ใช้วันละ 5 บาท ชีวิตที่ แนท อนิพรณ์ เผย ชีวิตต้องสู้!

แนท อนิพรณ์ เผย ชีวิตต้องสู้! กว่าจะมีวันนี้ ผ่านอะไรมาเยอะ เคยต้องใช้เงินเพียง วันละ 5 บาท และ วิกฤตใหญ่ บ้านจะโดนยึด พร้อมเปิดเรื่องราวความรัก ที่ไม่ค่อยจะเปิดให้ใครรู้

หลายคนคงรู้จัก นางงาม และ นางเอก สุดสวย แนท อนิพรณ์ กันเป็นอย่างดี แต่อาจจะรู้กันไม่เยอะ ถึงช่วงชีวิตของเธอที่ ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบมาตั้งแต่เกิด

แนท อนิพรณ์ ต้องสู้ชีวิตมาตั้งแต่วัยเด็ก ทั้งทำงานบ้าน พร้อมกับทำทุกอย่างที่ได้เงิน จนกระทั่งเข้ามาเรียนต่อระดับปริญญาตรีที่กรุงเทพฯ เจ้าตัว ยังหารายได้เพื่อส่งตัวเองเรียนด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเธอเอง จนกระทั่งเมื่อเธอตัดสินใจตามล่าฝันในเวที มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2015 โดยนอกจากที่ แนท อนิพรณ์ จะคว้าตำแหน่ง มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2015 แล้ว ในเวทีเดียวกันนี้ แนท อนิพรณ์ ยังสามารถคว้าตำแหน่งพิเศษ Miss Smile ที่คัดเลือกจากสาวงามผู้เป็นตัวแทนรอยยิ้มจริงใจ สดใส สมาร์ท ทันสมัย ก่อนจะเป็นตัวแทนประเทศไทยไปประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2015 ที่สหรัฐอเมริกา และฉายแววโดดเด่นจนเข้ารอบ 10 คนสุดท้ายของการประกวด รวมทั้งได้รางวัลชุดประจำชาติยอดเยี่ยมมาครอบครอง จนเป็นนางงามขวัญใจชาวไทยอันดับต้นๆ

ล่าสุดกับการเปิดใจผ่านรายการ Club Friday Show แนท อนิพรณ์ ได้เปิดเรื่องราวในชีวิต พร้อมและเผยความรักแบบทุกซอกทุกมุมใน พร้อมเผยว่าก่อนที่จะประสบความสำเร็จชีวิตของ แนท ได้ใช้เงินวันละ 5 บาท ตอนเข้ามากรุงเทพฯ และเจอวิกฤตใหญ่จนบ้านจะโดนยึด และผู้หวังดีก็เตรียมทับถม

ถาม : กว่าจะมาถึงวันนี้ ชีวิตของ แนท เองก็สู้มาตลอด?

แนท อนิพรณ์ : คือหนูก็ไม่รู้ว่าเราสู้ชีวิตหรือเปล่า เพราะมันเป็นสิ่งที่เราทำมาตั้งแต่เด็ก เช่น ปลูกผักกินเอง ออกกำลังกายเพื่อที่เราจะได้ไม่ต้องป่วยเข้าโรงพยาบาลแล้วเสียเงิน และเราใช้เงินวันละ 5 บาท ตอนที่เข้ามากรุงเทพฯ ใหม่ๆคือ แนท มีกระปุกออมสินที่ แนท เก็บไว้ที่บ้านตั้งแต่เด็กๆเราก็คำนวณแล้วว่าในกระปุกออมสินมันต้องใช้ประมาณวันละ 5 บาทไม่เกิน 7 บาท มันถึงจะอยู่ได้ถึงหนี่งเดือน แล้วเพื่อน แนท เขาก็เอาข้าวมาแล้วก็กินน้ำกินอะไรเอาตอนนั้นเราก็คิดทำไมชีวิตมันรันทดจังเลย

ถาม : ภาพที่ทุกคนจำได้แล้วเป็นแบบตำนานเลย คือ ชุดประจำชาติ รถตุ๊กตุ๊ก ไทยแลนด์ ?

แนท อนิพรณ์ : ใช่ค่ะ เป็นชุดประจำชาติค่ะ

ถาม : แล้วตอนที่เข้าประกวดมั่นใจไหมว่าจะได้ ?

