ทำไมโปงลางสะออน ถึง วงแตก อี๊ด ลาล่า ลูลู่ พร้อมเล่าแบบเปิดใจ

เปิดใจ ทำไมโปงลางสะออน ถึง วงแตก จากปาก อี๊ด ลาล่า ลูลู่ พร้อมเล่าวินาทีที่ อี๊ดติดคุกที่ฝรั่งเศส เกิดอะไรขึ้นกันแน่ มารู้ไปพร้อมๆกัน

กลับมารวมตัวกันอีดครั้งในรอบ 10 ปี สำหรับ อี๊ด, ลาล่า และ ลูลู่ แห่งวง โปงลางสะออน ซึ่งงานนี้ทั้ง 3 คนจะมา เปิดใจ ถึงเหตุผลที่ 2 สาว ตัดสินใจออกจากวง แถมยังโดนตราหน้าว่า เนรคุณ ไม่น่ารัก ผ่านทาง คุยแซ่บshow พร้อมเล่าถึงเหตุการณ์ ที่ทำให้ อี๊ด ติดคุกที่ฝรั่งเศส เกิดอะไรขึ้นกันแน่ มารู้ไปพร้อมๆกัน

-บางคนยังถาม ตอนนั้นที่แยกกัน เขาแยกกันทำไม?
ลาล่า : หนูอยู่กับ พี่อี๊ด มานาน เป็น 10 ปี ก่อนที่จะเซ็นสัญญาด้วยซ้ำไป มันเหมือนเราเห็นทุกอย่าง จนเราอิ่มกับเขา สนุกไปกับเขา มันถึงเวลาที่ต้องแยกย้าย เราต้องโตไปอีกสเต็ปนึงแล้ว
อี๊ด : มันมี 2 แบบ ตอบแบบดารา หรือแบบความจริง ถ้าดารา
ลาล่า : เนี่ยเราเป็นแบบนี้
อี๊ด : แล้วความจริง
ลาล่า : พี่อี๊ดอมเงิน

-แล้วความจริงจากคนนี้ล่ะ?
ลูลู่ : มันก็เรื่องเดียวกัน เรื่องเงิน ไม่ใช่หรอก ถ้าสมมติเราเรียนอยู่ประถม มันก็ต้องไปมัธยม ขึ้นไปเรื่อยๆ อยู่แล้ว มันต้องอยากเปลี่ยนโรงเรียนบ้าง แต่บังเอิญพ่อเราหวง ไม่ให้ไปนู้น ไปนี่ ต้องไปตามทางของเขา
ลาล่า : ต้องรายงานตัว แม้กระทั่งจะมีแฟน ครอบครัวของทุกบ้าน 20 กว่าชีวิต อยู่ในใจเขาหมด เขาจะเข้าไปดีไซน์ เข้าไปดูแล

-มีแฟนไม่ได้เลยเหรอ?
อี๊ด : มันไม่ขนาดนั้น ผมกำลังมองว่าคนที่เข้ามาจีบน้องๆ ส่วนมากจะมาแบบฉาบฉวย ส่วนมากก็ไป ผมมองว่าตอนนี้ทำงานเก็บเงินก่อน ถึงมีหนูก็ไม่ได้อยู่กับเขา ต้องเดินทางไปตลอดทุกวัน ที่สำคัญมันจะห่วงจะหวง เราดูแลก็ลำบาก คนในวงก็ไม่อยากให้เป็นแฟนกันด้วย เวลาเล่นคอนเสิร์ตเสร็จก็ห้ามไปเที่ยวไหนต่อ พอมีปัญหาขึ้นมา มันมีนามสกุล โปงลางสะออน ช่วงนั้นมันต้องดูแลภาพลักษณ์ให้บริษัทด้วย ให้วงด้วย มันไม่ใช่ห้ามหรอก มันเป็นกฎ
ลาล่า : ตอนนั้นเราไม่เข้าใจเขาด้วย เรารู้สึกว่าทำไมต้องหวงต้องห่วง
อี๊ด : เวลาคนไหว้หรือคนทักต้องรีบหันรีบไหว้ ต้องบอกเขาหมดเลย

