เลิกได้เลิก! ษา วรรณษา ควง อาท รณชัย เล่ามหากาพย์ โดนโกงหลักแสน ต้องยืมเงินเก็บลูกมาใช้

เลิกได้เลิก! ษา วรรณษา ควง อาท รณชัย เล่ามหากาพย์ โดนโกงหลักแสน ลำบากจนต้องยืมเงินเก็บลูกมาใช้ สุดท้าย! ขอใช้กฎหมายจัดการ

เป็นอีกหนึ่งดาราสาวที่อยู่ในวงการมาอย่างยาวนาน สำหรับ ษา วรรณษา ล่าสุดเธอก็ควงแฟนหนุ่ม อาท รณชัย เล่ามหากาพย์บทใหม่ คดีโกงเงินน้ำพริกกว่าครึ่งล้าน เผย เคยคิดเคลียร์เองจนเกือบมีเรื่อง พาเพื่อนไปรุมกระทืบ ตอนนี้เหมือนถูกเนรคุณ ทั้งเจ็บใจ ทั้งแค้น บอกนี่คือวิกฤติหนักสุดของชีวิตแล้ว

Cr คุยแซ่บโชว์

ซึ่งเธอก็ได้เปิดใจผ่านรายการ คุยแซ่บshow กับพิธีกรดัง พีเค ปิยะวัฒน์ และ เบนซ์ พรชิตา ถึงปัญหาชีวิต การโดนโกงและแก้ไขปัญหาต่าง ๆ

มหากาพย์โกงเงินน้ำพริก มันคืออะไร?
ษา : มันไม่ได้เป็นการโกงเงินน้ำพริกโดยตรง มันเป็นในเรื่องของเราให้เขาไปจัดการในเรื่องของน้ำพริก คือเราจะออกบูทแต่เราติดถ่ายละคร อาทก็ต้องไปกับษาด้วย ก็ไม่มีใครวิ่งเรื่องนี้ คือเอาเงินให้เขาไปแล้วให้เขาไปวิ่งแทน

เราเชื่อใจเขา?
อาท : จะบอกอย่างนั้นก็ได้ เราแค่มีความหวังดีว่าเขาไม่มีอาชีพ ในเมื่อเขามารู้จักกับเรา เราก็อยากให้เขามีอาชีพ ในเมื่อคุณไม่มีเงินลงทุน เราพอมี เราลงให้แล้วคุณมาช่วยกันขาย
ษา : แต่เราทักท้วงแล้วนะว่าให้เงินเลยเหรอ 2 แสน

2 แสนนี่ทำอะไรบ้าง?
อาท : ก็จะมีซื้ออุปกรณ์ ค่าบูท ค่าน้ำพริกต่างๆ
ษา : มีการขายต่อไปประมาณ 3 งาน แต่จริงๆ ในทุกๆ งาน พอจบงานปุ๊บ มันต้องมาเคลียร์กันว่ามีรายได้เท่าไหร่ กำไรไหม ขาดทุนไหม ไม่มี จนไปงานที่3 ทักถาม เพราะว่าษาทำบัญชีกับแม่ ขอรายได้บ้าง มันมีแต่รายจ่ายหมดเลย
อาท : คืออยากรู้ว่าตอนนี้เงินเราเหลือเท่าไหร่แล้ว เพื่อที่เราจะบริหารในครั้งต่อๆ ไป แต่กลายเป็นว่าทวงถามไปเราไม่ได้คำตอบกลับมา ณ วันนั้น
ษา : แต่พอผ่านไปสัก 1-2 อาทิตย์ เขามีรายการมาว่ารายรับเท่านี้ รายจ่ายเท่านี้ เหลือเงินทั้งหมดเท่านี้ เราก็เห็นมันไม่ใช่ เพราะเราทำบัญชีมันไม่ตรงกับเรา ษาเลยคุยกับอาท เอาอย่างนี้ษาขอเรียกเงินที่เหลืออยู่ทั้งหมดกลับมา เดี๋ยวจะบริหารเอง เขาโอนกลับมาให้ 10,200 บาท

ตอนนั้นษารู้แล้วว่าโดนโกง?
ษา : รู้ค่ะ
อาท : จริงๆ มีคนข้างนอก เขาโทรมาหาอาท มาทักท้วงว่าไว้ใจได้ยังไง แน่ใจเหรอ สองผัว เมีย นี่ไม่ธรรมดานะ แต่เรามีความรู้สึกว่าเขาอาจจะไม่ดีกับคนอื่น แต่อาจจะดีกับเราก็ได้
ษา : เราสองคนคิดว่าเอาอยู่ มันเป็นการช่วยเหลือแบบพิเศษด้วย เพราะว่าเราเข้าไปในช่วงที่ครอบครัวเขาแย่ แม่ไม่สบายจนกระทั่งคุณแม่เสีย เราเป็นอาสามูลนิธิก็ไปแต่งหน้าศพฟรี อยู่จนเผา มันเห็นกันขนาดนี้มันไม่น่าทำไง
อาท : คือมันช่วยตั้งแต่ค่ารักษาพยาบาลไง