แนท อนิพรณ์ : (อย่าเกลียดหนูอีกเลย) มั่นใจมาก

ถาม : แล้วในความมั่นใจมหาศาลมีเผื่อใจไหม?

แนท อนิพรณ์ : เอาตรงๆเลยนะคะ ไม่มีได้เผื่อไว้เลยค่ะ ถ้าหนูไม่ได้ที่หนึ่ง เราก็จะสละสิทธิ์แล้วเราจะกลับมาใหม่เพื่อที่จะเอาที่หนึ่ง

ถาม : ถามถึงเรื่องหัวใจกันบ้าง สามารถจีบผู้ชายเองก่อนได้ด้วย ?

แนท อนิพรณ์ : ใช่ค่ะ ก็เป็นเพื่อนสนิทกันมาหลายปีเราก็จีบเขา เราก็เลยโทรศัพท์หาเขาเราเป็นแฟนกันได้ไหม เขาก็บอกว่าเป็นเพื่อนมันก็อยู่แล้วเปล่า แล้วอีกประมาณสามวันเขาก็โทรศัพท์มาเขาก็บอกว่าลองคุยกันใหม่ไหม เราก็บอกเขาว่าตอนนี้เราคิดกับเขาเป็นเพื่อนแล้ว และเราก็คุยกับคนใหม่ไปแล้ว

ถาม : แต่ แนท ก็ไม่เคยเปิดเผยเรื่องของความรักที่ไหนเลย ?

แนท อนิพรณ์ : ทุกคนจะคิดว่า แนท ไม่มีแฟนเพราะ แฟน แนท เป็นเด็กเราห่างจากเขาประมาณ 3-4 ปีเลย ตอนนั้นเขาเพิ่งจะ 16 แนท ก็ถามเขาตรงๆนี่เราตามจีบพี่ทำไมเนี่ย เขาบอกเราว่าคือผมคิดว่าในชีวิตผมอาจจะเจอผู้หญิงอีกหลายคน อาจจะดีกว่าพี่ สวยกว่าพี่ หรืออะไรก็ตามแต่ว่าคนที่ใช่ ถ้าผมคิดว่าถ้าผมปล่อยพี่ไปคราวนี้ ผมไม่มีทางได้พี่กลับคืนมาแน่ๆ วันนี้ ที่ผมเจอพี่แล้วผมขอทำเต็มที่ผมขอจีบพี่ผมไม่อยากปล่อยพี่ไป

ถาม : และก็เจอวิกฤตการณ์ใหญ่ๆ?

แนท อนิพรณ์ : คือมันก็เหมือนมี หมายศาล มาค่ะ ว่าจะมา ยึดบ้าน คือเราก็ช็อคก็ร้องไห้ก่อนอันดับแรก ด้วยความที่ตากับยายก็รู้ข่าวแล้ว เราก็บอกตายายว่าไม่ต้องเป็นห่วงนะ อยู่ในวงการมันก็ต้องมีข่าวเป็นธรรมดา ปรากฎว่าเขาเก็บเสื้อผ้ารอแบบนั่งกอดรอเลย และมีผู้หวังดีชาวบ้าน 4 ชาวบ้าน 5 เอ้า ! บ้านจะโดนยึดเหรอว่าแล้วต้องโดนยึด ก็เลยเป็นเรื่องที่ค่อนข้างใหญ่

ถึงแม้ช่วยวัยเด็กของ แนท จะต้องแบ่งเงินเพื่อที่จะให้อยู่ได่ถึงเดือน จึงต้องแบ่งใช้เพียงวันละ 5 บาท แต่นั่นก็เป็นการเรียนรู้ชีวิตและทำให้ แนท รู้คุณค่าของเงิน รู้จักประหยัด รู้จักใช้ มาจนถึงทุกวันนี้ ถึงแม้จะสบายขึ้นกว่าเดิมเยอะแล้ว แนทก็ยังไม่เคยใช้เงินฟุ่มเฟือยให้ใครเห็นเลย ขอชื่นชมนะคะ

คลิปอีจันแนะนำ
นาย ณภัทร เผยโมเมนต์สุดประทับใจกับ ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก