมาก หากอนาคตมีผู้ใหญ่มาช่วยไกล่เกลี่ย ก็ยินดี แต่ในเรื่องของการดำเนินคดีตามกฎหมาย ก็ยังยืนยันว่าจะ ดำเนินคดีตามกฎหมาย เพราะตนเองรู้สึกว่า ไม่ว่าใครก็ไม่สมควรถูกกระทำแบบนี้ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ หากอีกฝ่ายจำอะไรไม่ได้ในตอนนั้นลองถามเพื่อนดู เพราะมีเพื่อนเขาอยู่ตรงนั้นหลายคน

ไอซ์ ยังบอกอีกว่า ถ้าจะมาคุยก็ยินดีคุย แต่ขอไม่คุยตอนเมาแล้ว ซึ่ง ไอซ์ ได้เล่าเหตุการณ์ในวันนั้นว่า มีคนมาบอกตนว่าอีกฝ่ายพร้อมเคลียร์แล้ว ตนเลยขึ้นไปเพื่อที่จะคุย และ ขอโทษ เมื่อขึ้นไปยืนยันว่าบรรยากาศค่อนข้างเหมือนมาเฟีย ตนเลยแซวเล่นๆว่า บรรยากาศเหมือนมาเฟียเลย แล้วเขาก็พูดว่า มึงเล่นกับมาเฟียจีนอยู่ มึงไม่รู้ตัวเหรอ หลังจากนั้นก็สนทนากันนิดหน่อย หลังจากนั้นเขาก็เดินเข้ามาตบหน้าข้างขวา ตนเองมีหลักฐาน พร้อมที่จะเปิดเผยถ้าทนายบอกว่าถึงเวลาที่จะเปิดเผย และหากตำรวจต้องการก็มอบให้ได้ ยืนยันมีหลักฐานหมดทุกอย่าง และวันนั้นตนเองไม่ได้เมา ขอร้องว่าอย่ามาใช้คำว่าคนเมาทะเลาะกัน เพราะตนเองแทบจะไม่ได้แตะแอลกอฮอล์เลย มีเพียงอีกฝ่ายที่เมา พร้อมยืนยันว่าเป็นการทำร้ายร่างกาย ไม่ใช่ทะเลาะวิวาทแน่นอน อย่ามาใช้คำว่าเป็นคนเมาแล้วจะมาทำอะไรแบบนี้ได้

ซึ่งเรื่องราวนี้จะจบลงอย่างไรคงต้องปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย หากมีอะไรคืบหน้าแอดจะรายงานให้ทราบต่อไปค่ะ

คลิปอีจันแนะนำ
บุ๋ม ปนัดดา ไม่ขอนิ่งเฉย เตรียมแจ้งความโรคจิต