ภาษาชาวบ้านคือคนนี้เนรคุณ เราใช้คำนี้ได้ไหม?
ษา : ใช้หลายรอบแล้วนะ
อาท : จริงๆ เราไม่อยากจะใช้ด้วยซ้ำ เพราะเรารู้สึกว่าเขาเป็นผู้ใหญ่กว่าเรา แต่ผมถามทุกคน คนที่ดูอยู่ตอนนี้ในเมื่อเรามีความจริงใจ เราช่วยใครสักคนด้วยความบริสุทธิ์ใจโดยไม่ได้หวังอะไรตอบแทน แล้วจู่ๆ คุณเจอแบบเรา คุณจะเรียกคนนี้ว่ายังไง

เสียดายหรือเสียใจมากกว่า?
อาท : มันเสียใจมากกว่า เสียใจที่ว่าเราให้ใจขนาดนี้ แล้วเราให้เขา เราไม่ได้คิดเล็กคิดน้อย โอเคแม่คุณกำลังจะเข้าโรงพยาบาลใช่ไหม ขาดเงินเท่าไหร่ โทรมาพี่อาทครับ ผมขอรักษาแม่ทีละ 40,000-30,000-50,000 บาท เดี๋ยวลูกไม่มีเงินไปโรงเรียน

2 แสนค่าน้ำพริก แล้วแม่อีกเท่าไหร่?
อาท : เป็นแสนครับ

ณ จุดนี้เราใจแข็งขึ้นหรือยัง?
อาท : แข็งมาก ที่แข็งไม่ใช่เราเป็นคนนิสัยไม่ดี หรือว่าเราจะใจร้ายกับใคร แต่เราแค่รู้สึกว่า เราหันมามองครอบครัวเรา เงินที่มันสูญเสียไปมันคือเงินของครอบครัวเรา มันอาจจะไม่มากมาย แต่ถ้าเงินก้อนนั้นมาใช้ในครอบครัวเรามีความสุข มันมีอะไรที่เราสามารถให้กับครอบครัวเราได้มากมายเลย เราโดนอย่างนี้ด้วยมันเลยเสียดาย แล้วเรายังโดนเขาด่าเรากลับมาอีก มันก็เลยยิ่งไปกันใหญ่เลย

สนิทขนาดนี้ พอเกิดเรื่องเราโทรเคลียร์กันไหม?
ษา : หลังจากที่รู้ว่ามีการยักยอกแล้วโกงกัน เรารู้แล้วว่าเดี๋ยวเขาจะมาที่นี่ เราทำงานอยู่ที่นี่ เขาก็มา มาด้วยคอนเนกชั่นที่เป็นของเรา แล้วเขาก็มาของานทำอยู่ที่นั่น แต่กลายเป็นว่าแทนที่จะคุยกับเรา อยู่ในรถตั้งแต่บ่ายสามจนถึงเที่ยงคืน ผู้ชายไม่ลงมา ให้ผู้หญิงลงมา ผู้ชายอยู่ในรถไม่ลงมาเลย แล้วไป 7 วันติดกัน

มีจุดไหนที่เราบอกว่าไม่ไหวแล้ว?
ษา : ไม่ไหวแล้วมันเป็นเรื่องของเงิน 2 แสนมากกว่า เพราเราบอกว่าเราจะลงทุน แต่ต้องดูว่าลงทุนอะไรที่มันแน่นอน ชัดเจน แล้วมันได้กลับมาจริงๆ ปรากฏว่าพอมันเป็นแบบนี้เราเลยบอกว่าเงินก้อนนี้ แล้วลูกเราจะเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว มันต้องใช้เงินเท่าไหร่ ปรากฏเงินนี่หายไป โกรธเลย คือมันเกิดอะไรขึ้น แล้วมันทำให้ระบบแผนของเราทั้งหมดพัง

สำหรับครอบครัวเราเงินสำคัญขนาดไหน?
ษา : จริงๆ เงินไม่ได้สำคัญสำหร้บษา เพราะษามีความรู้สึกว่าษามีความสามาถที่หาเงินได้คลอด แต่เงินของเราที่เราหามาด้วยน้ำพัก น้ำแรง เจอคนแบบนี้เอาไป เราไม่โอเค

