เจนนี่ โต้ดราม่า บังคับเด็กเซ็นสัญญา ด้วยการขายครีมของตัวเอง

เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น โต้ดราม่า บังคับเด็กเซ็นสัญญา ด้วยการ ขายครีม ของตัวเอง บอกซีซั่นนี้อยากให้โอกาส ไม่ได้หวังกำไร

มี ดราม่า ให้ได้เห็นกันตลอดเลยทีเดียว สำหรับ นักร้อง และ เจ้าของค่ายเพลง อย่าง เจนนี่ รัชนก หรือ เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น ซึ่งตอนนี้ก็มีเรื่องเงื่อนไขการต่อสัญญาศิลปินในค่าย ที่ต้องทำยอดวิวบนยูทูบ ให้ถึง 10 ล้านวิว และอีกหนึ่งช่องทางอื่นคือ การไลฟ์ขายครีมแบรนด์ของตัวเอง อีกทั้งยังมีประเด็นที่ สาว เจนนี่ ไปเหมาปลาหมึกย่างของ เก่ง ลายพราง ซึ่งหลายคนมองว่าทำไมเจ้าตัวไม่เหมาของคนจนมาแจก

ล่าสุด มีโอกาสเจอตัวสาว เจนนี่ ในงานเปิดตัวแบรนด์ DD เจนนี่ DD Body Cream โดยเจ้าตัวก็ชี้แจงถึงเรื่องนี้ว่า วันนี้เปิดตัวแบรนด์แล้วก็แฮปปี้ ขอบคุณทุกการสนับสนุน เจนนี่ อยากจะทำอะไรก็ได้ที่ใช้แล้วเห็นผลเลย เพราะเราไม่อยากมีดราม่า คือ ดราม่า เยอะแล้ว เลยเอาเป็นดีดีบอดี้ ลองแล้วลองอีก ทุ่มทุนไปหลายล้าน

