หมอปลาย พรายกระซิบ หน้าที่ที่ต้องทำ หลังมีเทพแฝงร่าง

​​หมอปลาย พรายกระซิบ หน้าที่ที่ต้องทำ จบ ป.เอก เพราะเทพวางแนวทาง

หลังจากที่เห็นผีแล้ว หมอปลาย พรายกระซิบ ยังเล่าต่อถึงการที่ต้องมารับหน้าที่ เป็นร่างให้เทพ เป็นมาอย่างไร และทำไมถึงต้องบวชเป็น ภิกษุณี รวมถึง หน้าที่ที่จะต้องทำ ทำอะไรบ้าง เจ้าตัวเล่าให้ อีจันบันเทิง ฟังว่า

“เริ่มแรกองค์ที่มาเปิดก็คือ พระศิวะ กับ พระแม่กาลี เสร็จแล้วก็จะมี พระแม่ทุรคา ท่านก็จะมาในช่วงที่เห็นผีเยอะๆ ท่านเข้ามาในบ้าน มาให้เห็นเลยว่าต้องเชื่อได้แล้ว ถ้าเธอร้องไห้ฉันก็จะร้องไห้เหมือนกัน เพราะฉะนั้นเธออย่าร้อง เพราะฉันจะร้องมากกว่า เราก็ตกใจที่ท่านพูดแบบนี้ แล้วเราก็ร้องไห้ จากนั้นท่านก็ร้องไห้หนักกว่าเดิม เราก็เริ่มตกใจกลัว มันมีแต่การร้องไห้อยู่อย่างนั้นพักใหญ่ ต่อมาก็มี พระกฤษณะ เข้ามาเป็นช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลงทุกอย่าง พิสูจน์ได้อย่างหนึ่งคือตัวหนูใหญ่ขึ้นมาก เหมือนผู้ชายมีกล้ามแล้วตัวก็ใหญ่บวม แม่ก็เลยลองพิสูจน์ โดยให้ไปลองเสื้อนักเรียนไซต์ผู้หญิงธรรมดาที่เคยใส่ได้ แต่กลับใส่ไม่ได้เลย พออีกวันหนึ่งเป็น พระแม่อุมาเทวี แม่ก็พิสูจน์แบบเดิมอีก ปรากฏว่าวันนี้ใส่ได้ทั้งที่ผ่านมาแค่ 1-2 วัน แล้วหลังจากนั้นก็เป็น พระแม่ลักษมี แล้วถึงจะเจอ ท่านยม ตอนสุดท้าย เหมือนทุกอย่างมันเปิดชัด เราเริ่มรู้แล้ว”

เคยถามไหมทำไมต้องเป็นเรา?

“เคยถาม แต่ก่อนท่านไม่บอก แต่พอเริ่มทำงานให้ท่านเยอะๆ ท่านก็บอกว่ามันไม่มีใครบ้าได้เท่าหนู ไม่มีใครที่พร้อมจะถวายชีวิตให้ท่าน อาจจะมีก็ได้ แต่ท่านเลือกเรา ท่านแค่บอกว่าท่านอยากได้ร่าง ท่านพูดแค่นั้น”

จะรู้ได้อย่างไรว่าองค์ไหนมาลง?

“เราจะไม่รู้เลยว่าองค์ไหนจะมาลงเรา แต่เวลาจะทำพิธีอะไรก็จะจุดธูปบอกท่านก่อน ก็จะมีเจ้าพิธี จะเป็นองค์ที่สำหรับทำพิธีมาลง แต่ถ้าเป็นเกี่ยวกับวิญญาณต่างๆ ก็จะเป็น ท่านยม ถ้าไปทำเสาเอก เสาเข็ม ก็จะเป็น พระกฤษณะ”

ปรับตัวนานไหมกับการเห็นผี และมีองค์?

“ตอนนั้นจัดการกับตัวเองนานมากเป็น 10 ปี จริงๆ ตอนนี้ก็ยังปรับตัวอยู่ เพราะว่าบางครั้งท่านก็ไม่ได้มาในรูปแบบที่ไม่เหมือนกัน บางครั้งก็เป็นเสียงมาก่อนถึงจะมาเข้า ก็เหมือนคนที่องค์ลงปกติ หรือบางครั้งก็มาให้เห็นเลยมาบอก มาคุย มาสอนเป็นเรื่องเป็นราว ท่านมาหลายรูปแบบ”

เคยดูดวงให้ตัวเองไหม?

“จริงๆ ดูได้แต่ไม่ชอบดู เพราะเรามีคติของตัวเอง เช่น เราคิดอย่างไร มีอคติกับใคร ก็เลยจะไม่ค่อยดูเท่าไหร่ กลัวว่าสิ่งที่เราดูมันเป็นอคติของตัวเองมากกว่า”

ทำให้ทำอะไรบ้าง?