-อึดอัดจน 2 คนมานั่งคุยกันไม่อยากอยู่แล้ว โปงลาง จะลาออก เราไปบอก พี่อี๊ด อย่างไร?
ลูลู่ : ตอนแรกคุยกับล่าก่อน ล่าเราอยากทำนู้น ทำนี่ แต่ พี่อี๊ด แกหวงแล้วแกห้าม ถ้าสมมติเรารับงานนี้ไป 2 คน แล้วคนอื่นจะอยู่ยังไง แต่เราอยากทำ อยากรับละคร อยากไปนู้น ไปนี่ อยากรับรายการ แต่แกไม่ให้เลย
ลาล่า : เขาจะต้องเล่นทั้งวงเท่านั้น ติดต่อเขาคนเดียวเขาก็ไม่รับ
อี๊ด : เรา 20-30 ชีวิตเนี่ย ถ้าขาดใครคนใดคนหนึ่งไป วงมันเล่นคอนเสิร์ตไม่ได้ อีก 20-30 กว่าคนเขาก็ไม่มีงาน พอไม่มีงาน เงินมันก็บริหารวงยาก ผมก็บอกบริษัท ถ้าไปอย่างน้อยก็อยากไปด้วยกัน อย่างหนัง แต่คนบริหารมันจะยาก มันจะมีที่ไหนรับไปเล่นทั้งวง

-ตอนนั้นกี่ชีวิต?
อี๊ด : เกือบ 30 ชีวิต ตอนนั้นอย่างโปงลางสะดิ้ง ลำซิ่งส่ายหน้า ตอนนั้นก็หาบทให้เล่นกันทุกคน ก็เป็นการบอกเหตุผลว่าทำไมพี่ไม่ให้ไปเล่นละคร ถ้าไปเล่นละคร 2 คนไปเล่น น้องๆ ทุกคนก็ไม่ได้ทำงาน ผมแค่เอาเหตุผลบอกให้ฟัง
ลาล่า : แต่เราไม่เข้าใจ

-หลังจากที่เราบอก พี่อี๊ด ไปแล้วว่าเราจะออกจากวง?
ลาล่า : ณ ตอนนั้นคิดว่าเขาเสียใจ พี่อี๊ด เป็นคนทำงานเก่ง แต่ พี่อี๊ด ไม่เก่งเรื่องบริหารจิตใจ เขาเป็นคนบอบบาง ไม่พูดจะให้ผู้จัดการวงมาพูดกับน้องๆ ว่ามันเป็นอย่างนั้นๆ นะ อะไรแบบนี้ แล้วเขาจะเป็นคนเสียใจง่าย เก็บทุกอย่างแล้วไม่พูด แม้กระทั่งตัวเองไม่สบายก็ไม่พูด เราไปเห็นอีกทีเวลาเราแสดงกับเขาเวลาอยู่ใกล้ๆ ตาแดง จับตัวร้อนเป็นไฟ ไม่สบายก็คือไม่บอกเรา จะไม่เอาความรู้สึกที่ตัวเองเสียใจบอกน้องๆ จะแสดงศักยภาพว่ากูทำงานเก่ง ไม่ให้น้องๆ เห็นว่าตัวเองอ่อนแอเลย

-ย้อนไป 10 ปีที่แล้ว การที่เราไม่อยู่ค่ายเดิมจะดูเป็นเด็กไม่น่ารัก อกตัญญู เนรคุณ แต่ถ้าเป็นยุคนี้เอาตามสะดวกเลย 10 ปีที่ผ่านมา 3 คนไม่ได้เจอ ไม่ได้คุยกัน ครั้งแรกที่มาเจอ มาคุยกัน เพราะอะไร?
ลาล่า : เราเจอกับ พี่อี๊ด ตอนที่แยกกันเลย พอไม่ได้เจอเราโคตรอยากวิ่งกอดพี่เขา แล้วอยากเล่าให้ฟัง
ลูลู่ : มันเป็นแบบนี้นะ เหตุผลที่เราออกไป
ลาล่า : แล้วหายไปอีกสักพักใหญ่แล้วกลับมาเจอ พี่อี๊ด ในช่องของเขา เรามาทำคลิปเปิดใจกันไหม
ลูลู่ : ถ้ามีอะไรก็คุยกัน เปิดใจเลย เพราะเราโตแล้ว ลู่ว่าว่าสมมติเราไม่ได้ก้าวออกมาจากตรงนั้น มันคงไม่ทำให้ทุกวันนี้ลู่กับล่าโตขึ้น ไม่รู้จักการรับผิดชอบ หรือการเป็นหัวหน้าหรือผู้นำ มันต้องใช้ยังไง ต้องทำยังไงบ้าง