เจนนี่ : คือต้องยอมรับเลยว่าปีที่ผ่านมาน้องๆซีซั่น3 กระแสน้อยมากแล้วก็ รวมถึง YouTube ที่มันยากมากๆลงทุนไปประมาณเกือบ 20 เพลงแต่ยอดวิวรวมคือแบบว่าน้อยมากก็เลยพูดกับทุกคนตรงตรงว่าเราขาดทุนเยอะมาก แต่ไม่ได้เสียใจเพราะว่า ตั้งแต่เรามีข่าวกระแสซีซั่นที่แล้ว แล้วหนูได้ยินคำแนะนำจากผู้ใหญ่หลายๆท่านว่าถ้าจะทำค่ายคือต้องให้โอกาสจริงๆต้องทุ่มทุนจริงๆแล้วเราก็รู้สึกว่าโอเคเราก็ให้มาเต็มที่ จนมาถึงตอนนี้อีกสองเดือนน้องๆก็จะหมด สัญญาค่าย แล้วเพราะว่าสัญญา เจนนี่ แค่1ปี ที่สัญญาแค่1ปีเพราะว่า เราคิดว่าถ้าน้องเขาดังแล้วเขาอยากต่อก็ให้เขาต่อด้วยจิตใจของเขาที่อยากต่อจริงๆ แล้วถ้าเขาไม่ดังก็1ปีก็สมควรแล้วที่อยู่กันมา งั้นก็ให้น้องเขาเอาสิ่งที่ได้จากค่ายมาไปต่อยอดในชีวิตเอาเอง แล้วประเด็นที่มี ดราม่า ก็คือ 10 ล้านวิวใช่ไหมคะ เพราะเจนนี่ รู้สึกว่า ถ้าเราสู้กันถึงเพลงสุดท้ายเนี่ย เจนนี่ จะทุ่มให้อีกหนึ่งล้านบาท ถ้าเพลงนี้ยังไม่ได้10ล้านวิว เราก็ควรที่จะแยกกันได้แล้วเพราะ เจนนี่ ก็ไม่อยากดองน้องๆเอาไว้ บวกกับตอนนี้เรามีครอบครัวมีลูกที่ต้องดูแลทำให้เวลา ถ้าทุกคนสังเกตซีซั่นนี้ เจนนี่ อยู่กับเด็กๆ น้อยมาก การอยู่กับเด็กๆ น้อย ไม่ได้แปลว่าเราไม่มีตัวแทนนะคะ เรามีคนไปดูแลแต่ว่า เพราะมันไม่ได้อยู่ใกล้ชิดหนูมันก็ไม่ได้เป็นไปตามแพลนที่เราวางไว้ทุกอย่าง และน้องๆก็ดังได้ช้าลง เหมือนใครอยู่กับ เจนนี่ ถ่ายติ๊กตอกกันทุกวันกระแสก็จะดีนู่นนี่นั่น แต่พอเรามีครอบครัวมีลูกเราก็แบ่งเวลาค่ะ เราเลยรู้สึกว่างั้นเดี๋ยวมาวัดกันที่เพลงนี้ถ้าได้ก็ยินดีต้อนรับทุกคน แต่ที่ไปบอกว่า เจนนี่ บังคับให้เด็ก เซ็นสัญญา อันนี้ไม่จริงเลย มันเป็นเพียงพาดหัวข่าว ถ้าทุกคนเข้าไปอ่านเนื้อข่าวทุกคนจะเข้าใจว่า ถ้าเด็กได้ 10 ล้านวิว จะต่อหรือไม่ต่อก็ได้ค่ะได้ทั้งหมด เพราะว่าตั้งใจทำซีซั่นนี้อยากให้โอกาส100% ไม่ได้หวังผลกำไร แต่ทำไมต้อง10ล้านวิว 10ล้านวิวไม่ได้เงินกลับมาเป็นหลักล้านนะคะ ได้มาแค่หลักแสนสองแสน หนูต้องการแค่เงินทุนหมุนเวียนบ้าง ถ้าไม่งั้นเรายิ่งทำเรายิ่งแย่มันก็เข้าเนื้อเราไปเรื่อยๆค่ะ ก็เลยคิดว่างั้นเรามาทำโปรเจค10ล้านวิวกันดีกว่า

-หลายคนบอกว่าระยะเวลาน้อยไปหรือเปล่า ?

เจนนี่ : 2 เดือน น้อยค่ะมันจะหมดสัญญาแล้วด้วย แต่ก็ต้องทำใจกันตรงนี้

-มันเหมือนมิชชั่น ?

เจนนี่ : ใช่ค่ะ แล้วก็อีกอย่างนึงว่าทำไม เจนนี่ ถึงต้องมาประกาศให้ทุกคนรับรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะถ้าเราประชุมกันแค่เราหลังบ้านแน่นอนเราไม่มีกระแสเด็กๆก็ไม่เกิด เหมือน เจนนี่ อาจจะโดนด่านิดหน่อยให้คนเข้ามาชมเข้ามาอ่านแต่ว่าอย่างน้อยเด็กๆก็อาจจะแจ้งเกิดกับผลงานต่อไปนี้ก็ได้

-ที่ผ่านมาต้องลงทุนเท่าไหร่ ?

เจนนี่ : เพลงหนึ่งก็ 1 แสนถึง 3 แสนบาทค่ะ ต่อเพลงไม่รวมค่าไปออก คอนเสิร์ต แล้วก็ 8คนนี้ เจนนี่ ตั้งใจว่า 10 คิวแรกจะให้น้องๆไปโชว์ตัว จะให้ไปเล่นฟรีเจนนี่จะซัพพอร์ตค่าใช้จ่ายทุกอย่างทั่วประเทศไทยค่ะ

-เป็นข้อตกลงแรกหรือว่ามิชชั่นใหม่ ?

เจนนี่ : ข้อตกลงแรกคือ2เดือน

ยิว : เอาจริงๆอีก2เดือนก็จะหมดสัญญาทุกคนแล้ว แต่ว่าเหมือน Officer ที่ เจนนี่ แนะนำให้ครั้งนี้ เหมือนเป็นการเสนอทางเลือกให้น้อง น้องมีโอกาสได้ดังขึ้นมา ได้ต่อสัญญาเพิ่มมากกว่า

เจนนี่ : ใช่ เพราะว่าพอ เจนนี่ บอกว่าน้องๆอีก2เดือนสัญญาหมด มีน้องประมาณ 80% ที่ทักมาว่าผมไม่อยากไปไหน อยากอยู่กับพี่เพราะว่าเขาคิดว่าเขามาทางนี้แล้วอ่ะขออยู่ต่อได้ไหม คือถ้าคุณอยากอยู่ต่อจริงๆคุณก็ต้องแสดงศักยภาพให้เราเห็น โดยการช่วยกันมาทำให้เพลงนี้มันดัง แต่ถ้ามันไม่ดังมันสุดๆแล้ว มารอดูกันดีกว่าว่าพอหลังเพลงออกหรือว่าหมดสัญญาเจนนี่จะไปในทางไหนต่อเพราะว่าเราก็ไม่ใช่คนใจร้ายอยู่แล้ว

-ภารกิจนี้เรามีแนะนำยังไงบ้าง?

เจนนี่ : แน่นอนเลยคือทุกคนต้องแสดงตัวตนให้มากขึ้น เพราะว่าเดี๋ยวนี้ นักร้อง ที่เขาไม่มีค่ายหรือว่า นักร้อง อิสระ ทุกคนสามารถดังได้ด้วยตัวเองเลยเพียงแค่ทุกคนขยัน แล้วยิ่งพอเราค่ายซัพพอร์ตแล้วเรายิ่งต้องทำให้มากกว่าเดิม เพราะว่าถ้ารอแค่เจนนี่คนเดียว เจนนี่ ก็ไม่ทัน คือเราต้องแบบ 50 50 เลย คือต้องให้ทุกคนช่วยในการไลฟ์สดเอย ปั่นกระแสตัวเองเอย ทำให้ทุกคนเห็นว่าเขามีตัวตนเพราะว่าเป็นเรื่องสำคัญ เพราะถ้าคนไม่ดังเพลงก็ดันยากเหมือนกัน

-ถ้ายอดวิวมันเต็มขีดแล้วต้องถามตัวเด็กอีกไหม?

เจนนี่ : ถามแน่นอนค่ะ ถ้ายอดวิว10ล้านแล้วก็ถามอีกครั้ง ใครไม่ไปต่อไม่ว่าแต่ถ้าใครไปต่อก็ยินดีค่ะเพราะว่าในเมื่อเราพูดไปแล้วก็ต้องทำให้ได้ ไม่มีสิ่งไหนเลยที่ เจนนี่ บังคับและ เจนนี่ อยากให้ทุกคนเข้าใจว่า การทำค่ายเพลงเป็นอะไรที่เราต้องทุ่มเททุ่มใจและแล้วก็ลงทุนเยอะมากเหมือนกัน กับเด็กตอนนี้ที่อยู่กัน 12 คนเจนนี่ดูแลอยู่

-คำคอรหาและ ดราม่า ที่กล่าวมาบางคนมองว่าเป็นการทำนาบนหลังคน รู้สึกอย่างไรบ้าง?

