
จากกรณีข่าวที่ นางแบบชื่อดัง ลูกหมี รัศมี ออกมาแจ้งความเอาผิด ดารา ป. โดยเธอบอกว่า ดารา ป. ยืมเงินไป 2 ล้าน และไม่มีวี่แววว่าจะได้คืน แถมยังจ่ายเช็คเด้งอีกด้วย

ซึ่งหวยก็ไปตกที่ ปู มัณฑนา หิมะทองคำ อดีตดาราดัง ซึ่งวันนี้เจ้าตัว เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนที่ สน.ทองหล่อ ตามหมายเรียกเพื่อรับทราบข้อกล่าวหา ฉ้อโกง หลังจากที่ ลูกหมี ได้เข้าแจ้งความไว้ งานนี้ ลูกหมี ก็เดินทางเข้ามาที่ สน.ทงอหล่อด้วยเช่นกัน และได้เปิดใจก่อนว่า
“ก่อนหน้านี้ทาง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกหมายเรียกคู่กรณีครั้งที่ 2 แต่คู่กรณีก็ได้ขอเลื่อนการเจรจาไกล่เกลี่ยมาเป็นวันที่ 4 ก.ค. โดยให้เหตุผลว่าป่วย ถ้าวันนี้คู่กรณีมาเจอกันก็ถือว่าเป็นการพบกันครั้งแรก เมื่อวาน คู่กรณีบอกว่าวันนี้จะมีการแถลงข่าว ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น ก็จะรอดูว่าจะมีการแถลงในเรื่องอะไรบ้าง ส่วนที่มีการออกมาพูดว่าคดีพลิก ก็ไม่แน่ใจว่าคดีจะพลิกยังไง เพราะเรื่องมันก็มีอยู่ว่า ลูกหมี ให้ยืมเงินจำนวน 2 ล้านบาท แล้วเขาคืนเงินมาแค่นั้นก็จบ แต่ดูจากการให้หมายข่าว ทำไมดูมีความยุ่งยากจัง แล้วฝ่ายคู่กรณีกลับจะแจ้งความกลับลูกหมีด้วย ยืนยันว่าไม่เคยให้ใครยืมเงินและไม่เคยปล่อยเงินกู้ ดังนั้นเรื่องการให้ดอกเบี้ยเท่าไหร่ ลูกหมี ไม่รับรู้เพราะฝั่งคนยืมเป็นคนจัดการให้ ซึ่งเงิน 2 ล้านที่เป็นยอดเข้ามาแจ้งความนั้นเป็นเพียงเงินต้นเท่านั้น โดยมีหลักฐานเป็นแชทกันเป็นแชทที่มีการคุยกันตั้งแต่ต้น ตั้งแต่ 1 ตุลาคม ค่ะ ได้เห็นการใช้ชีวิตของเขาแล้วคิดว่า มีการใช้จ่ายอย่างสบายใจ เลยคิดว่า แค่การนำเงินส่วนหนึ่งมาใช้หนี้ โดยไม่ต้องจ้างทนายมันง่ายกว่าที่เขาตัดสินใจทำอะไรแบบนี้ ถ้าในวันนี้มีการแจ้งความกลับ กับลูกหมี ก็ไม่ได้รู้สึกแปลกใจอะไร แต่สิ่งที่ต้องการคือ อยากให้คู่กรณีไกล่เกลี่ย และอยากให้เขาคืนเงินมากกว่า ”

