
งานนี้มีเดือด! หลังจากที่ ณวัฒน์ หรือ ณวัฒน์ อิสรไกรศีล เจ้าของเวที Miss Grand Thailand ได้พูดใส่ไมค์บนเวทีในงานกีฬาสีประจำองค์กร ได้พูดถึงเรื่องการเปลี่ยนชื่อของ อุ้ม ทวีพร และพูดพาดพิงไปถึงพ่อกับแม่ของ อุ้ม อีกด้วย


โดยในงาน ณวัฒน์ มีการพูดถึงว่า “คิดดูนะ เกิดจากตำบลบ้านนา จังหวัดเพชรบุรี เกิดมามีแต่ต้นตาลมีแต่ท้องนา พ่อไถนา แม่ก็หาบของ เรียนโรงเรียนวัด ช่วยไปทำสำรวจเถอะ ลักษณะแบบนี้ไม่มีชื่อ เฌอลินณ์ หรอก”

ในเวลาต่อมา ณวัฒน์ ก็ได้อัพสตอรี่อินสตาร์แกรมพื้นหลังสีส้มรัวๆ โดยมีข้อความระบุไว้ว่า “ที่พูดเพราะการเปลี่ยนชื่อไม่เคยขออนุญาตจากองค์กรและชื่อใหม่ก็ไม่เหมาะสมถ้าเปลี่ยนชื่อแล้ว สันดานเปลี่ยนแบบนี้ไม่ต้องทำงานด้วยกันก็ได้”

ยังมีอีกหนึ่งสตอรี่ “การพูดเรื่องของคุณพ่อคุณแม่คือการยกย่องพ่อแม่ ผมก็ยากจนมาจากชาวสวนภูมิใจทุกครั้งที่ได้พูดถึง แต่ถ้าพูดถึงไม่ได้แล้วไปปั่น ให้เป็นเรื่องจากนี้ไปคงไม่อยากยุ่งและเกี่ยวข้องด้วยเพิ่งจะรู้ว่าแตะอะไรไม่ได้“ และยังมีสตอรี่สีส้มที่ ณวัฒน์ โพสต์อีกรัวๆ





และยังมีอีกหนึ่งสตอรี่ที่ ณวัฒน์ ได้อัพลง “ส่งข้อความมาให้ผมแบบนี้ เวลาบ่าย 2 ผมส่งต่อให้พนักงานดูอึ้งกันทั้งบริษัท” ซึ่งมันเป็นข้อความที่ อุ้ม ทวีพร ส่งข้อความไป โดยระบุว่า “เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ ตัวอุ้มไม่รู้ว่ามันเป็นแค่เรื่องแซวเล่นเพื่อสร้างความสนุกของงาน หรือเป็นการตำหนิจริงๆจากพี่นะคะ แต่หลังจากนี้พี่อย่าเอา พ่อแม่ของอุ้ม ครอบครัวของอุ้มมาพูดถึงแบบนี้ต่อหน้าทุกคนได้มั้ยคะ มันเป็นเรื่องละเอียดอ่อนทีตัวอุ้มเองรับไม่ไหวค่ะ ถ้าพี่มีอะไรจะว่าหรือด่าอุ้ม ด่ามาที่อุ้มได้เต็มที่เลยนะคะ แต่พอเป็นครอบครัวอุ้ม อุ้มเจ็บมากๆค่ะ อุ้มพยายามทำทุกวันนี้เพื่อครอบครัวค่ะ พ่อแม่อุ้มอาจจะไม่ใช่หมอ ข้าราชการ เป็นแค่ชาวบ้านเกษตรกร แต่พวกท่านเลี้ยงอุ้มมาอย่างดีมากๆเลยค่ะ อุ้มไม่อยากให้พวกท่านต้องถูกใครต่อใครว่า เพราะท่านทำหน้าที่พ่อและแม่ส่งเสียเลี้ยงดูอุ้มมาเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นการกินอยู่อาศัยรวมถึงเรื่องการศึกษาและเรื่องนี้ มันกระทบกับจิตใจทุกคนในครอบครัว อุ้มทั้งหมดค่ะ”

ล่าสุด ณวัฒน์ ก็ไปแคปโพสต์ที่มีคนโพสต์ถึงประเด็นเรื่องกระบวนการทำงาน มาอัพสตอรี่อินสตาร์แกรม ที่ระบุว่า“สิ่งหนึ่งที่อยากให้คุณณวัฒน์ปรับกระบวนการทำงานให้มีขั้นตอนมีระบบมากขึ้น อย่างเช่นกรณีนี้ควรเป็นฝ่ายดูแลศิลปินหรือฝ่ายกฎหมายออกหนังสือแจ้งเตือนไม่อนุมัติการเปลี่ยนชื่อซึ้งจะส่งผลถึงการทำงานและผู้จ้างงานให้แกเป็นด่านสุดท้ายดีกว่า“
ด้าน ณวัฒน์ ก็ได้ใส่แคปชั่นตอบกลับลงบนสตอรี่นี้อีกด้วยว่า ”ได้ทำอยู่ แต่คนนี้เค้าทำทุกอย่างเสร็จแล้วโดยที่ไม่บอกแถมประกาศเองต่อสาธารณะให้ทุกคนบนองค์กรมารู้ที่หลัง“

ดูเหมือนว่าเรื่องนี้จะเป็นดราม่าที่รุนแรง สุดท้ายจะจบลงอย่างไร ต้องติดตามกันต่อไปค่ะ