-วันนั้นมันได้เคลียร์ โล่งไหม?
ลาล่า : โล่ง เพราะว่ามันมีช่วงที่เราได้เจอเขาบ้าง แล้วเราก็จำวันเกิดเขาได้ตลอด พยายามอยากที่จะไปหาในวันเกิดเขา ทุกครั้งที่เราสัมผัสเขาได้ตลอด เขาจะยกมือไหว้เราก่อน พี่ขอโทษนะ เราไม่รู้ว่าอะไรอยู่ในใจเขาที่มันรู้สึกผิดกับน้อง ความรู้สึกที่เขาพูดตลอด เขาอาจจะระเบียบกับเราเยอะเกินไป ทำให้เราไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาจะสื่อสารเราตลอด ซึ่งน้องจะดื้อ ด้วยความที่เขาเป็นผู้ชาย เราเป็นผู้หญิง เขาจะขอโทษ จะขึ้นต้นคำนี่ตลอด

-ตอนนั้นที่พี่เอ่ยขอโทษๆ พี่รู้สึกอะไร?
อี๊ด : พี่ไม่รู้ว่าน้องจะโกรธอะไรเรา มีอะไรที่เราทำไม่ดีหรือเปล่า เมื่อก่อนเป็นคนที่ระเบียบจัด นู้นนี่นั่น เพราะเป็นวงของเรา เราถึงทำแบบนั้น แต่ถ้าที่ผ่านมาเราทำอะไรให้น้องไม่พอใจพี่ก็ขอโทษ

-รุ่นใหญ่มาขอโทษเราก่อน ขอโทษหลายๆ คำด้วย เราฟังแล้วรู้สึกอย่างไง?
ลูลู่ : ได้ปลดล็อค ทุกสิ่งทุกอย่างเราได้บอกพี่ชายไปแล้วว่าสาเหตุที่เราออกไปมันเป็นแบบนี้นะ เราอยากโตขึ้น อยากทำงานในหลายด้าน เผื่อแบบออกจาก พี่อี๊ด จริงๆ เราก็ได้ทำอย่างอื่นนะ เราไม่ใช่รอให้พี่เขาป้อนให้เราอย่างเดียว มันรู้สึกว่าพอเรากลับมาตรงนี้อีกครั้ง เรารู้สึกว่าเราเป็นผู่ใหญ่ แล้วที่สำคัญพี่ชายคนนี้เปลี่ยนไปเยอะมาก เปลี่ยนไปเป็นคนละคน เขาเป็นผู้ชายที่ละมุนไปเลย ใจเย็น ฟังน้องเยอะ ไม่เหมือนแต่ก่อน เขาฟังแต่เขาไม่ทำ
ลาล่า : เคยเจอไหมคอนเสิร์ตจะขึ้นอีก 10 นาทีเปลี่ยนสคริปต์ใหม่ทั้งแผงเลย
อี๊ด : คือเวลานี้มันเลยมาแล้ว คืออารมณ์คนมันเบื่อแล้ว เราเลยต้องเปลี่ยน หรือแม้แต่เราไปเล่นคอนเสิร์ตใหญ่วงที่เล่นก่อนเราเป็นใคร เปลี่ยนสคริปต์ด่วนเลย มันอาจจะไม่ดี แต่มันก็เปลี่ยนได้ไม่ต้องไปล็อคปกติ
ลาล่า : บางทีดุน้องบนเวที ล่ากับลู่ยิ้มสู้ไว้ น้ำตาจะไหล

-พอเวลาเปลี่ยนไปก็เปลี่ยนไปเลย เห็นบอกว่าตอนนี้เป็นผู้ชายสายเคป๊อบไปแล้ว?
อี๊ด : เดี๋ยวนี้ขึ้นเวทีไปมึงจะทำอะไรก็ทำเถอะ
ลูลู่ : ยืนดูเฉยๆ ก็ยังมี