ทั้งนี้ทาง ลิลลี่ เหงียน ดารานักแสดงชาวเวียดนาม ซึ่งเป็นหนึ่งในคู่กรณีของอดีตนางเอก ป. ที่ได้ให้ยืมเงินไปจำนวน 600,000 บาท เดินทางมาที่ สน.ทองหล่อ เช่นกัน
กระทั่งเวลา 14.00 น. ปู มัณฑนา หิมะทองคำ ได้สวมชุดสีแดง มาพร้อมกับสามี ภักดีหาญ หิมะทองคำ และ ทนายประมาณ เลืองวัฒนะวนิช ได้เดินทางมาที่ สน.ทองหล่อ เพื่อเจรจาไกล่เกลี่ย โดยทนายประมาณได้บอกว่า วันนี้มาตามนัดไกล่เกลี่ยที่ได้มีการนัดหมายไว้ซึ่ง ยืนยันว่าหนี้มีเท่าไหร่จ่ายหมด ไม่มีไม่จ่าย ไม่มีหรอก ที่จะไม่จ่าย
ด้าน ปู มัณฑนา ก็บอกว่าไม่ได้กังวลอะไร และเมื่อถูกสื่อถามว่า เรื่องนี้ส่งผลกระทบกับครอบครัวหรือไม่ เจ้าตัวก็ส่ายหน้า
นอกจากนี้ ทนายเดชา และ ทนายกุ้ง ก็เปิดใจก่อนที่จะเข้าไปไกล่เกลี่ยว่า “วันนี้ มาเป็นกำลังใจให้กับคุณลูกหมี หลักการไม่มีอะไรมาก เป็นหนี้ ก็แค่ต้องใช้หนี้ ไม่ใช่มาฟ้องกลับ เอาจริงๆตนรู้จักกับคนที่อยู่ในคดีนี้ทั้งหมด วันนี้น่าจะมีข่าวดี ตกลงกันได้ และไม่คิดว่าทนายประมาณ จะพาคุณปู มาดำเนินกับคุณลูกหมี ส่วนในเรื่องดอกเบี้ยที่มีข่าวออกมาก่อนหน้านี้ว่า คิดดอกเบี้ย1,200% นั้น ไม่ได้หนักใจอะไรเลยเรามีหลักฐาน ทั้งแชทไลน์ที่มีการพูดคุย คลิปเสียง และสลิปหลักฐานการโอนเงิน กังวลอยู่เรื่องเดียว คือกลัวเขาไม่ยอมจ่าย ส่วนเรื่องคดีพลิก คงไม่มีกลัวจะเป็นการพลิกลิ้นมากกว่า ยืนยันว่า ดอกเบี้ยเป็นสิ่งที่อีกฝ่ายเสนอเอง”

ต่อมา ทนายประมาณ และ ปู ได้ลงมาให้สื่อสัมภาษณ์อีกครั้ง เผยว่า สิ่งที่ลูกหมีไปออกสื่อ พูดมาทั้งหมดไม่เป็นความจริง ตนมีหลักฐานการโอนเงิน แชทคุย ยืนยันว่า ปู น่าสงสาร ถูกทำลายชื่อเสียง ซึ่ง ทนาย ได้นำหลักฐาน มาโชว์ต่อหน้านักข่าว ว่า ปู มีการกู้ยืมเงิน ลูกหมี และลูกหมี ก็ได้รับดอกเบี้ย ทนายมองว่า ดอกเบี้ยโหดจนเกินไป เรื่องเช็ค ยืนยันว่า เรียกว่าเป็นเช็คค้ำประกัน ไม่ใช่ความผิดทางอาญา แทนที่จะทำโนติสบอกเขา ไม่ใช่ไปแจ้งความดำเนินคดีอาญาที่โรงพัก ไม่ใช่ไปแถลงข่าว เดินสายออกรายการแบบนี้ ทำให้ ปู เสื่อมเสียชื่อเสียง ส่วนตัวมองว่า ปู ไม่ได้รับความเป็นธรรม เลยต้องออกหน้ามาชี้แจง เรื่องเงินไม่มีปัญหา แค่คุณจะเยียวยาครอบครัวเขายังไง ปู ไม่กล้าออกจากบ้าน ออกไปก็โดนนินทา ตัวเลขที่ไกล่เกลี่ยที่บอกเขาไปคือ ล้านสี่ เงินที่จะจ่าย ไม่มีปัญหา ปัญหาอยู่ที่ว่า ชื่อเสียงที่เขาเสียไปคุณจะชดเชยยังไง คุณไม่เอาความจริงมาพูด กลายเป็นว่า คุณปู เป็น อาชญากร เสียหายมาก เหลือคดีหมิ่นประมาท ผมก็จัดการไปตามกฎหมายที่คุณทำลายชื่อเสียงเขา
ด้าน หาญ ได้เปิดใจว่า คนเรามีหนี้มันต้องใช้อยู่แล้ว แต่วงเงินหนี้ 2 ล้านมันไม่ถูกต้องตามกฎหมายอยู่แล้ว ตนเองก็เพิ่งทราบเรื่องนี้ คุณจะหยิบเรื่องดีๆมาพูดให้ตัวเองดูดี เขาพูดเลยว่าไม่มีดอกเบี้ย ผ่านไป 2 ชม. 2 พัน ถ้าคุณบอกว่าเอาเงินตรงนี้ไปลงทุน บอกอาชีพหน่อยว่ามันคืออะไร ผมจะลงทุนบ้าง ถ้าผมได้ ชม. 2 พัน ก็มันไม่มีอาชีพหรือธุรกิจแบบนี้ มันคือดอกเบี้ยอย่างเห็นได้ชัด คุณหิวแสงหรือเปล่าไม่ทราบ รีบออกไปแถลง เขาก็บอกเองว่าไม่มีงานทำ 20 ปีแล้ว ไม่มีใครจ้าง ทำไมไม่ดูตัวเอง รุ่นพี่ รุ่นน้องของผม ก็เป็นดารา ยังมีงานกันทุกคน คุณต้องดูตัวเองไหมว่าเป็นคนแบบไหน หรือ อย่างไร ผู้ใหญ่ถึงไม่จ้าง อันนี้ผมไม่ทราบ เรื่องนี้กระทบกับลูกผมมาก ถ้าวันนี้ภรรยาผมเกิดไม่มีงาน เพราะลูกหมีไปพูดความเท็จ จะรับผิดชอบยังไง ตระกูลผมเสียหาย ผมเตรียมฟ้องเกรียนคีย์บอร์ดด้วย ไล่เป็นรายตัวเลย
ปู ได้เปิดใจ พูดถึงจุดเริ่มต้นที่คุยกับลูกหมี ซึ่งทางลูกหมีก็มีปรึกษาหลายๆเรื่อง และบอกว่าได้ปล่อยเงินกู้ ตนเองมีเพื่อนทำธุรกิจหลายอย่าง ลูกหมีไม่อยากคุยตรงกับเพื่อน ขอคุยกับปู และส่งดอกกับลูกหมี 2 คน เพื่อความสบายใจเขาขอเช็คพี่ปูค้ำประกันเอาไว้ เขาให้เซ็นสัญญาเงินกู้ เป็นกระดาษเปล่า เลยถามว่าขอเขียนดอกเบี้ยไปได้ไหม เขาบอกว่าไม่ต้อง เดี๋ยวผิดกฎหมาย ขาดส่งดอกไป 1 วัน เขาก็แจ้งความพี่ปู เรื่องเงินมีพร้อมคืน แต่สิ่งที่เขาทำกับครอบครัวเรา อันนี้ยังไม่ได้คุยกัน จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุดค่ะ เรื่องเงินต้องใช้อยู่แล้ว เวรกรรมมีจริงค่ะ