เจนนี่ : ทำนาบนหลังคนน่าจะมากจาก ที่ เจนนี่ ให้น้องน้องขาย DDครีม และขายออร์เดอร์ละ 50 บาท คือ เจนนี่ แค่เสนอทางเลือกให้กับน้องๆบางคน มีทั้งคนที่พ่อแม่ป่วยรายได้ไม่พอ เราก็เลยบอกว่ามาขายสินค้าพี่ไหม ไม่ต้องลงทุนอะไรเลยพี่ส่งให้แพ็คให้ออเดอร์ละ50บาท ซึ่งเจนนี่มองว่าคนที่เค้าอยากได้โอกาสตรงนี้ เหมือนตัวแทนจำหน่ายเขาต้องมาเปิดบิล อย่างน้อย 2,500 เขาถึงจะได้ขายของเรา และพี่ให้ทุกคนในสิทธิ์ในการขายฟรี ใครจะขายก็ได้ไม่ขายก็ได้ก็ไม่ว่ากันแต่น้องลิลลี่ เป็นคนเสนอว่าแล้วถ้าน้องน้องเขาขายได้หมื่นหลอดล่ะ ถ้าเขาช่วยกันพี่ต่อสัญญาได้ไหม เราก็มองว่าโอเคถ้างั้นถ้าทุกคนทำได้ อยากได้ข้อเสนอทางเลือกเราก็เพิ่มให้อีก พอแล้วเพิ่มออกไปกลายเป็นว่าคนที่ไม่ได้เสพข่าว เขาก็จะมีดราม่าว่าสุดท้ายก็ให้ขายของตัวเอง แต่เจนนี่บอกว่าถ้าไปเปิดบิลแบนคนอื่นมาขายได้ไหม ได้ แต่ถ้าขายไม่ได้เราก็ขาดทุนอีก แต่นี่เรามีDDครีมของตัวเอง แล้วเจนนี่ไม่ได้มีติดตัวนะคะ เจนนี่ก็ขอซื้อจากตัวแทนในกลุ่ม เพื่อมาส่งให้น้องๆเอง เพราะว่าเราไม่มีของแล้ว

ยิว : มันเป็นการเพิ่มอาชีพ เพิ่มความสามารถให้กับน้องๆ เพราะว่าการเป็นนักร้องดังทุกวันนี้มันยาก และเหมือนถ้าจะเป็นนักร้องทางเดียวแล้วไม่ดังกลายเป็นว่าชีวิตหากินทางอื่นไม่ได้เลย อันนี้เหมือนเรามอบช่องทางการทำมาหากินในอนาคตให้น้องเขา

เจนนี่ : ใช่ แล้วหลายๆคนเคยสงสัยว่าทำไมเจ้าของค่ายถึงรวยอยู่คนเดียว เพราะอยากให้ทุกคนมองให้เห็นเป็นตัวอย่างว่าเจนนี่ไม่ได้ทำแค่อย่างเดียวทุกวันนี้หนูวิ่งงานเยอะมาก รีวิวสินค้า พิธีกร เล่นละคร รับจ้าง ไม่ว่าจะร้องเพลงงานคอนเสิร์ต งานเลี้ยงงานอะไรเราเอาหมด เพราะเราคิดว่าถ้าเรารอแค่งานร้องเพลงยังไงเราเองก็ไม่รอดเหมือนกันและครอบครัวเราต้องดูแลค่ะ

-ทำไมซีซั่นนี้ถึงไม่สำเร็จตามที่เราทำมา ?

เจนนี่ : มีคำตอบให้เลย ก็คือเด็กๆไม่ได้ใกล้ชิดกับเจนนี่ เหมือนทุกๆซีซั่น เหมือนซีซั่นอื่นมีดราม่าก็จริงแต่พอเราได้ใกล้ชิดกัน จะเล่นไลฟ์สดกันทุกวัน ได้ถ่ายติ๊กตอกกันทุกวัน คนก็จะตามมากขึ้น แล้วเหมือนเด็กๆพอไม่ได้เจอเจนนี่ ช่องเขาก็เพิ่งเกิด มันก็เลยดังยากนิดนึง บวกกับเพลงตอนนี้ที่เรามักจะฟังในแค่ติ๊กต๊อกแล้ว เราไม่ค่อยตามมาฟังในยูทูป และทุกวันนี้วิวในยูทูปปรับแล้วก็ขึ้นยากมากๆ มันก็เลยไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้แล้วก็เลยคิดในใจว่าจะดีกว่าไหมถ้าทุกคนเป็นอิสระ ก็นำสิ่งที่เคยได้จากค่ายไปพัฒนากันเองในชีวิตค่ะ

-ยืนยันว่าไม่ได้ทอดทิ้งเด็กแต่หาโอกาสให้เด็ก ?

