เมื่อเช้าตรู่วันนี้ (7 พ.ค.64) เกิดเหตุพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงในพื้นที่ จังหวัดสมุทรสงคราม บ้านเรือน ร้านอาหาร ที่อยู่ริมทะเล พังระเนระนาด เกือบราบเป็นหน้ากลอง เเม้เเต่ป่าชายเลน ก็ถูกลมถอนราก ถอนโคน หลายร้อยต้น
ในส่วนของร้านอาหารที่เสียหายจากพายุ
นายธนธัส ขุนนุช รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสงคราม และนายศราวุธ กล้วยจำนงค์ นายกเทศมนตรีตำบลบางจะเกร็ง ได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบความเสียหาย บริเวณดอนหอยหลอด ซึ่งส่วนใหญ่ เป็นรร้านอาหารที่อยู่ริมทะเล เเต่ตอนนี้กลายเป็นซากปรักหักพัง
ตรวจสอบเบื้องต้น มีร้านอาหารพังอย่างหนักประมาณ 10 หลัง
ซึ่งจากการสอบถาม นายกเทศมนตรี ได้ข้อมูลว่า หลังจากนี้จะมีการพิจารณาให้ความช่วยเหลือตามกฎระเบียบต่อไป
ด้านคุณป้าวิเชียร คชสาร เจ้าของร้านอาหารน้องกุ้ง 2 ที่ตอนนี้พังเสียหายไปหมดเเล้ว ได้เล่าให้ทีมอีจัน ในจังหวัดสมุทรสงครามฟัง
พายุเเรงมาตอนประมาณ ตี 5 ลมมาเเรงมากก่อนจะมีคลื่นทะเลลูกใหญ่ซัดเข้าหาฝั่งจนร้านของตนเองพังเสียหายเกือบหมด ครั้งนี้พายุเเรงที่สุดเท่าที่เคยมีมา โชคดีที่ป้ากับครอบครัวตื่นเเละหนีออกจากร้านทัน ออกมาตั้งสติอยู่พักใหญ่
ป้าบอกด้วยว่า “พายุเป็นทุกข์ซ้ำก้อนมโหฬาร เพราะกำลังโดนผลกระทบจากโควิดเต็มๆ ในเรื่องห้ามนั่งทานอาหารที่ร้าน ยอดขายซบเซา เเล้ววันนี้ พายุพังร้านไปอีก”
ส่วน ตำบลบางแก้ว อำเภอเมือง นายวิสูตร นวมศิริ หรือผู้ใหญ่แดง อดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่ 10 ปัจจุบันเป็นประธานเครือข่ายชุมชนในการบริหารจัดการชายฝั่งตำบลบางแก้วและประธานกองทุนธนาคารต้นไม้ ได้พาผู้สื่อข่าวเดินสำรวจความเสียหายของพื้นปูนทางเดินริมทะเลที่ถูกคลื่นซัดพังเสียหายเป็นช่วงๆ รวมระยะทางกว่า 100 เมตร นอกจากนี้ยังมีต้นโกงกางอายุประมาณ 4 ปี ถูกคลื่นซัดจนถอนรากถอนโคน หลายร้อยต้น กระจัดกระจายไปทั่วบริเวณ ส่วนต้นโกงกางที่โตใหญ่แล้วก็ถูกพัดหักโค่น กิ่งฉีกหักอีกจำนวนมาก โดยพื้นที่ตรงนี้ เป็นการบูรณาการร่วมกันของทั้งประชาชน เเละหน่วยงาน เพื่อบำรุงพื้นที่ ให้เป็นพื้นที่ท่องเที่ยว เเต่กลับมาพังเสียหายชั่วพริบตา
อีจัน ขอเป็นกำลังใจให้ ชาวสมุทรสงครามทุกคนนะคะ ขอให้ผ่านวิกฤตชีวิตไปให้ได้โดยเร็ว