เคยโกรธจนอยากจะซัดเลยไหม?
อาท : ต้องบอกว่ามันเป็นสิ่งที่ไม่ดีหรอก แต่อยู่ๆ คู่กรณีของคุณเดินมาบอกว่า ภรรยาผมใช้เงินของคุณอาทหมดแล้ว แต่มันทำอะไรไม่ได้ มันอยู่ในห้าง พูดตรงๆ ตอนนั้นอยากจะกระโดดถีบหน้ามันมาก แต่ผมเก็บอาการ มันต้องเข้าไปในร้านอาหาร ต้องไปนั่งกินข้าวกันต่อ เพราะต้องคุยงาน รู้เลยยิ้มทั้งน้ำตาเป็นยังไง จะบอกเขาเลยก็ไม่ได้ เพราะเรารู้ว่าเขาเป็นคนใจร้อน จนกระทั่งเรากลับบ้านตอนกลางคืน บอกเขาว่าษาเช็กเงินน้ำพริกนะ เป็นยังไงบ้าง รายชะเอียดลองถามทางนั้นเขาดู ไม่กล้าบอกตรงๆ
ษา : แล้วมันเป็นจังหวะที่เขาขึ้นห้องไปแล้ว แต่เราต้องมาเคลียร์ในเรื่องบัญชีกับแม่ นั่งกันอยู่สองคน เขาคงได้ยินเสียง แม่บอกมันไม่ตรง มันไม่ได้ลูก แม่ปิดไม่ได้ เสียงคงขึ้นไป ทางนี้เลยรู้สึกผิด เอายังไงดีก็เลยลงมาบอก พอบอกแค่นั้น แม่ปิด ไม่ทำแล้ว เพราะมันทำไม่ได้

มันมีโมเมนต์ที่จะไกล่เกลี่ยได้ไหม?
อาท : เอาจริงๆ นะ พอเขามาบอกเราปุ๊บ มันไม่ใช่ว่าเราคิดเครียดแค้น แต่มันจะมีข้อมูลต่อจากนั้น ทั้งผัวทั้งเมีย ส่งข้อความมาหาผมมีหลักฐานหมดเลย มาขอโทษ ขอโอกาสนู้นนี่นั่น เดี๋ยวจะพยายามหาเงินมาใช้ทั้งหมดที่เอาไป แต่คำนี้ผมได้ยินมาปีกว่าแล้ว ตั้งแต่ยืมเงินบาทแรกเขาก็พูดคำนี้ แต่ไม่เคยได้กลับมา ซึ่งเรารู้ชะตา เราต้องไม่ได้คืนแน่ แต่เราจะทำยังไงปกป้องศักดิ์ศรีเรา ครอบครัวเรา เราเลยให้โอกาสที่จะให้คุณไปหาเงิน ผมยังไม่ได้อะไรเลยนะ ตัวสามีเขาโทรมาหาผม เล่าสาระพัดที่เขาจะว่าภรรยาเขาว่าเอาเงินไปทำอย่างนู้น อย่างนี้ โทษที่ภรรยาหมดเลย เราก็รับฟัง ผมบอกพี่ไม่เป็นไร ผมให้โอกาสพี่ที่จะหาเงินมาคืน แต่ผมตัดเขาออกจากวงจรการขายน้ำพริก
ษา : คือไม่ให้เขาถือเงินอะไรทั้งสิ้น
อาท : เขาก็โกรธตรงนั้น
ษา : แล้วเอาคนขอฃเราผนึกเข้าไป

เขาโกรธได้ไง?
ษา : เขาโกรธไม่เท่าไหร่ เขาไปพูดกับคนอื่นว่า ไม่รู้คุณษาโกรธอะไรผม
อาท : ผมไม่รู้ว่าผมทำผิดอะไร แล้วที่มันทำให้โกรธมากกว่านั้น แล้วรู้สึกว่าคนนี้ผมไว้ไม่ได้แล้ว คือคุณไปพูดกับคนอื่น แต่ผมโชคดีเรามีคนที่เรารัก มีพี่ๆ เพื่อนๆ ที่เขารักเราอยู่ คุณไปโทรหาเขา ไปใส่ไฟเราให้เราเสียหาย แต่บังเอิญพี่เขาอัดเสียงไว้ให้ เราเลยรู้เลยว่า มึงเหี้_จริงๆ เขาบอกว่าผมไปบอกกับคุณอาทแล้วว่าผมเอาเงินตรงนี้ไปใช้ คุณอาทรับรู้เท่ากับผมไม่ผิด แล้วมันเป็นเงินกองกลาง