-สมัครก่อนบนเวทีถ้าใครทำผิดหักเงิน?
ลาล่า : ล่าลู่แสตนบายอยู่ข้างบันได 2 ข้าง จดแต้ม ขา กิ๊ฟ ปิ่น ดอกไม้ใครหลุด แม้กระทั่งตอนซาวด์เช็กทีละ 100
อี๊ด : เราเป็นคนทำดนตรีเองเราจะรู้
ลาล่า : คือต้องถึงพร้อมกัน นักดนตรีต้องเข้าเวลานี้ ทุกอย่างจัดสรร

-อยู่ด้วยกันมา 20 ปีรักกันมาก สมัยก่อนตัวติดกันไปไหนไปกัน แต่ทำไมโดนจับอยู่คนเดียว?
ลูลู่ : รักมากแต่ก็ทิ้งพี่ได้ตอนนั้นไปทัวร์คอนเสิร์ต
อี๊ด : ไปทัวร์คอนเสิร์ตที่ฝรั่งเศส จะไปดิสนีย์แลนด์ พาวงทั้งหมดไปเจ้าภาพเขาพาไป ด้วยความที่เราชอบถ่ายรูปซื้อกล้องใหม่ๆ ให้เด็กฝรั่งทารกดูดจุกก็ถ่ายไป 10 กว่ารูปจะเอากลับไปให้พ่อ แม่ดู สักพักการ์ดตัวใหญ่ๆ เดินมา 4-5 คน อุ้มผมไปเลยนะเข้าไปห้องลับ กดกล้องดูเขาลบหมดเลย สักพักตำรวจที่อยู่ข้างนอก ล็อคตัวผมไปนั่งในรถ เขาถามผมมาจากไหน ผมบอกไทยแลนด์ สักพักถึงโรงพักก็ล็อกผมลงไป เปิดประตูคุกเข้าไป เสร็จปิดประตูล็อก

-ระหว่างนั้นลาล่าลูลู่?
อี๊ด : ก็เล่นไวกิ้งของมัน คิดในใจไม่ห่วงกูเลย
ลูลู่ : เราไม่รู้
อี๊ด : ก็พี่คิดไง ไม่ถามหาหัวหน้าเลย หัวหน้าอยู่ไหน
ลูลู่ : ตอนเล่นเราแยกกัน เราไม่ได้ไปด้วยกัน พี่ไม่ได้ชอบขึ้นแบบเสียวๆ เพราะพี่หมดความเสียวไปแล้ว

-แล้วพอโดนจับแล้วทำยังไงต่อ?
อี๊ด : ผมก็นั่งนิ่งมองฝาผนังก็จะมีคนเขียน เหมือนเขามาที่นี่แล้ว คนนี้ประเทศนั้น ประเทศนี้เต็มไปหมด กูจะเขียนดีไหม มันมีหลายภาษา จะภูมิใจในตรงนี้ไหม แล้วมันมีดินสอวาง พี่ว่าจะเขียนแล้ว แต่ไม่ได้เขียน เพราะมันไม่ใช่เรื่องภูมิใจ อยู่ประมาณ 2-3 ชั่วโมง เปิดประตูให้พี่ออกไป เขาคงเอาพาสปอร์ตไปเช็กต้องใช้เวลา แต่คือมึงเอารถไปรับกูแล้วมึงไม่ไปส่ง งงเป็นไก่ตาแตก กลับยังไง เงินก็ไม่มี

-คุณเล่นกันนานมากเลยนะ?
ลูลู่ : นานมาก สนุกมากเลย
อี๊ด : คิดดูปล่อยผมหน้าโรงพัก ผมก็ไม่มีเงิน ผมจะพูดยังไงกับเขาดี ก็เลยเดินออกมาข้างหน้า ก็จะมีแท็กซี่ ก็โบกคิดว่าพอไปถึงที่นู้นน้องๆ เล่นกันเสร็จพอดี ก็บอกเขาไปดิสนีย์เขาบอกโอเค ดิสนีย์เวิลด์ ดิสนีย์แลนด์ ดิสนีย์สตูดิโอหรือดิสนีย์อะไร เอาล่ะกูมาจากดิสนีย์อะไร ปัญหามันมีเรื่อยๆ ก็บอกว่าดิสนีย์แลนด์คำเดียวเลย พอไปถึงข้างหน้ามันจะมีป้ายแลนด์เวิลด์จะแยกกันอยู่ ก็บอกเขาไปทางนี้ โกรธมาก เจ้าภาพทำไมไม่หาเราเลย
ลูลู่ : น้องก็ไม่ตาม
ลาล่า : คือเขาปล่อยเที่ยว นัดเวลากันว่ากี่โมงให้มารวมกันจุดนี้ ถ้ารอกันเดี๋ยวมันช้าจะเที่ยวไม่คบ
อี๊ด : ลงไปปุ๊บเจ้าภาพเดินมา ไปไหนมาพี่อี๊ด กูนั่งแท็กซี่ลงมามึงก็เห็น น่าจะสืบสาวราวเรื่องจากคนข้างในว่ากูยังไง

