ต้องสู้จนกว่าชนะ “ เมย์ ณัฐพัชร ” กับความฝันในวัยเด็ก ที่อยากจะเป็นนางงาม วันนี้ ทำสำเร็จแล้ว

เส้นทางชีวิตบนเวทีนางงาม “ เมย์ ณัฐพัชร ” นางสาวไทยประจำปี 2563 กว่ามงฯจะลง ไม่ใช่เรื่องง่าย

“ เมย์ – ณัฐพัชร พงษ์ประพันธ์ ” เจ้าของตำแหน่ง นางสาวไทยประจำปี 2563 คนล่าสุด เธอเป็นเพียงแค่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งที่มีความฝัน เหมือนกับผู้หญิงคนอื่นๆ นั้นคือการได้สวมมงกุฎนางงาม ยืนอย่างสง่างามท่ามกลางแสงไฟที่สาดส่องอยู่บนเวที แต่นอกเหนือจากนั้นคือการได้เป็นต้นแบบและแรงบันดาลใจให้กับผู้หญิงหลายๆคน และได้ตอบแทนสังคมให้สมศักดิ์ศรีกับตำแหน่งที่เธอได้รับมา แต่กว่าที่เธอจะมาถึงฝันและปิดม่านการเป็นนางงามได้สำเร็จ เธอเองก็ได้ลงสนามมาแล้วมากมาย หลายคนคงอยากรู้ว่า กว่าผู้หญิงหนึ่งคนจะมาคว้ามงกุฎนางงามระดับประเทศได้เธอนั้นต้องผ่านอะไรมาบ้าง

ภาพจากอีจัน
เส้นทางสู่ความสำเร็จของสาวงามจากเมืองนครปฐม เมย์ ณัฐพัชร พงษ์ประพันธ์ อายุ 27 ปี จบการศึกษาจาก คณะวิทยาศาสตร์บัณฑิต สาขาวิชาธรณีศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาเขตกาญจนบุรี ปัจจุบันประกอบอาชีพเป็นนักแสดงอิสระ และรับงานถ่ายโฆษณาทั่วไป
ภาพจากอีจัน
เธอมีความฝันที่อยากจะเป็นนางงามตั้งแต่เด็ก และเริ่มลงสนามเก็บประสบการณ์บนเวทีนางงามเล็กๆ มาตั้งแต่ อายุ 19 ปี ได้เรียนรู้และพัฒนาตัวเองจนคว้าตำแหน่ง มิสแกรนด์นครปฐม 2017 และเป็นตัวแทนของจังหวัดนครปฐม เพื่อไปประชันความงามบนเวทีระดับประเทศ สู้กับสาวงามทั่วประเทศกว่า 77 จังหวัด อย่างเวที มิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2017 สุดท้ายก็ไปไม่ถึงฝัน แต่ความเจ็บปวดในครั้งนี้ก็ไม่ได้ทำให้เธอท้อแท้ หรือสิ้นหวังกับการเป็นนางงามซึ่งเป็นความฝันของเธอตั้งแต่เด็ก
ภาพจากอีจัน
โอกาสที่ดีย่อมมีให้กับคนที่พยายามเสมอ ในปี 2017 เธอได้รับโอกาสเป็นตัวแทนของสาวงามจากประเทศไทยไปประกวดเวทีระดับนานาชาติ อย่างเวที Miss Cosmo World ที่จัดขึ้นที่ประเทศมาเลเซีย ด้วยความสวย และความสามารถจนทำให้เธอสามารถคว้าตำแหน่ง Miss Cosmo World 2017 และนำความภาคภูมิใจกลับมาให้ชาวไทยอีกครั้ง
ภาพจากอีจัน


ด้วยช่วงอายุที่ถูกจำกัดบนเวทีนางงาม ทำให้เธอต้องพับความฝันนี้ไว้ เนื่องจากหลายเวทีจำกัดอายุผู้เข้าแข็งขันไว้เพียง 25-26 ปีเท่านั้น แต่ปีนี้ 2020 หลายๆเวทีได้ขยายช่วงอายุให้เป็น 27 ปี จึงทำให้เธอนั้นมีความหวังและตัวสินใจลงประกวดอีกครั้งด้วยความหวังที่อยากจะคว้ามงกุฎในบ้านของตัวเอง เลยทำให้เธอตัดสินใจลงประกวด มิสยูนิเวร์สไทยแลนด์ 2020 ได้อย่างมีลังเล ด้วยทัศนคติและความคิดที่มากประสบการณ์ทำให้เธอนั้น ผ่านเข้ารอบ 30 คนสุดท้ายไปอย่างสวยๆ แต่สุดท้ายก็ไปไม่ถึงฝันได้เข้าไปถึงแค่ในรอบ 20 คนสุดท้ายในการประกวด มิสยูนิเวร์สไทยแลนด์ 2020 เท่านั้น

ภาพจากอีจัน
ในเมื่อปีนี้เป็นปีสุดท้ายของเธอ ก่อนที่จะถอดส้นสูงเก็บไว้กับการประกวดนางงาม ในครั้งนี้เธอตัดสินใจขอมาสู้อีกครั้งบนเวทีในตำนานอย่างเวที นางสาวไทย เวทีที่สาวๆหลายๆคนต่างหมายปองและคาดหวังกับเวทีนี้เป็นอย่างมาก เธอผ่านเข้ารอบ 30 คนสุดท้าย ถึงแม้ว่าเธอนั้นจะได้หมายเลข 13 ซึ้งเป็นหมายเลขที่หลายๆคนมองว่าเป็นเลขที่ไม่ค่อยมงคลสักเท่าไหร่ แต่เธอนั้นก็เชื่อมั่นในตัวเอง และศรัทธาในความมุ่งมั่นตั้งใจของตัวเอง จนสามารถเข้ามาในรอบลึกๆ และใกล้มงกุฎเข้ามาเรื่อยๆ และกวาดเรียบถึง 4 รางวัล ด้วยการตอบคำถามที่กินใจเลยทำให้เธอนั้นสามารถมัดใจคณะกรรมการ จนสามารถปิดม่านเวทีนางงาม คว้าตำแหน่ง นางสาวไทย ประจำปี 2563 มาครองได้อย่างสมศักดิ์ศรี และเป็นนางสาวไทยคนที่ 52 ของประเทศไทย
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน


นอกเหนือจากการได้รับมงกุฎ และได้ครองตำแหน่งนางงาม ตามที่เธอนั้นได้วาดฝันเอาไว้ เธอยังมีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ กับบทบาทการเป็น ทูตวัฒนธรรมเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และยังจะเป็นต้นแบบและเป็นแรงบันดาลใจให้กับสาวๆที่มีความฝัน เธอนั้นก็เป็นเพียงแค่หญิงสาวธรรมดาคนหนึ่ง ที่สามารถมาถึงฝันได้ด้วยความตั้งใจและพยายาม จึงอยากจะเป็นตัวอย่างให้ทุกคน เชื่อมั่นในตัวเอง และลุกขึ้นมาสู้ไปพร้อมๆกัน สักวันต้องเป็นวันของเรา