เจนนี่ : ใช่ค่ะ แต่จริงๆถ้าสัญญาหมดเจนนี่ก็รู้สึกเหนื่อยเหมือนกันนะเพราะว่า คือเราทำค่ายอ่ะพอทำดีแล้วก็ไม่ค่อยได้ดีเพราะว่าคนเขาตัดสินเราจากเรื่องเก่าๆแต่พอทำให้ดีก็จะโดนด่าอย่างเช่น ถ้าไม่ต่อสัญญาคนก็จะมองว่าเราทิ้งเด็ก แต่พอเราต่อสัญญาแล้วถ้าสมมุติอยู่ไปแล้วมันไม่ดังขึ้นอีกอย่างนี้เราก็จะโดนด่าได้ค่ะ คือการที่ทำค่ายเพลงของเจนนี่มันใช้ใจและต้องทุ่มทุนจริงๆที่จะต้องทำต่อค่ะ

-แล้วที่ผ่านมาใช้เงินส่วนตัวอุ้มค่ายเยอะไหม ?

เจนนี่ : ก็เกือบ10ล้านค่ะ ทั้งที่อยู่ที่กินค่าใช้จ่ายแล้วก็ สร้างค่ายใหม่20ล้าน ตึกใหม่อ่ะค่ะเพื่อให้น้องๆได้มีที่อยู่ที่กินที่ดีขึ้น เพราะเราเคยมีดาม่าเรื่องที่นอนเด็ก ว่าเด็กนอนไม่สบายแต่เจ้าของค่ายนอนห้องแอร์สบาย เราก็ทำให้เพราะว่าอย่างที่บอกว่าอันไหนที่ปรับให้ได้คือปรับให้ แต่ถ้าอันไหนที่มันไม่ได้จริงๆเราต้องขอโทษด้วยค่ะ

-น้องซีซั่นนี้ตอบกลับอย่างไรบ้าง ?

เจนนี่ : ดีใจ แล้วก็บอกว่าถ้าไม่ถึง10ล้านขออยู่ได้ไหม ใจนึงเราก็เป็นคนสงสารคนอยู่แล้ว แล้วก็รู้สึกว่าค่อยตัดสินกันหลังเพลงออกดีกว่า คือกลัวมากกลัวว่ามีลูก คือจิตใจทุกอย่างไหนจะงานที่กรุงเทพ ไหนจะงานที่เราทำพิธีกรพอไม่มีเวลาให้เขาจริงๆอะเหมือนดองเขาไว้ แล้วทุกวันนี้การรับงานรีวิวสินค้าต่างๆ เจนนี่ไม่เคยหักเปอร์เซ็นต์เลย เพราะว่าเราคิดว่าเรามีมากพอแล้วเราไม่จำเป็นต้องมาหักสองสามพันหรือเปอร์เซ็นต์ของเด็ก ซึ่งสิ่งนี้ทุกคนมักมองไม่ค่อยเห็นแล้วก็จะมองแค่ว่าเจ้าของค่ายคนนี้มันมีประวัติไม่ดี มันเคยดูแลเด็กไม่ดีอะไรงี้ ไม่อยากให้ตัดสินกันแค่นี้ เพราะว่าทุกอย่างมันต้องใช้เวลา และเจนนี่ก็ใหม่มากสำหรับการทำค่าย ถึงตอนนี้เราพัฒนาตัวเองอย่างเต็มที่แล้ว แล้วก็ให้ทุกคนอย่างเต็มที่ที่สุดแล้ว

-กระบวนการทำเพลง?