สุดท้ายเลยฟ้องไหม?
อาท : เราแจ้งความครับ
ษา : ตอนแรกเราไม่ฟ้องอะไรเลย เราไม่อยากมีเรื่อง ไม่อยากขึ้นศาล เพราะมันเสียเวลา สุดท้ายแล้วพอเราไปให้ปากคำ เราก็ให้ในความเป็นจริง เพราะเราเป็นคนทำบัญชี เราก็ให้ทุกอย่างไป เขาก็เรียกทางนู้นมา สรุปไกล่เกลี่ยไหม ตำรวจก็น่ารักมาก เขาบอกว่าเดี๋ยวผมจะพยายามให้เขาไกล่เกลี่ยก่อน
อาท : เอาจริงๆ นะ ผมไม่ได้เครียดแค้นอะไรขนาดนั้น ผมพร้อมที่จะให้เขามาไกล่เกลี่ยกับเรา เราไม่รู้หรอกว่าเขาจะศักดิ์ศรีอะไรจากไหน แต่เรารู้แค่ว่าทำไมคุณไม่คุยกับเรา คุณมีไลน์เรา มีเบอร์เรา คุณอยากจบจริงๆ คุณโทรหาเราห็ได้ไง การที่คุณจะเอาเงินไปจ้างทนาย เพิ่อที่จะสู้คดีกับเรา คุณเอาเงินตรงนั้นมาให้เราจบกว่าเยอะเลย เผลอๆ นะ ผมเอาแค่นี้แหละ

ถ้าจบคุยแซ่บshow วันนี้เขาบอกว่าคุณอาท คุณษา ผมมีแค่ 50,000 ?
อาท : เขากล้าคุยกับผมไหม
ษา : ไม่ค่ะ นี่ใจดีขนาดไหน ค่าเสียหายเอย ค่าเสียเวลา เครดิตของเรา นี่ยังไม่ได้นับนะ

ตำรวจเรียกเขามาหรือยัง?
อาท : เรียกเขามารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว 2 รอบ
ษา : เขามาล่าสุดเขาบอกว่าตัวเลขที่ษาไปแจ้งไว้มันมากไป ผมมีเอกสาร เดี๋ยวเจอกันที่ศาล
อาท : แล้วผมถามว่าในความเป็นจริง ข้อความที่คุณมาขอโทษ แล้วบอกว่าคุณจะคืนทุกบาท ถ้าคุณไม่เอาเงินผมไป คุณจะส่งแบบนี้มาทำไม ถึงคุณจะลบออกไปแล้ว แต่ผมแคปไว้ทั้งหมด แล้วผมส่งให้ตำรวจหมดแล้ว คุณยอมรับตรงๆ ดีกว่าแบบแมนๆ มันง่ายกว่าเยอะ
ษา : จริงๆ มันเป็นเรื่องปกติในการยืมเงิน แต่สิ่งที่ไม่ปกติคือคุณทำแบบนี้ แต่คุณไปเล่าอีกแบบ จนทำให้บางทีงานการเราเสียหาย

เสียดายเงินหรือว่าโกรธเรื่องการดิสเครดิตมากกว่ากัน?
ษา : ดิตเครดิตมันเสียหายมากกว่า เพราะคนอื่นเยาไม่ได้รู้จักเรา มีบางส่วนอาจจะเชื่อและเกลียดเราไปแล้ว

เขาพูดถึงเราว่ายังไงบ้าง?
อาท : จากการที่เขายักยอกเงินเรา โกงเงินเรา กลายเป็นว่าเราไปแกล้งเขา ใส่ร้ายเขานู้นนี่นั่น เราไปแย่งงานเขา

เขาสามารถฟ้องกลับเราได้ไหม?
ษา : ไม่แน่ใจเหมือนกัน ทุกวันนี้เราบอกว่าให้เป็นขั้นตอนของทางกฎหมาย เพราะเราได้ดำเนินคดีไปแล้ว แต่ถ้าเขาจะคุยอะไรกับเราก็ให้เขาคุยให้เรียบร้อย คุณจะฟ้องกลับอะไรถ้าคุณมีหลักฐานที่มากพอว่าเราทำ เราก็โอเค มาดูกันได้