ด้านทนาย เปิดใจเพิ่งเติมว่า สรุปก็ให้พี่ปูเป็นลูกหนี้ก็ได้ เพราะสุดท้ายพี่ปูก็ต้องรับผิดชอบ เรื่องดอกเบี้ยเขาเป็นคนเรียก เรามีหลักฐานแชททุกอย่าง เรื่องที่พี่ปูทำธุรกิจกับเพื่อน ก็ส่งหลักฐานไปหมดแล้ว
ต่อมา ทนายเดชา ได้ออกมาเปิดใจว่า ทางเขาเสนอล้านสี่ แต่เราจะเอาล้านหก ยังไม่จบ ตามสัญญากู้ยืมเงิน กู้ 2 ล้าน ดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี ไม่ใช่ 1800 ต่อปี คู่กรณีบอกว่าเป็นเช็คค้ำประกัน ไม่ใช่ครับ ในสัญญาบอกเลยว่า เช็คชำระหนี้เงินกู้ คุณปูเป็นคนเสนอดอกเบี้ยทุกครั้ง
ลูกหมียืนยันว่า ไม่ได้ส่งกระดาษเปล่าให้เซ็น ไม่ได้สนใจที่เขาบอกเราเรื่องธุรกิจจริง เพราะมันเป็นเรื่องของเขา โอนไปเป็นชื่อของเขา ก็โอนกลับมาจากบัญชีเขา เรื่องธุรกิจไม่รู้เลยมันเรื่องของเขา เรื่องที่เขาจะฟ้อง ก็เอาเป็นเรื่องๆไป จ่ายคืนมาก่อน ดอกเบี้ยทุกครั้งเป็นข้อเสนอจากเขา ลูกหมีก็มีงานทำไม่เคยไปกราบขอร้องเขา ค่ะเวรกรรมมีจริงแน่นอน ใครทำอะไรกับใครไว้ก็ตามรับผิดชอบเช่นกันค่ะ ในข่าวไม่ได้พูดเรื่องนามสกุล แค่พูดในสิ่งที่ลูกหมีเจอ

เอาเป็นว่าเรื่องของคดีคงต้องติดตามกันต่อไปว่า สุดท้ายแล้วทั้ง 2 ฝ่ายจะตกลงกันอย่างไร หากมีอะไรเพิ่มเติม แอดจะรายงานให้ทราบต่อไปค่ะ