เจนนี่ : เจนนี่เป็นคนช่วยดูให้ค่ะ แต่นี่ก็เป็นอีกเหตุผลนึงที่เพลงไม่ค่อยเหมือนซีซั่นที่แล้ว ซีซั่นก่อนเจนนี่เป็นคนกำกับให้เลือกให้ ดูแลเอ็มวีให้ตั้งแต่ถ่ายยันจบ แต่ซีซั่นนี้เจนนี่มอบหมายงานให้คนอื่นทำให้ แน่นอนว่าคือแนวค่ายเราคนอาจจะซึมซับมาจากเจนนี่ว่าต้องเป็นแนวนี้ แล้วพอไม่ได้เป็นไปตามที่เราวางไว้ เลยทำให้มันไม่ตรงคอนเซ็ปท์ ดังยากบ้างอะไรบ้าง

-รู้สึกเสียเครดิตไหม?

เจนนี่ : ไม่ได้รู้สึกเสียเครดิต รู้สึกสงสารน้องๆเพราะว่า ทุกคนอยากมาอยู่ที่นี่ทุกคนต่างจุดมุ่งหมายเดียวกัน คืออยากดังแล้วก็อยากมีเงินช่วยเหลือครอบครัวค่ะ บางครั้งก็ใช้เงินส่วนตัวในการช่วยเหลือไปบ้าง เวลาพ่อแม่เด็กป่วยหรือเวลาที่เดือนนั้นเป็นเดือนที่งานน้อยจริงๆคอนเสิร์ต น้อยมากจริงๆเราก็จะซับพอร์ทด้วยเงินส่วนตัวช่วยเลยค่ะ

-ตอนนี้ยังไม่รับศิลปินใหม่?

เจนนี่ : อุ้ย พอก่อนค่ะเพราะว่าที่มีตอนนี้เยอะแล้วก็คิดว่าต้องรอดูหลังสัญญาหมดค่ะว่าเราจะไปต่อกันยังไงแล้วก็อาจจะต้องมาจับเข่าคุยกันจริงๆว่าน้องๆอยากต่อจริงไหม เหตุผลเพราะอะไร ไม่ใช่ว่าเดี๋ยวพอมาต่อปุ๊บแล้วไปออกกลางคันอีก เราก็โดนอีกว่าค่ายนี้ มีแต่เด็กออกอะไรงี้ เราก็เสียชื่ออีก

-ตอนนี้เด็กในค่ายมีกี่คน ?

เจนนี่ : 12 คนค่ะ ใกล้หมดสัญญา 8 คน แล้วก็อีก 4 คน ที่จะได้อยู่อีก1ปีค่ะ 4คนคือซีซั่นที่แล้วที่เขาขออยู่ต่อ ซีซั่นที่แล้วไม่ได้ออกหมด ก็ยังมีคนที่เหลืออยู่

-ยังมีไฟในการทำค่าย ?

เจนนี่ : มีค่ะ แต่ถ้าถามว่าพอมันบาลานซ์เวลาแล้ว มันน้อยมากถ้าเปรียบเทียบกับซีซั่นที่ผ่านมา ด้วยความที่พอเรามีลูก เราก็แบบอะไรก็ลูกไปหมด เหมือนเราตั้งใจว่าจะไปคุมเอ็มวีเองนะแต่พอน้องยูจินรู้สึกป่วยหรือไม่สบาย เราก็จะเฟลไปเลยแล้วพอมอบให้คนอื่นไปทำมันก็ไม่ได้แบบที่เราคิด

-แสดงว่าหลังจากนี้ เจนนี่ จะลงเอง ?

เจนนี่ : ใช่ ก็ตั้งใจนะคะ 2 เดือนนี้ก็คือ อย่างน้อยน้องๆก็ต้องได้ออกรายการทีวี แล้วก็จะพาน้องน้องไปออกคอนเสิร์ตฟรี 10 คอนเสิร์ต คือน้อยๆต่อให้ไม่มีคนจ้างแต่เราก็ให้น้องๆได้ไปหาประสบการณ์แล้วก็ไปให้ทุกคนเห็นหน้าเห็นตากัน

-น้อยใจไหมกับการที่คนเอาเรื่องเก่าเก่ามาตัดสิน ?