อยากให้จบแบบไหน?
ษา : จริงๆ ไม่ต้องขอโทษก็ได้นะ การที่คุณเอาเงิน 2 แสนมานั่นหมายความว่า คุณสามารถรักษาศักดิ์ศรีของคุณเอาไว้ได้ คุณทำอะไรไว้ คุณก็รีบผิดชอบไป แค่นั้นเลย ษาไม่ได้อยากได้อะไรเลย แต่หยุดในการกระทำทุกๆ อย่างที่มันทำให้ทุกคนเดือดร้อน แล้วทุกคนเข้าใจผิด
อาท : ในเมื่อคุณเอาเงินเราไป คุณคืนเงินก็จบแล้ว เอาจริงนะ ผมไม่ได้ต้องการดอก ต้องการอะไรอย่างที่คุณบอกผมไว้ เดี๋ยวผมจะให้ดอกนู้น นี่นั่น ผมไม่ต้องการ คุณคืนเท่าที่คุณเอาของผมไป จบ

สมมติว่าคืนแล้วไม่คบกันอีก?
ษา : โน
อาท : ไม่คบอยู่แล้ว ไม่กล้าคบ

ถ้าไม่คืนคุกไหม?
อาท : ก็ให้เป็นไปตามกฎหมาย แล้วเราบอกเลยนะ เราไม่กลั่นแกล้งคุณใดๆ ทั้งสิ้น เราจะให้ทางกฎหมายเป็นผู้ดำเนินคดีกับคุณโดย 1.เราจะใช้ความเป็นจริงเท่านั้นในการพูด เราเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม

พอเกิดเรื่องนี้ขึ้นมีผู้เสียหายหลายคน?
ษา : เรามีเพื่อนเพิ่ม ไม่ว่าทั้งทางอินบ็อกซ์ เดินๆ ไปแล้วเจอกัน หรือเขามาที่บูทย้ำพริกก็มี เขามาบอกว่าเขาคือหนึ่งในนั้นเหมือนกัน ประมาณ 3-4 คน แต่เราไม่รู้ว่าจำนวนเขาเท่าไหร่

เพราะเราขายน้ำพริกดีมาก เราเอาเรื่องนี้มาปั่นกระแส?
ษา : ษาว่ามันเป็นเรื่องปกติ มันเป็นจังหวะชีวิตพอดี แต่จริงๆ มันไม่ได้เป็นการปั่นนะ น้ำพริกของป้าแว่นเป็นน้ำพริกที่ทุกคนรู้จักอยู่แล้ว ไม่ได้ปั่น แต่ก็ขอบคุณค่ะ เพราะว่ากำลังใจที่ส่งให้เราที่บูทเยอะมาก กลายเป็นมิตรภาพดีๆ

เหตุการณ์ที่ผ่านมาเป็นจุดวัดใจจริงไหม?
ษา : มันก็วัดใจ ถามว่าโกรธไหมที่เขาเอาเงินไปให้ คือเราโกรธตั้งแต่ประโยคที่เขาบอกจะเอาไปแล้ว แต่ว่าเราเคารพในการตัดสินใจของเขา เขาบอกว่าเชื่อใจได้ ก็โอเคไง แต่พอมันเกิดเหตุการณ์เงินหายจริงๆ แล้ว มันเอากลับมาไม่ได้ด้วย แล้วเขาก็ไม่มีปัญญาที่จะให้เราด้วย ก็เลยมองหน้ากันว่าเอาไงต่อ แล้วษาก็บอกว่า เลิกนะ เลิกใจดี คนดีมันมีอยู่บนโลกใบนี้ แต่ว่าคนที่มาแบบนี้มันไม่ใช่ เชื่อบ้าง เขาชอบบอกษาว่าษามองโลกในแง่ร้าย มองคนแบบใจร้ายไป
อาท : ตอนนี้เลิกแล้ว เรามาจับมือแล้วมานั่งคุยกัน ต่อไปนี้เราจะไม่ใจดีแล้วนะ ใครจะมองว่าเราร้าย เรานิสัยไม่ดี เราเห็นแก่ตัว เราคบไม่ได้แล้วแต่ แต่วันนี้เราจะไม่เอาเงินในกระเป๋าเราไปให้ใครอีกแล้ว

8 ปีประครองรักกันยังไง?
ษา : เราใช้หลักเข้าใจ ยอมรับ แล้วก็อดทน คนเรามันมาคนละครอบครัว การเลี้ยงดูคนละแบบ ในบางอย่างเราอาจจะไม่ชอบ เราก็ต้องอดทน

ภาพจากIG wannasa_thong

โดนโกงจนลำบาก ต้องขอยืมเงินเก็บลูกมาใช้ เรื่องของกฎหมายก็คงต้องให้เป็นไปตามขั้นตอน ส่วนเรื่องของความรู้สึกที่เสียไป ทั้งคู่ยืนยันว่ายังไงก็จะไม่กลับไปคบอีกแน่นอน