-โชคดีเจอเจ้าภาพอยู่หน้าดิสนีย์นะ เขาจ่ายเงินให้?
อี๊ด : เด็กๆ ก็อยู่
ลาล่า : คือได้เวลารวมตัวแล้ว

-แล้วไปรู้ตอนไหนว่าพี่เราไปติดคุกมา?
ลาล่า : เขามาเล่า
ลูลู่ : ก็เจอกันเขาเล่าให้ฟัง
อี๊ด : แล้วมันก็หัวเราะกันหมด โกรธก็โกรธ แต่ก็หันหน้าหนี อารมณ์นั้น
ลาล่า : แต่มีเด็ก backstage เดินตามเขาอยู่นะ แต่ไม่มีใครรู้ว่าเขาโดนรวบไปตอนไหน

-อีกหนึ่งสาเหตุที่กลับมารวมตัว เคลียร์ใจกัน เพราะกลัวคนจะลืม โปงลางสะออน ?
อี๊ด : คิดถึงแฟนคลับ ทั้งช่องเราก็พูดถึงตลอด อยากให้กลับมาทำเพลง กลับมาขึ้นเวทีอีก

-ก็มียุคใหม่มาด้วย ต้องพัฒนา?
อี๊ด : ใช่ แต่ผมจะไม่เอามารวมวงเหมือนเมื่อก่อน เราจะเอาเป็นฟรีแลนซ์มากกว่า 1.เขาต้องมีอย่างอื่นทำ ลาก็เอาคนนี้มาแทน ให้มันเป็นแบบนี้ดีกว่า เราก็สบายใจ ไม่ต้องไปอุ้มอะไรมาก

-อีกเรื่องนึงรู้สึกว่าดูแลเด็กใหม่ไม่เหมือนพวกเรา อย่างเช่นเรื่องอะไร?
ลาล่า : เรื่องของความเป๊ะ อืม…ไม่ต้องไปนี่หรอก สบายๆ
อี๊ด : ไปทัวร์คอนเสิร์ตนางรำก็จะซ้อมๆ กันแล้วลงมา ไอนี่ฤทธิ์เดิมจะออก ใช้ไม่ได้นะเนี่ย ไปเรียนมาจากไหน ทำไมยกขาแบบนี้ ชุดแบบนี้ไม่ได้เดี๋ยว พี่อี๊ด ด่า มันหลายๆ ครั้งเข้า ผมก็สังเกตอยู่
ลาล่า : พวกเขาไม่เข้าใจ เพราะเขาเพิ่งเจอเรา แล้วเราเก็บความเนี๊ยบมาจากเขาเต็มๆ 100% แล้วเรามองเห็นกับตาเลยว่าผ้าถุงก็ไม่เท่า มันไม่สวย มันไม่ใช่
อี๊ด : นี่มันไม่เข้าใจว่าเด็กมันเป็นฟรีแลนซ์มาเรื่อยๆ ไม่ใช่เด็กเก่าที่จะพูดอะไรก็ได้ เราก็เป็นห่วงน้องใหม่กลัวเขาไม่กล้ามาอีก ก็บอกล่าเดี๋ยวพี่คุยเอง ไม่เป็นไร

-พอมารวมตัวกันในรอบ 10 ปี ความรู้สึกลึกๆ เป็นยังไง โหยหาไหม?
ลูลู่ : ดีใจมาก 10 ปีที่เราไม่ได้อยู่ด้วยกัน ไม่ได้ขึ้นร้องเพลงด้วยกัน มันเป็นสิ่งที่มหัศจรรย์มาก เป็นภาพที่มันลบออกจากสมองไม่ได้หรอก ทุกคนเห็น อี๊ด ลู่ ล่า โปงลางสะออน อยู่แล้ว ถึงแม้ว่าเวลามันผ่านไป แต่เวลาที่มันหายไปตรงนั้นมันทำให้เรารู้ว่าเราต้องทำยังไง อะไรบ้าง เก็บประสบการณ์ทุกสิ่ง ทุกอย่างมาทำ