เจนนี่ : ไม่ได้รู้สึกน้อยใจเข้าใจ แต่ว่ารู้สึกเหนื่อยมากกว่าเพราะว่าบางทีทำดีแล้วบางครั้ง มันก็ยังอยากได้คำชื่นชมบ้างหรือว่าบางทีไม่ต้องชื่นชมแค่ไม่ต้องซ้ำเติมกันก็พอ สุดท้ายแล้วพอเราตื่นเช้าวันใหม่เราก็หาย เพราะว่าเราก็มีครอบครัวมียิวมียูจินมีแม่มีลิลลี่ ที่แบบเป็นกำลังใจสำคัญอยู่ตลอดค่ะ

-รู้สึกว่าตัวเองแข็งแกร่งกับดราม่าที่เกิดขึ้นไหม ?

เจนนี่ : รู้สึกว่าแข็งมากแล้วก็รู้สึกภูมิใจมากๆ

-กระทบกับครอบครัวไหม ?

เจนนี่ : กระทบค่ะ แม่เครียด แต่เจนนี่ไม่เครียด คือแม่ มักจะบอกว่าทำอะไรก็ได้ที่อย่าทำให้ตัวเองเดือดร้อน คือแม่ไม่ใช่ว่าแกไม่รักเด็กนะแต่แกก็สงสารเจนนี่ คือพอเจนนี่เครียด ลูกเราก็ดูแลไม่เต็มที่ แกก็เลยบอกว่าพอก่อนไหมพักก่อนไหม เรานึกถึงโอกาสตอนที่เราอยากเป็นนักร้องแล้วเราไม่ได้เป็น แล้วเด็กเขามาพูดว่าผมยังอยากไปต่อผมยังขออยู่ แล้วเราคือรักเด็กทุกคน เขาก็เหมือนเป็นน้อ คือถ้าลิลลี่มาพูดแบบนี้ใครจะไปทิ้งลง ก็ต้องมาหาทางแก้ไขกันต่อไป

-อย่างเรื่อง ปลาหมึก ก็เป็น ดราม่า เหมือนกัน ?

เจนนี่ : ใช่คืองงมากอย่างแค่ปลาหมึก คนบอกว่าทำไมเจนนี่ไม่เหมาคนจนมาแจก เจนนี่ไม่ได้คิดถึงจุดนี้เลยว่าต้องเหมาคนรวยหรือคนจน คนดังหรือไม่ดังเจนนี่แค่คิดว่า เหมาเพื่อให้คนที่ไม่มีเงินได้กิน คือเจนนี่แค่คิดว่าไม่จำเป็นต้องเป็นปลาหมึกพี่เก่งก็ได้ หรือเป็นปลาหมึกอะไรก็ได้ที่คนอยากกินตอนนี้ อย่างถ้าพูดถึงปลาหมึกที่อยากกินตอนนี้คนจะพูดถึงปลาหมึกพี่เก่ง เพราะเขาดังจริงๆเราเองยังอยากกินเลย แล้วคนเงินเดือนหลักพันแล้วตัวละ120อย่างงี้ เขาก็คงจะทุนน้อย เราคิดแค่ว่าเหมาและให้ใครกินก็ได้ เราให้คนกินมีความสุข ลืมคิดไปในจุดที่ว่าทำไมไม่ไปเหมาคนนั้นคนนี้ คือเจนนี่ก็ทำนะคะแต่บางทีพอเราไปเหมาคนที่มันไม่ใช่คนดังมันไม่เป็นข่าวไง

ยิว : อยากให้โฟกัสที่จุดประสงค์มากกว่าว่าเราทำไปเพื่ออะไร ไม่ใช่มาจับผิดอะไรกัน

-พอมี ดราม่า เยอะๆมีผลกระทบต่อการมีลูกคนที่สองไหม ?