“ช่วงแรกๆ ท่านให้ไปปล่อยผีกับพ่อและแม่ที่เมรุเผาศพ ไปจุดเทียน เดิน แล้วก็สวดมนต์ ทำอะไรก็ไม่รู้ตามที่ท่านทำ ก็ไปหลายคืน ท่านจะบอกตลอดว่าให้ทำอะไร แล้วท่านก็จะเข้ามา ตอนนั้นจากความกลัวก็ค่อยๆ หายไป มันก็เลยกลายเป็น เราเห็นว่ามีตรงนั้น ตรงนี้ เต็มไปหมด หลังจากนั้นก็จะมีตัดต้นไม้ใหญ่ ตามเรือนจำต่างๆ ที่เขาจะไม่กล้าตัดกัน เพราะกลัวว่าจะมีอะไรหลายอย่างเข้ามา แต่เราทำได้ ท่านยม ไม่เจรจา หยิบขวานมาท่านก็ฟันอย่างเดียว นักโทษเห็นยังตกใจ ทุบศาล ตอกโรง อะไรที่เขาทำไม่ได้ เราทำได้”

มีชีวิตอย่างไร?

“ชีวิตหนูขึ้นอยู่กับเทพ ท่านวางแผนชีวิตให้หมดทุกอย่าง ท่านให้ไปสมัครเรียนเทียบที่ รามคำแหง เรียนจบตอน ม. 6 ท่านก็เริ่มให้เรารู้จักกับตัวเอง ตลอดทั้งปี ปีนั้นเป็นปีที่เป็นเด็กดื้อ ต้องต่อสู้กับตัวเอง ที่บ้านมีปัญหา ทะเลาะ ร้องไห้กัน เพราะว่าองค์เข้า ต้องหาหมอ และไม่มีเพื่อน หลังจากนั้นท่านก็บอกให้ไปเรียนป.โท เราพยายามหนี้ แต่ก็จบ ป.โท ตอนอายุ 19 แล้วเราก็กลับมาเรียน ป.เอก จบตอนอายุ 25”

เห็นแบบไหน?

“บางทีก็เห็นเหมือนเป็นผ้าขาวบางผ่านตา บางทีก็ เป็นภาพเข้ามาในสมอง มีนิมิตหลายแบบ”

เคยทำนายแล้วไม่ถูกไหม?

“มันก็มีบ้าง เป็นเรื่องปกติที่พูดออกมาแล้วอาจจะทำนายไม่ถูก เพราะเราก็พูดเยอะ มันก็ขึ้นอยู่กับแต่ละคนว่าเขาให้ข้อมูลเรามากแค่ไหน ยิ่งเขาให้ข้อมูลเยอะเราก็สามารถทำนายอนาคตเขาได้แม่นขึ้น”

ควรดูดวงบ่อยแค่ไหน?

“การเปิดดวง ยิ่งเปิดบ่อยเท่าไหร่ ดวงจะช้ำ คำตอบจะเปลี่ยน แล้วก็จะไม่ตรง เราไม่สามารถบอกได้ว่าเรื่องนั้นจะเกิดในสามเดือน หกเดือน หรือหนึ่งปี เพราะแต่ละคนก็มีเรื่องแตกต่างกัน แต่เรื่องเดียวควรดูแค่ 2-3 แล้วเว้นไว้เลย ประมาณ 3-4 เดือน แล้วค่อยดูอีกรอบหนึ่ง แต่สิ่งที่เป็นกฎเหล็ก ที่เราจะไม่ดูเลย ก็คือเรื่องของอายุขัย เราจะไม่พูดเด็ดขาด เพราะเคยพูดแล้วเขาโดนลดอายุ มันเป็นกฎของข้างล่าง เราก็เลยไม่ทำ”

เคยท้อไหม?

“มันมีช่วงที่เหนื่อยมากๆ แต่ละคนเขาก็มาหา แล้วก็อยากดู ดึกแค่ไหนก็ยอม แต่ร่างกายเราไม่ไหว เขาก็บีบให้เราต้องดู ไม่ไหวก็รอก็ได้ พักก่อนอะไรแบบนั้น ซึ่งมันก็เกิดการท้ออยู่แล้ว”

ทำไมชอบดูเรื่อง การเมือง ?

“จริงๆ ไม่ได้ชอบดูเรื่อง การเมือง แต่พอตอบแล้วตรง คนก็เลยกลายเป็นเหมือน ปลาย ชอบ จริงๆ ชอบดูส่วนตัวมากกว่า ดวงส่วนตัว ดวงทั่วไป คนต่อคน เพราะรู้สึกว่าเราแก้ไขปัญหาให้เขาได้ ข้อมูลลูกค้าไม่หลุด แต่อะไรที่ต้องดูมวลรวม หรือว่า ดารา ก็ค่อนข้างที่จะเกรงใจ มันต้องใช้ชื่อนามสกุลวันเกิดเขา ก็ไม่อยากทำ เพราะว่าเขาไม่ได้อนุญาต”

ที่ต้องบวชเพราะป่วยหนัก?