-ทั้งสองคนมีพวงมาลัยมาให้?
ลูลู่ : สิ่งที่ผ่านมาถ้าหนูทำอะไรผิดกับพี่ ไม่ว่าจะตั้งใจก็ดีหรือไม่ตั้งใจก็ดีที่ทำให้พี่ผิดหวังในตัวหนู หนูก็ขอโทษ หนูรู้ว่าพี่รักหนูแค่ไหน แล้วหนูก็รักพี่ขนาดไหน ขอบคุณทุกสิ่งที่สร้างหนูสองคนขึ้นมาทำให้ทุกคนได้รู้จัก ก่อนที่ก้าวออกไปทุกคนตราหน้าเราสองคนว่าเนรคุณ หนูไม่รู้ว่าจะพูดคำไหน ไม่อยากแก้ตัว แต่สิ่งที่หนูทำสองคนออกมาคือหนูไม่เคยลืมบุญคุณ หนูไม่เคยลืมคำว่า โปงลางสะออน เลย หนูต้องขอบคุณมากกว่าที่สร้างหนูมาจนถึงทุกวันนี้
ลาล่า : ล่าภูมิใจในพี่ชายคนนี้ ตั้งแต่เรียน จนเขาพาน้องๆ มาสู่ความสำเร็จวันนี้ เขาเป็นผู้ชายที่อเมซซิ่งสำหรับเรามาก เขาสามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตน้องหลายๆ คนให้อยู่สุขสบาย เปลี่ยนจากเด็กธรรมดา เปลี่ยนจากดนตรีพื้นบ้านให้กลายเป็นที่ฮิตสำหรับทุกโรงเรียน พาเราไปเที่ยว ไปแสดงหลายๆ ประเทศ ทุกครั้งที่เราพูดคำว่า โปงลางสะออน เรารู้สึกว่าเราภูมิใจ วันนี้ต่อให้หนูต้องจากโลกนี้ไป หนูรู้สึกว่ามันจะเป็นที่จารึกจดจำพี่ได้สร้างประวัติศาสตร์ให้กับคนทั้งโลกให้รู้จักคำว่า โปงลางสะออน

-พี่อี๊ดบอกอะไรน้องทั้งสองคนหน่อยได้ไหม?
อี๊ด : สองคนนี้เขาเป็นคนเก่ง เป็นคนมีของ พออยู่ด้วยกันเราจะรู้ว่าเขาเป็นยังไง ถึงจะไปอยู่ที่ไหน เสียงเป็นยังไง หั่นสับๆ มาก็จำได้ว่าคือเขา 2 คน เพราะอยู่ด้วยกันมาทุกช่วงอายุ เห็นวันนี้เขายืนได้ด้วยตัวเอง เขามีงาน มีการ มีธุรกิจของตัวเอง ผมก็ดีใจ มีความสุข ยังดีที่เรามีโอกาสได้ไปงานกันอยู่ อาทิตย์ละครั้ง สองครั้งก็ยังดี ได้พูดคุยกัน อย่างน้อยก็ทำให้แฟนเพลงที่เป็นแฟนคลับเราได้รู้ว่าน้องสองคนไม่ได้เป็นคนแบบนั้น ที่ผ่านมาสิ่งที่ทำให้น้องเสียใจ แฟนคลับก็จะรู้แล้วว่ามันเป็นยังไง มันจะเป็นแรงบันดาลใจ และเป็นแรงที่จะส่งให้หนูเจริญก้าวหน้าต่อไป ไม่ว่าอะไรก็แล้วแต่ถ้าหนูตั้งใจดี มีความจริงใจกับทุกอย่างที่ทำ พี่ว่ามันเป็นสิ่งที่ส่งให้หนูเจริญต่อไปในวันข้างหน้า

นับว่ามิตรภาพของทั้ง 3 คนยังคงแน่นแฟ้นอยู่มากๆ แม้ว่าจะมีเส้นทางเดินของตัวเอง แต่ก็ไม่ลืมเส้นทางเก่าที่พามาถึงจุดนี้