(3 ก.พ.65) เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม และตำรวจ กก.1 บก.ปทส. ร่วมกันจับกุม ร่วมกันจับกุม 2 ผู้ต้องหา
รายแรก นางสลัย อายุ 49 ปี
สถานที่จับกุม บริเวณที่ดินย่าน ถนนพัฒนาชนบท 3 แขวงคลองสองต้นนุ่น เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 3 ก.พ.2565 เวลาประมาณ 12.15 น.
โดยตรวจสอบพบว่า นางสลัย ซึ่งเคยถูกจับกุมในความผิดในลักษณะนี้มาแล้ว แต่กลับมาก่อเหตุซ้ำ ในที่ดินเนื้อที่ประมาณ 7 ไร่ ซึ่งจากการสอบถาม นางสลัยฯ ให้การยอมรับสารภาพว่าทำบ่อขยะมานานกว่า 2 ปีแล้ว โดยจะนำขยะมูลฝอยมาฝังกลบในที่ดินของเอกชน ซึ่งผู้ที่นำขยะมาทิ้งได้จ่ายเงินให้กับนางสลัยฯ รวมประมาณแล้ว 40-300 บาท ซึ่งหากขยะที่ทิ้งในที่ดินไม่สามารถคัดแยกไปขายได้ จะต้องเสียค่าทิ้งราคาแพงขึ้น นอกจากนี้ นางสลัย ยังให้การเพิ่มเติมอีกว่า ตนเพิ่งย้ายที่ดินในการทำบ่อขยะมาจากจุดเดิมที่ถูกจับกุมได้เพียงแค่ 3 วันเท่านั้น ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า นางสลัยฯ เคยถูกจับกุมมาแล้ว 2 ครั้ง เมื่อวันที่ 2 พ.ย.64 ที่บริเวณที่ดิน แขวงทับช้าง เขตสะพานสูง กรุงเทพมหานคร และเมื่อวันที่ 24 ม.ค.65 ในที่ดินบริเวณถนนศรีนครินทร์-ร่มเกล้า แขวงทับช้าง เขตสะพานสูง กรุงเทพมหานคร ในข้อหา “รับดำเนินกิจการสิ่งปฏิกูลหรือมูลฝอย โดยทำเป็นธุรกิจหรือโดยได้รับระโยชน์ตอบแทนด้วยการคิดค่าบริการ โดยไม่ได้รับอนุญาต” ตาม พ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ. 2535”
โดยได้แจ้งข้อกล่าวหาว่าผู้ต้องหาทั้งสองว่า “รับดำเนินกิจการกำจัดสิ่งปฏิกูลหรือมูลฝอย โดยทำเป็นธุรกิจหรือโดยได้รับประโยชน์ตอบแทนด้วยการคิดค่าบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต” ตาม พ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ. 2535
พฤติการณ์ ตามที่ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้มอบนโยบายแผนปฏิบัติการป้องกันปราบปรามการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) จึงได้มอบหมายให้ กก.1 บก.ปทส. ดำเนินการสืบสวน ปราบปรามผู้มีพฤติการณ์กระทำความผิดในลักษณะดังกล่าวในพื้นที่กรุงเทพฯ
รายที่ 2 นาย ทวี อายุ 41 ปี
สถานที่จับกุม บริเวณที่ดินภายในซอยหวังพูนสิน ถนนพัฒนาชนบท 3 แขวงคลองสองต้นนุ่น เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 3 ก.พ.2565 เวลาประมาณ 12.00 น.
ในส่วนผู้ต้องหารายที่ 2 นายทวี อายุ 41 ปี ชาว จ.ยโสธร ซึ่งทำบ่อขยะในที่ดินเนื้อที่ประมาณ 4 ไร่ แต่พึ่งถมขยะได้แค่ 3 งาน ซึ่งจากการสอบถาม นายทวี รับว่าได้ดำเนินการในลักษณะเช่นนี้มาประมาณ 7 ปี เปลี่ยนสถานที่ไปหลายแห่ง แต่เมื่อประมาณต้นเดือน พ.ย.64 ได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปทส. หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำตัวผู้ต้องหาทั้งสองดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
โดยได้แจ้งข้อกล่าวหาว่าผู้ต้องหาทั้งสองว่า “รับดำเนินกิจการกำจัดสิ่งปฏิกูลหรือมูลฝอย โดยทำเป็นธุรกิจหรือโดยได้รับประโยชน์ตอบแทนด้วยการคิดค่าบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต” ตาม พ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ. 2535
พฤติการณ์ ตามที่ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้มอบนโยบายแผนปฏิบัติการป้องกันปราบปรามการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) จึงได้มอบหมายให้ กก.1 บก.ปทส. ดำเนินการสืบสวน ปราบปรามผู้มีพฤติการณ์กระทำความผิดในลักษณะดังกล่าวในพื้นที่กรุงเทพฯ
สำหรับ “ปฏิบัติการ SHUT DOWN! บ่อขยะเถื่อนทั่วกรุง” ของทาง บก.ปทส. ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ โดยพบการกระทำความผิดจำนวน 23 จุด ทั่วกรุงเทพมหานคร แบ่งเป็นพื้นที่ดังนี้ เขตมีนบุรี จำนวน 3 จุด, เขตสวนหลวง จำนวน 1 จุด, เขตลาดกระบัง จำนวน 2 จุด, เขตคลิ่งชัน จำนวน 1 จุด, เขตประเวศ 2 จุด, เขตคลองสามวา จำนวน 3 จุด, เขตสะพานสูง จำนวน 5 จุด, เขตหนองแขม จำนวน 2 จุด, เขตสายไหม จำนวน 1 จุด, เขตภาษีเจริญ จำนวน 1 จุด
ตำรวจสอบสวนกลาง โดย บก.ปทส. จึงขอฝากเตือนพี่น้องประชาชนที่จะตัดสินใจซื้อบ้านจัดสรร หรือที่ดินตามพื้นที่ต่างๆ ขอให้ท่านตรวจสอบการก่อสร้างโครงการตั้งแต่เริ่มแรก โดยให้เดินทางมาดูการก่อสร้างในพื้นที่จริง ก่อนตัดสินใจซื้อ เพื่อจะได้ไม่ถูกหลอกขายที่ิดินที่ไม่มีคุณภาพ หรือที่ดินที่ถูกนำมาเป็นบ่อขยะ ซึ่งที่ดินลักษณะนี้อาจจะก่อปัญหาดินทรุด และน้ำท่วมตามมาในภายหลังได้ ทั้งนี้ในส่วนของประชาชนท่านใดหากพบเห็นการกระทำความผิดในลักษณะดังกล่าว ท่านสามารถเเจ้งเข้ามาได้ที่ บก.ปทส. หรือเพจเฟซบุ๊กตำรวจสอบสวนกลาง