“ช่วงหนึ่งป่วยหนักมาก เพราะดื้อไม่ยอมบวชตามที่ ท่านยม ขอ ฉีดยาอะไรทุกอย่างแล้วก็ไม่หายตอนเป็นโรค แพ้ภูมิตัวเอง หนักๆ เราก็ยังดื้ออยู่ เคยปวดข้อจนเดินไม่ได้ เป็น รูมาตอยด์ ขนาดหนักเลย ทุกข้อของนิ้วบวม ผื่นขึ้น กินยาเท่าไหร่ก็ไม่หาย หมอบอกว่าถ้าคุณยังไม่ลาออกจากงานก็ไม่มีทางหาย ร่างกายมันแย่ลง ตัวก็บวม หน้าบวมไปหมด ก็เลยรู้แล้วว่ามันจะไม่รอด แล้วก็เลยรีบบวชให้ ท่านยม ให้จบดีกว่า เพราะดื้อมาสองปี”

เป็น โรคซึมเศร้า ?

“ตอนนั้นเครียด นอนน้อย งานที่ทำมันกดดัน มันไม่ใช่แค่ปัญหาเดียวแล้วจบ แต่มันกลายเป็นปัญหาของคนอื่น ต้องช่วยเขาแก้ไขปัญหาภายใน 10 นาที วันหนึ่งดูเยอะแค่ไหนสมองเราก็ต้องใช้มากเท่านั้น ไม่มีเวลาให้ตัวเอง ไม่ได้กินข้าว ไม่ได้ผ่อนคลาย”

รู้ตัวตอนไหนว่าเป็น โรคซึมเศร้า ?

“เริ่มมารู้ตอนบวช จริงๆ ตอนบวชควรจะปล่อยวาง มันเป็นการปล่อยวางที่ทำให้เรารู้จิตของตัวเอง ว่าจิตเราเป็นอย่างไร เราเริ่มมีการแยกจิต ว่ามันเป็นแบบนี้ มีความรู้สึกแบบนี้ เราต้องการแบบนี้ แต่เราไม่เคยได้ สรุปแล้วมันไม่เคยมีเวลาให้ตัวเอง แล้วมันก็ไม่เคยรู้ว่าตัวเองชอบอะไร อยากกินอะไร อยากทำอะไร มันไม่เคยมีโมเมนต์นั้นมาเป็น 10 ปี ก็เลยรู้ว่าเราอาจจะเป็น ซึมเศร้า เลยไปพบแพทย์ แล้วก็ทานยาตามที่คุณหมอสั่ง พยายามเจอกับคุณหมอ คุยกับคุณหมอตลอด พยายามไม่ค่อยให้พ่อกับแม่รู้ เวลาที่มีอาการก็จะออกมาอยู่คนเดียวเลย ถ้าเป็นคนปกติเป็นแบบเรา อาจจะฆ่าตัวตายได้เลย”

เจอ ดราม่า เยอะมาก รับมืออย่างไร?

“เลือกที่จะไม่สนใจ พยายามไม่อ่าน ไม่ฟังให้ได้ยินกับหู ถ้าใครจะบอกให้ฟัง เราก็จะบอกว่าไม่ต้องบอก เพราะเรารู้อยู่แล้วว่าโดนด่า ถ้าฟัง เราไปไม่รอด เราจะอยู่ไหวไหม เราจะใช้ชีวิตข้างนอกอย่างไร มันจะมีแต่ความเสียใจตลอดเวลา ก็เลยช่างมัน ยอมรับว่ากลัว เพราะมันเคยมีเหตุการณ์ที่นั่งกินข้าว แล้วเราโดนด่า เป็นแบบนี้หลายครั้งที่เจอ”

อยากบอกอะไรกับชาวเน็ต?

“เราก็ทำหน้าที่ของเรา ไม่ได้ไปล่วงเกินใคร ก็อยากให้เข้าใจกันนิดหนึ่ง แต่ในขณะเดียวกัน ก็มีคนให้กำลังใจเยอะมาก รู้สึกขอบคุณ เพราะถ้าไม่มีกำลังใจจากทุกคน ในวันนี้ก็คงรู้สึกท้อแท้ และไม่มี หมอปลาย เช่นกัน”

นี่ก็เป็นเรื่องราวทั้งหมดของ หมอปลาย พรายกระซิบ ว่าที่มาที่ไป ทำไมถึงต้องเป็นร่างให้เทพ และยอมรับว่า การดูดวงทำให้เธอเครียดถึงขั้นเป็นซึมเศร้า แต่สุดท้ายก็ยังคงเดินหน้าช่วยเหลือคนต่อไปนั่นเองค่ะ

คลิปอีจันแนะนำ
เรื่องเล่าชวนขนหัวลุก จากประสบการณ์ตรง #หมอปลายพราบกระซิบ เจอผีที่ต่างประเทศ