เจนนี่ : ดราม่าไม่มีผลค่ะแต่พอเป็นเจ้าของแบรนด์แล้วมีผลมาก ไม่ได้นอนเลย คือเครียดแล้วอยากให้ให้ตัวแทนทุกคนรัก คือส่งในกลุ่มทุกวันว่าอยากได้อะไรบอกนะคะ เราจะต้องอย่างนั้นอย่างนี้ก็อยาก ให้มันเป็นแบนแรกแล้วก็เป็นแบนด์ที่ทุกคนแบบว่าประมับใจที่สุดค่ะ ทั้งเรื่องการตลาดและตัวสินค้า

-ตั้งเป้าคนที่สองไหม?

เจนนี่ : ก็ตั้งเป้าคนที่สองตัวเองอยากมีตอนไหน อยากมีกี่คนนะ

ยิว : ก็อยากให้ยูจินเป็นพี่คนโต ไม่อยากให้เขาเป็นลูกคนเดียวกลัวว่าถ้าเขาเป็นลูกคนเดียวจะเอาแต่ใจ แต่ถ้าเขาเป็นพี่เราอาจจะสอนให้เขามีภาวะเป็นผู้นำ เขาจะได้ดูแลตัวเองได้ในตัวด้วย

เจนนี่ : และอนาคตจะได้มีที่ปรึกษา เหมือนเจนนี่มีแค่ลิลลี่คนเดียวเรารู้สึกเหงา คิดว่ายูจินควรจะมีญาติเยอะๆ

-น่าจะมีเกินสอง ?

เจนนี่ : อุ๊ย 3 4 งั้นเดี๋ยวกลับบ้านไปทำเลย คาดว่าจะมีประมาณ 3 4 คนค่ะ จะเลี้ยงที่กรุงเทพค่ะอยากซื้อสังคมให้เขา เรารู้สึกว่ากรุงเทพทางเลือกเยอะแล้วก็เหมือนเรื่องการศึกษาก็เป็นสิ่งสำคัญ เราเองตอนเด็กๆก็อยากเรียนนานาชาติมาก อยากมีโอกาสแต่เราไม่มี แต่วันนี้เรามีแล้วเราก็อยากทำในสิ่งที่เราไม่ได้ทำให้ลูก

-คนพูดว่าลูกเราน่ารัก ?

เจนนี่ : ใช่ ขอบคุณมากค่ะที่เอ็นดู แล้วก็กระแสดีมากเหมือนพาไปไหนคนก็จะ ยูจินไปไหนไม่มีใครถามหาเจนนี่ ถามหาแค่ยิวกับยูจิน

-น้อยใจไหมติดพ่อมาก ?

เจนนี่ : น้อยใจจริง

ยิว : ลูกเรียกป่ะป๊าเจนนี่น้อยใจมาก

เจนนี่ : คือแบบอยู่ในท้องเราเก้าเดือนแต่ทำไมปะป๊า

ยิว : ตอนนี้พูดได้แล้วนะ หม่ำหม๊ำ

-แบ่งกันอย่างไร ?

ยิว : อันนั้นมันคนละส่วนครับรักลูกกับรักเมียไม่เหมือนกัน แต่รมรวมคือรักครอบครัวเหมือนกัน

เจนนี่ : อุ้ยเขินจัง

เรียกว่า สาว เจนนี่ เคลียร์ชัดนะคะ ว่าไม่ได้บังคับเด็กในค่ายเซ็นสัญญา แค่ต้องการมีเงินหมุนเวียนในค่ายบ้างก็แค่นั้นเอง ทุกวันนี้มีแต่ให้โอกาสช่วยเด็ก ไม่ได้หวังกำไรจ้า ส่วนเรื่องดราม่าปลาหมึก ก็เขาเพลาๆหน่อยจ้า เพราะงงมากกันดราม่านี้

คลิปอีจันแนะนำ
เมญ่า ซันซัน เมินดราม่า หลังคว้ามงกุฎ Miss Fabulous